เมืองไทยฯ(1);นายกฯวอนอย่าฟังคนบิดเบือน/คลังคาดศก.ขยายตัวร้อยละ3/สัปดาห์นี้กรธ.จะชัดเจนขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง หรือเทียบเท่า โดยเมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดเวทีจุดประกาย “สานพลังประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก” เพื่อประกาศการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประชารัฐ เพื่อเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นทางการ โดยในตอนหนึ่ง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ชุมชุมท้องถิ่นต้องมีความเข้มแข็ง มีการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชตามฤดูกาล โดยรัฐบาลจะส่งเสริมทางด้านการตลาดที่มีการเชื่อมต่อและพบกับผู้ค้าโดยตรง เพื่อสร้างเครือข่ายในท้องถิ่น สร้างความสมดุลราคาสินค้า และต้องมีการพัฒนาสินค้า ไม่เช่นนั้นจะแข่งขันกับนานาประเทศไม่ได้  ทั้งกล่าวด้วยว่า วันนี้การเมืองแรง เราต้องทำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็ง เราเป็นคนไทยอย่าไปฟังคนอื่นที่พูดจาบิดเบือนมาตลอด กฎหมายมีหน้าที่อยู่แล้ว

ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยขาดความสามัคคี เกิดความไม่สงบทางการเมือง จึงทำให้ประเทศไม่สามารถแข่งขันทางการค้าทั้งในและต่างประเทศได้ ดังนั้น ภาครัฐ เอกชน และประชาชนต้องผสานความร่วมมือกัน เพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ฐานรากให้มีความมั่นคง โดยจะจัดตั้งคณะกรรมการร่วมกัน 3 ภาค เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวหน้า

คณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ ที่มีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีคลัง เป็นประธาน ประเมินว่า จะมีเงินจากมาตรการกระตุ้นและการเร่งลงทุนที่รัฐบาลเร่งทยอยออกมาเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจากปัจจุบันไปถึงปีหน้า คิดเป็นวงเงิน 1 แสน 3 หมื่นล้านบาท และจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เพิ่มประมาณร้อยละ 1 คาดว่าจะช่วยทำให้เศรษฐกิจในปี 2558 ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 3 และทำให้เศรษฐกิจปีหน้าขยายตัวได้ร้อยละ 4 อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังเตรียมขอความชัดเจนจากรัฐบาลเกี่ยวกับนโยบายการออก พ.ร.บ. เพื่อให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อบริหารจัดการหนี้ วงเงิน  7 แสน 3 หมื่นล้านบาท โดยมีอยู่มากกว่า 1 แสนล้านบาท จะนำไปใช้หนี้ให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กับยังมีหนี้ของกองทุนประกันสังคมอีกประมาณ 5-6 หมื่นล้านบาท

ส่วนเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 คาดว่าในสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจนเรื่องที่ สนช.จะเป็นคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ กลับมาจากการประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่สหรัฐอเมริกา ก็จะดูภาพสุดท้ายอีกครั้งหนึ่ง โดยในขณะนี้มีหลายคนเสนอตัวเข้าเป็น กรธ.ผ่านนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช.คนที่ 2 ซึ่งจะมีการพูดคุยในวิป สนช. ในวันที่ 22 กันยายนนี้ต่อไป

โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่นิวยอร์กระหว่างวันที่ 23 กันยายน-1 ตุลาคมนี้

ในวันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) จะเป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 15/2558 โดยมีวาระสำคัญคือการแก้ไขคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งข้าราชการตำรวจในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บัญชาการ (ผบช.) ขึ้นไป วาระประจำปี 2558 และระดับผู้กำกับการ (ผกก.) และรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) จากกรณีการ ทลายเครือข่ายค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา เรื่องการขยายเวลาการดำเนินการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับผู้บังคับการ (ผบก.) และรอง ผบช.ออกไปจนถึงวันที่ 30 ตุลาคม นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โต้แย้ง เรื่องการจัดลำดับอาวุโสในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจวาระประจำปี 2558 และเรื่องการกำหนดตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)

และในวันนี้  น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร จะไปยื่นเรื่องขอถอนชื่อออกจากการสมัครเข้ารับราชการตำรวจ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ส่วนความคืบหน้า การสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดศาลท้าวมหาพรหมบริเวณแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร เมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 กันยายน ตำรวจมาเลเซีย เข้าตรวจค้นห้องเช่าหลายแห่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ตามที่มีเบาะแสว่าเป็นที่หลบซ่อนของผู้ก่อเหตุระเบิด สามารถควบคุมตัวชายผู้ต้องสงสัยตามตำหนิรูปพรรณของชายเสื้อเหลือง และขณะนี้อยู่ในระหว่างการส่งให้นายไมไรลี ยูซูฟู และนายอาเดม คาราดัก 2 ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวไว้ก่อนหน้านี้ชี้ตัว จากนั้นจะขอตัวผู้ต้องสงสัยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยต่อไป

*--*