สรุปข่าว 19.35 น.
++++กรณีรัฐบาลเตรียมจะเอาผิดทางแพ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับผู้เกี่ยวข้องให้ชดใช้ค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า รัฐบาลใช้มาตรการทางปกครอง โดยมีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติกรณีเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องรับผิดเพราะกระทำละเมิด พ.ศ.2539 โดยจะตั้งคณะกรรมการความรับผิดทางแพ่งขึ้นมาตรวจสอบความเสียหาย ก่อนที่จะแจ้งผู้ถูกกล่าวหาว่าต้องชดใช้เท่าไหร่ ถ้าผู้ถูกกล่าวหาไม่เห็นด้วย ก็จะดำเนินการฟ้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว เมื่อถามว่าหากศาลปกครองพิจารณาว่าค่าความรับผิดทางแพ่งของน.ส.ยิ่งลักกษณ์ ไม่สูงถึงตัวเลขความเสียหายที่ป.ป.ช.พิจารณา จะทำอย่างไร นายวิชา กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของศาลปกครองสูงสุดชี้ขาด โดยกรณีนี้คล้ายกับคดีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง ซึ่งสุดท้ายศาลปกครองสูงสุดจะเป็นชี้ขาด
+++พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรมกล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการตั้ง น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร หรือตั๊นเป็นข้าราชการตำรวจว่า ตนไม่ได้รู้จักหรือสนิทสนมกับน.ส.จิตภัสร์แต่เห็นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นสิทธิส่วนตัวของ น.ส.จิตภัสร์ เนื่องจากพื้นฐานการศึกษาของน.ส.จิตภัสร์เองก็ดี เหมาะสม หากจะระบุว่าเคยเคลื่อนไหวกับกลุ่ม กปปส. จึงไม่เหมาะสม ก็คงต้องกลับไปแก้ไขระเบียบราชการ เพื่อประกาศให้ชัดว่า ใครที่เป็นแนวร่วม นปช. หรือ กปปส.ห้ามสมัครเป็นข้าราชการ ในฐานะ รมว.ยุติธรรมตนเห็นว่า กฎหมายควรถูกใช้อย่างเท่าเทียมกัน อะไรที่เป็นสิทธิของประชาชน ก็ต้องให้ความเป็นธรรม เมื่อถามถึงกรณี พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญรองผบ.ตร. เคยออกจากราชการไปลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นผู้ว่าราชการกทม.ในนามพรรคเพื่อไทยแต่เมื่อไม่ได้รับเลือกตั้งก็กลับเข้ามารับราชการตำรวจ ในตำแหน่งรองผบ.ตร. รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นสิทธิตามระเบียบ ที่ทำให้สามารถกลับมารับราชการได้ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมในเมื่อระเบียบบอกว่าทำได้เราจะบอกว่าไม่ได้ได้อย่างไร
++++ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ จะเสนอชื่อบุคคลเพื่อรับตำแหน่ง ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) สำหรับรายชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มีการเสนอชื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.เป็นผู้พิจารณา ขณะนี้ เหลือเพียงแคนดิเดต พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และนายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
+++นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการมูลนิธิมวลมหาประชาชน ปฏิรูปประเทศไทย สนับสนุนแนวทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ที่จะนำคนที่มีความรู้ความสามารถหลากหลายมาทำหน้าที่ขับเคลื่อนการปฏิรูป มูลนิธิฯเปิดโอกาสให้นักวิชาการและแกนนำของกปปส.สามารถสมัครเข้าไปเป็น สปท.ได้ หรือถ้าคสช.เห็นว่าคนไหนมีคุณสมบัติเหมาะสม ก็สามารถแสดงความประสงค์มาได้ ซึ่งมูลนิธิฯจะให้การสนับสนุน ส่วนข่าวที่มีชื่อนายวิทยา แก้วภราดัย กรรมการมูลนิธิ และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ จะเข้าร่วมเป็น สปท.ในนามตัวแทนมูลนิธิฯนั้น นายเอกนัฏ กล่าวว่า มีหลายคนต้องการเข้าร่วมสปท.ครั้งนี้ และหากมีนักวิชาการ หรือผู้มีความรู้ความสามารถจะสมัครในนาม กปปส.