+++สถานการณ์ฝนตกน้ำท่วม ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เตือน 14 จังหวัด เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม และระวังอันตรายจากปริมาณฝนตกสะสม ในภาคตะวันออกและภาคใต้ ได้แก่ จันทบุรี ตราด ระยอง ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล และสงขลา จากพายุหมุนเขตร้อนบริเวณจีนใต้ระบุหย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังจากพายุดีเปรสชัน “หว่ามก๋อ”VAMCO ที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ส่งผลกระทบมากในภาคตะวันออก ประชาชนที่อาศัยอยู่ในภาคตะวันออกเช่น ระยอง ตราด จันทบุรี ควรเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม
+++จังหวัดชลบุรี ยังมีฝนสะสมส่งผลให้น้ำท่วมหลายพื้นที่ เช่นเดียวกับประชาชนในหลายพื้นที่ของจังหวัดภาคใต้ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล และสงขลา
+++นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า พายุดีเปรสชั่น “หว่ามก๋อ” ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ยังคงมีฝนเป็นบริเวณกว้าง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ซึ่งตั้งแต่วันที่ 13 จนถึงวันนี้ 17 ก.ย. เกิดอุทกภัยใน 5 จังหวัด ได้แก่ ตาก จันทบุรี สุรินทร์ ศรีสะเกษ และชลบุรี รวม 8 อำเภอ 14 ตำบล 15 หมู่บ้าน
+++สถานการณ์รุนแรงในต่างประเทศ ความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวในชิลี หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 8.3 ทางตอนกลางของประเทศ เมื่อเวลา 19.54 น.ตามเวลาท้องถิ่นหรือราว 05.54 น.ตามเวลาของประเทศไทย สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า รัฐมนตรีช่วยความมั่นคงภายในของประเทศชิลี ระบุว่า มีการอพยพประชาชนราว 1 ล้านคน มีคนเสียชีวิตแล้ว 6 ศพ 3 ศพเสียชีวิตเนื่องจากโรคหัวใจ ส่วนอีก 3 ศพ เสียชีวิตเนื่องจากถูกผนังและเศษอิฐของอาคารหล่นทับ นอกจากนี้ มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 8 ศพ และเกิดแผ่นดินไหวขนาดย่อยตามมาอีกหลายสิบครั้ง ประชาชนในเมืองอิลลาเปลทางตะวันตกของประเทศต่างวิ่งออกจากบ้านเรือนมาอยู่ตามท้องถนนด้วยความตกใจ ในช่วงที่บ้านเรือนเริ่มสั่นสะเทือน ประชาชนหลายแสนคนในเมืองโกคิมโบไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ล่าสุด สำนักงานติดตามสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติของชิลี ระบุทางทวิตเตอร์ว่าขณะนี้รัฐบาลได้ยกเลิกคำเตือนเรื่องสึนามิทั่วประเทศแล้ว หลังออกคำเตือนเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้หลังเกิดเหตุ
+++อาคารสั่นไหวในหลายเมืองของชิลี และสั่นสะเทือนไกลถึงกรุงบัวโนส ไอเรสของอาร์เจนตินา ตอนแรกมีการแจ้งเตือนเรื่องคลื่นสึนามิตลอดแนวชายฝั่งของชิลี เปรู เกาะฮาวายและบางพื้นที่ของรัฐนิวยอร์คของสหรัฐฯและไกลถึงนิวซีแลนด์ เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้นับเป็นเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดครั้งที่ 6 สำหรับชิลี
+++ด้านประธานาธิบดีมิเชล บาเชเลต แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ระบุว่า เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ชิลีต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติที่รุนแรง และจะเดินทางไปติดตามและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยด้วย
+++นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และประธานคณะกรรมการรวบรวมความเห็นร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการทาบทามสมาชิก สนช.เข้าร่วมเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ซึ่งเห็นว่าควรจะมี สนช.เข้าร่วมอย่างน้อย 2-4 คน เพื่อเชื่อมโยงความเห็นต่าง ๆ ของ สนช.กับ กรธ. แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนเก่าที่เคยร่วมร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่แล้ว โดยบุคคลนั้นจะต้องมีความรู้ด้านกฎหมาย เคยร่างรัฐธรรมนูญมาก่อน รวมทั้งควรมีสายการเมืองการปกครองเข้าร่วมด้วย และที่สำคัญจะต้องมีความพร้อมทุ่มเททำงานในระยะเวลา 6 เดือนของการรับภารกิจ เพราะระยะเวลาการทำงานมีจำกัด คาดว่าจะสามารถส่งรายชื่อตัวแทน สนช.ให้นายกรัฐมนตรีได้ภายในวันที่ 22 กันยายนนี้ ทั้งนี้ส่วนตัวยืนยันว่ามีภารกิจมาก และไม่พร้อมที่จะร่วมทำงานในส่วนนี้ จึงขอเป็นเพียงผู้ประสานข้อมูลจะดีกว่า
