ในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) มีการเปิดเผยรายงานนโยบายด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์ (สทิป) ซึ่งเป็นบทวิเคราะห์เกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพเพื่อพัฒนากลยุทธ์และศักยภาพในการแข่งขันเกี่ยวกับประเทศไทย โดยมีคำแนะนำให้ไทยริเริ่มนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันในกิจกรรมที่มีการเพิ่มมูลค่าสูงและหลีกเลี่ยงการตกสู่กับดักรายได้ปานกลาง โดยเสนอแนวปฏิบัติสำหรับการพิจารณาของรัฐบาล 3 แนวทาง คือการส่งเสริมธรรมาภิบาลและการจัดการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (เอสทีไอ) , ส่งเสริมนวัตกรรม แนะนำกองทุนเพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา , และการยกระดับระบบการศึกษาเพื่อจัดหาทักษะเอสทีไอที่จำเป็นต่อเศรษฐกิจ
มาที่ข่าวอาชญากรรม พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลการจับกุมนายมาริโอ โจเอล เรเยส อายุ 63 ปี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปานาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ และนายมาริโอ จูเนียร์ เรเยส อายุ 54 ปี อดีตนายกเทศมนตรีจังหวัดปานาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ สองพี่น้องสัญชาติฟิลิปปินส์ ในความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตนั้นสิ้นสุด ตามลำดับ จับกุมได้ที่บ้านพักเลขที่ 80/21 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยทั้งสองคนยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลของประเทศฟิลิปปินส์ และมีหมายจับแดงของตำรวจสากล ในความผิดฐานจ้างวานฆ่าผู้อื่น โดยก่อเหตุที่ประเทศฟิลิปปินส์ ตั้งแต่ปี 2554ในการว่าจ้างสังหาร ดร.เจอราโด วี ออร์เทกา หรือ "ดอกเตอร์เจอร์รี" นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมที่ต่อต้านการทำเหมือง แร่ โดยจะมีการส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศฟิลิปปินส์ต่อไป
ยังมีกรณีที่นายปรีชา แก้วกระจ่าง อายุ 55 ปี อดีตกำนันตำบลปากนคร และอดีตนายกเทศมนตรีตำบลปากนคร จังหวัดนครศรีธรรมราช ยื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ถึงกรณีที่มีกลุ่มบุคคลแอบเข้าไปรื้อไม้อาคารสถานีตำรวจภูธร (สภ.ย่อย) ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยอ้างว่าประมูลไม้ได้ในราคา 10,000 บาท ซึ่งนายปรีชากล่าวว่า สภ.ย่อยแห่งนี้ก่อสร้างมาหลายสิบปี แต่ถูกทิ้งร้างในช่วงไม่กี่ปีมานี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามทางเจ้าหน้าที่ กลับไม่มีใครทราบเรื่องการประมูล ส่วนพ.ต.อ.ภูดิส ขอเวลาในการสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นเวลา 2 วัน เพราะอยู่ในข่ายความผิดลักทรัพย์ของทางราชการ
ส่วนปัญหาควันจากการเผาป่าในอินโดนีเซียที่พัดพามาถึงหลายจังหวัดทางภาคใต้ของไทย โดยเฉพาะที่จังหวัดพังงา มีประชาชนในหลายพื้นที่ของ อ.เมืองพังงา อ.ตะกั่วป่า อ.ตะกั่วทุ่ง อ.ท้ายเหมือง อ.ทับปุด มีอาการป่วย อย่างไรก็ตามทางสาธารณสุขจังหวัดพังงา แจ้งว่า ปัญหาควันไฟลดลงแล้วเนื่องจากมีฝนตก แต่ยังต้องทำความเข้าใจและแนะนำวิธีป้องกันต่อไป
ด้านปัญหานมโรงเรียน ซึ่งครูอาจารย์โรงเรียนบ้านน้ำลี ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น จ.น่าน ร้องเรียนว่า นมโรงเรียนที่ได้รับแจกเน่าเสียจำนวนมาก นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เปิดเผยว่า ในการตรวจสอบกรณีปัญหาการทุจริตนั้น คาดว่าจะใช้เวลารวบรวมข้อเท็จจริงประมาณ 1 เดือน จากนั้นจะสรุปข้อมูลเสนอต่อ ป.ป.ท. ชุดใหญ่ พิจารณาว่ามีมูลจะรับไต่สวนหรือไม่ ต่อไป นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบไปยังพื้นที่อื่นเช่นกัน โดยยืนยันว่าจะตรวจสอบให้ถึงที่สุดเพราะเป็นการทุจริตที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับผลประโยชน์ของเด็ก ๆ ส่วนกรณีครูที่ออกมาเปิดโปงปัญหาแล้วถูกข่มขู่ คุกคามนั้น ได้รับแจ้งว่ามีหน่วยงานในพื้นที่เข้าไปดูแลความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว
ด้านนายอำนวย ธงก๊ก ประธานชมรมนมคุณภาพ เปิดเผยว่า มีการหารือกับสมาชิกเพื่อเสนอ รมว.เกษตรฯ ให้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ และมาตรการเข้มงวดกับกลุ่มผู้ผลิตนมโรงเรียน โดยจะขอเข้าพบรัฐมนตรีภายในสัปดาห์นี้ เนื่องจาก พบปัญหาในการผลิตนมโรงเรียนไม่ได้คุณภาพในหลายพื้นที่ ในเบื้องต้นแนะนำให้เทนมใส่แก้วก่อนให้เด็กดื่ม
ส่วนปัญหาการร้องทุกข์จากรับบริการทางการแพทย์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นพ.อิทธิพล สูงแข็ง ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธีกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ในรอบ 10 ปีมานี้มีความขัดแย้งที่เข้าสู่การฟ้องร้องคดีอาญาเฉลี่ยปีละ 4 คดี คดีแพ่งปีละ 16-20 คดี ไม่รวมกรณีเยียวยาผู้รับบริการที่ได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาลตามมาตรา 41 แห่งพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ.2545 เนื่องจากประชาชนมีความคาดหวังสูงในการรับบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข อีกทั้งผู้รับบริการในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจำนวนมาก บุคลากรผู้ให้บริการต้องทำงานหนัก การพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ป่วยลดน้อยลง ทำให้เกิดความไม่เข้าใจระหว่างผู้ให้และผู้รับบริการตามมา โดยให้มีนักสันติวิธีประจำโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศกว่า 1,000 คน และให้ทุกเขตสุขภาพพัฒนาระบบบริหาร จัดการเรื่องร้องเรียนและความขัดแย้งทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยตั้งเป้าหมายยุติการร้องทุกข์โดยไม่มีการฟ้องร้องเป็นคดี ให้ได้มากกว่าร้อยละ 90
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ในวันนี้เป็นวันแรกที่สำนักงาน กสทช. เปิดให้รับเอกสารคำขอรับใบอนุญาต (เอกสารการประมูล) คลื่นความถี่ย่าน 900 MHz และเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามารับเอกสารการประมูลเป็นระยะเวลา 1 เดือน จนถึงวันที่ 21 ตุลาคม 2558 จากนั้นจะเปิดให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตพร้อมจ่ายค่าธรรมเนียม ในวันที่ 22 ตุลาคม 2558 เดิมเปิดให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตในวันที่ 26 ตุลาคม 2558