ก็ไม่ผิด และเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูป ส่วนนายวิทยาและนายอรรถวิชช์ ก็มองว่าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้ส่ง เรื่องบุคคล เข้าร่วม สปท. เพราะเป็นเรื่องมารยาท ซึ่งรายชื่อที่ส่งไปเป็นคนที่มีความตั้งใจผลักดันการปฏิรูปและเป็นผู้อาวุโส ส่วนกรณีที่เป็นข่าวว่านายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ จะไปเป็นสปท.ในนามของกปปส.นั้น เห็นว่าตอนนี้กปปส.กับพรรคประชาธิปัตย์แยกกันอยู่แล้ว แม้สมาชิกพรรคอาจอยู่ในองค์กรทั้ง 2 ส่วนนี้ แต่นายอรรถวิชช์ไม่ใช่ผู้อาวุโส และไม่ได้ส่งชื่อไป ซึ่งเจ้าตัวก็ต้องชัดเจน เพราะเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน ซึ่งการพิจารณาเป็นสิทธิ์ของพรร ค รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับรายชื่อ 2 คนที่นายอภิสิทธิ์ส่งให้กับคสช. คือนายกษิต ภิรมย์ อดีตรมว.ต่างประเทศ และนายถวิล ไพรสณฑ์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นอดีตส.ส.อาวุโสในจำนวน 11 คนที่ประกาศจะยุติบทบาททางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้า
+++ศาลจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี นัดสอบคำให้การจำเลยคดีเหตุระเบิด เซ็นทรัลพลาซ่าเกาะสมุย โดยคดีนี้อัยการศาลจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานีเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้ง 2 คนคือ อับดุลรอนิง ดือราแม และอับดุลเลาะ สาแม ได้กระทำผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย, ร่วมกันมีและใช้วัตถุระเบิดในการกระทำความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สิน, ร่วมกันพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ จำเลยทั้งสองปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา หลังสอบคำให้การเสร็จสิ้นศาลนัดตรวจบัญชีพยานหลักฐานในวันที่ 22 ธ.ค. 2558 เหตุนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2558 ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ4คน
+++ความคืบหน้าคดีฆาตกรรม นักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2557 ซึ่งมีนายวิน หรือ เวพิว และนายซอ หรือ ซอริน อายุ 21 ปี แรงงานต่างด้าวชาวพม่าเชื้อสายยะไข่ ตกเป็นจำเลย โดยก่อนหน้านี้ทางศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้นัดสืบปากคำโจทก์และจำเลย รวมทั้งพยานฝ่ายโจทก์และจำเลยไปแล้ว 2 นัด มีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางศาลจังหวัดเกาะสมุยนัดสืบพยานจำเลยเป็นนัดสุดท้าย เป็นเวลา 4 วันตั้งแต่วันที่ 22 -25 ก.ย.2558 นี้ ซึ่งพยานทั้งหมดเป็นทีมงานคณะทำงานของแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์มีทั้งหมอนิติเวช ฝ่ายเทคนิค และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับกระบวนการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอทั้งหมด โดยสืบพยานฝ่ายจำเลยทั้งหมดประมาณ 4-5 ปาก และจะเสร็จสิ้นกระบวนการสืบพยานทั้งหมดของคดีนี้ทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลย ซึ่งฝ่ายโจทก์สืบพยานเสร็จสิ้นไปแล้ว หลังจากนั้นศาลจังหวัดเกาะสมุยจะนัดตัดสินอีกครั้งหนึ่ง
