การลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯลงมติเมื่อวันพฤหัสบดี คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายใกล้ร้อยละ 0 ต่อไป โดยอ้างถึงภาวะชะลอตัวของจีน ที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ การอ้างความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวเป็นปัจจัยในการยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ได้ก่อให้เกิดความวิตกแก่นักลงทุนและฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(18ก.ย.) ปิดลบอย่างแรงเช่นกัน ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 289.95 จุด ปิดที่ 16.384.79 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 32.12 จุด ปิดที่ 1,958.08 จุด แนสแดค ลดลง 66.72 จุด ปิดที่ 4,827.23 จุด
นักวิเคราะห์ บอกว่า การตัดสินใจของเฟดในการคงอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันพฤหัสบดี(17ก.ย.) แสดงให้เห็นถึงความกังวล เพราะเป็นการบอกเป็นนัยว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญปัญหา นอกจากนี้แล้วการไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย ยังสร้างความไม่แน่ใจแก่นักลงทุนถึงแนวโน้มนโยบายการเงินของสหรัฐฯ หลังก่อนหน้านี้เคยบ่งชี้ว่า จวนจะปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 2.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.68 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.61 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.47 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ตลอดทั้งสัปดาห์ขยับลงรวมร้อยละ 3.2
ราคาทองคำ ปิดสูงสุดเป็นลำดับ 2 ของเดือนกันยายน จากแรงหนุนที่เฟดคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไป โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 20.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,137.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์