+++การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ บริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BMCL)ทำพิธีรับขบวนรถไฟฟ้าสายสีม่วงล็อตแรกที่เดินทางมาถึงไทยแล้วที่ท่าเรือแหลมฉบัง โดยจะนำมาวิ่งช่วงบางใหญ่-เตาปูน มั่นใจสามารถเปิดทดสอบเดินรถได้ในปลายปีนี้ และเปิดให้บริการแก่ประชาชนได้ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2559 โดยขบวนรถไฟฟ้า 2 ขบวนแรก ที่จะนำมาให้บริการในระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-เตาปูน ถูกขนส่งจากท่าเรือเมืองโยโกฮามา ถึงท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรีแล้ว โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีรับรถ และหลังจากนี้ ขบวนรถที่เหลือจะทยอยเดินทางมาถึงประเทศไทยตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2558 จนครบทั้ง 21 ขบวนภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2559สำหรับโครงการระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน ซึ่งจะครอบคลุมทั้งหมด 16 สถานี ระยะทางทั้งสิ้น 23 กิโลเมตรบริษัท BMCL ได้รับสัมปทานสัญญา 4 จากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2556
+++นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังนายอากิระ มูราโคชิ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพ เข้าพบว่า หอการค้าญี่ปุ่นแจ้งให้ทราบว่า จำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยของนักลงทุนญี่ปุ่นที่ยังคงสนใจทยอยเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ต้องการเห็นรัฐบาลเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องไปเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้น ยังฝากให้รัฐบาลไทยเดินหน้าพัฒนาบุคลากรระดับอาชีวะศึกษาให้มีจำนวนมากเพียงพอต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และขอให้การเชื่อมโยงระหว่างประเทศในอาเซียนมีความสะดวกมากขึ้น เช่น ไม่ต้องเปลี่ยนรถบรรทุกเมื่อข้ามแดนไปอีกประเทศหนึ่ง พร้อมยังขอให้อาเซียนกำหนดมาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรมเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้ง 10 ประเทศ เช่น รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่มีมาตรฐานยานยนต์ และยางพารา
++++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดที่ 1,392.73 จุด เพิ่มขึ้น 2.41 จุด มูลค่าการซื้อขาย 27,879.03 ล้านบาท ดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในช่วงเช้าตอบรับเชิงลบตามตลาดหุ้นฝั่งยุโรป จากแรงกังวลเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วฟื้นตัวช้ากว่าที่ควรจะเป็น แต่อย่างไรก็ตามระหว่างการซื้อขายดัชนีฯ ปรับตัวขึ้น ตามตลาดหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะกลุ่ม TIP และเอเชียเหนือ ที่เริ่มเห็นสัญญาณไหลกลับของกระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติเป็นสัปดาห์แรก ในรอบ 9 สัปดาห์ ที่มีเงินไหลออกกว่า 3.3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งล่าสุด อีกทั้งภูมิภาคเอเชียยังได้รับประโยชน์จากสินค้าโภคภัณฑ์ราคาต่ำอีกด้วย
++++ดัชนีเซียงไฮ้ คอมโพสิตตลาดหุ้นจีน ปิดตลาด เพิ่มขึ้น 58.62 จุด ที่ 3,156.54 จุด
+++ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ลดลง 362.06 จุด ที่ 18,070.21
++++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 163.90 จุด ปิดที่ 21,756.18 จุด
+++ศาลสิงคโปร์ตัดสินจำคุกบุรุษพยาบาลชาวฟิลิปปินส์เป็นเวลา 4 เดือนฐานโพสต์ข้อความที่เป็นการดูหมิ่นชาวสิงคโปร์และโกหกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สอบสวน นายเอลโล เอ มุนด์เซล เบลโล อดีตลูกจ้างของโรงพยาบาลตันต็อกเส็ง วัย 29 ปี โพสต์ข้อความซึ่งเป็นการดูหมิ่นชาวสิงคโปร์เมื่อเดือนมกราคม และเรียกร้องให้ชาวฟิลิปปินส์เข้ามายึดครองสิงคโปร์ ผู้พิพากษาศาลสิงคโปร์ตัดสินจำคุกนายเบลโลเป็นเวลา 3 เดือนจากข้อความในเฟสบุ๊กของเขา และอีก 1 เดือนฐานโกหกตำรวจที่สอบสวนเขา ปัจจุบัน มีชาวฟิลิปปินส์อาศัยอยู่ในสิงคโปร์กว่า 170,000 คน ขณะที่ร้อยละ 40 ของประชากร 5.5 ล้านคนเป็นชาวต่างชาติ