+++ตลาดหุ้นไทยปิด1,389.70 จุด บวก7.90. จุด มูลค่าซื้อขาย 33,879.34 ล้านบาท หุ้นไทย ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นเอเซีย ตามราคาน้ำมันโลกขยับกว่า 2 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล นายถนอมศักดิ์ สหรัตนชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมีโก้ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้รับปัจจัยบวกจากคาดการณ์ว่า การประชุมคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด ) คืนนี้จะไม่ขึ้นดอกเบี้ย และราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นทำให้หุ้นกลุ่มพลังงาน เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของตลาดหุ้น ทิศทางตลาดวันพรุ่งนี้ ( 18 ก.ย.) ขึ้นกับผลการประชุมเฟดที่จะออกมา กรณีไม่ขึ้นดอกเบี้ยเชื่อว่าดัชนี SET น่าจะยืน 1,400 จุด ได้ และหากเฟดขึ้นดอกเบี้ย SET มีโอกาสร่วงลงมาสู่ระดับ 1,380-1,370 จุด
+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 260.67 จุด ปิดที่ 18,432.27 จุด ฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 112.03 จุด ปิดที่ 21,854.63 จุด เซี่ยงไฮ้ คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน ลดลง 66.20 จุด ปิดที่ 3,086.06 จุด
+++ตำรวจกองปราบ รวบคนขี่รถจักรยานยนต์ ยิงนายสมยศ สุธางค์กูร อดีตเจ้าของพระราม9 คาเฟ่ ได้แล้ว หลังหนีไปกบดานที่ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำตัวเข้ากรุงเทพ เค้นหาผู้บงการ พันตำรวจเอกจิรภพ ภูริเดช ผู้กำกับการ 1 กองปราบปราม ยืนยันว่า ขณะนี้ตำรวจกองปราบ ได้สนธิกำลังเข้าปิดล้อม บ้านพักแห่งหนึ่ง ในตำบล เขาน้อย อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังตามแกะรอยจน พบนายจิรพันธ์ หนูเทียน หรือ หนู ซึ่งเป็น 1 ใน ทีมสังหาร นายสมยศ สอบสวนเบื้องต้น ให้การรับสารภาพร่วมก่อเหตุจริง โดยนายชม ไชยณรงค์ หรือ อาจารย์ชม เป็นผู้ว่าจ้างในราคา 1 แสนบาท ให้มาขี่รถจักรยานยนต์ให้ นายภานุพงษ์ รัสนา มือปืน ก่อเหตุยิงนายสมยศ เสียชีวิตที่ร้านเฮงหูฉลาม ย่านพัฒนาการ เมื่อค่ำวันที่ 29 มิถุนายน
+++พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บังคับการกองปราบปราม(ผบก.ป.) ระบุคดีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขณะนี้สอบปากคำพยานแล้วกว่า 50 ปาก และเรียกพยานบุคคลที่ใกล้ชิดกับนายชูวงษ์ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ สอบปากคำเพิ่ม ยังไม่มีการพิจารณาออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติม คาดสรุปสำนวนคดีการโอนหุ้นช่วงต้นเดือน ต.ค. ขณะนี้อยู่ระหว่างรอตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับการโอนหุ้น การจดจำนองหุ้น และการจำนำหุ้นจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์( ก.ล.ต.)
+++บีบีซี รายงานอ้างตำรวจอินโดนีเซียว่า ตำรวจได้จับกุมผู้บริหารของบริษัท 7 แห่งที่ถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการลักลอบแผ้วถางและเผาป่าเพื่อเพาะปลูกพืชจำพวกปาล์มน้ำมัน กระดาษและเยื่อกระดาษ ในจังหวัดริเอา บนเกาะสุมาตรา และในจังหวัดกาลีมันตัน บนเกาะบอร์เนียว ทำให้เกิดปัญหาหมอกควันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนอีก 20 บริษัทและเอกชนรายย่อยอีกราว 140 คน ในช่วง 2-3 ปีมานี้ ปัญหานี้เริ่มรุนแรงหนักขึ้นเรื่อยๆหลังมีทั้งบริษัทขนาดใหญ่และเอกชนรายย่อยลักลอบเผาป่าขยายพื้นที่เพาะปลูกมากขึ้น เพื่อหวังทำกำไรในการค้า ตำรวจจับกุมแต่เฉพาะเอกชนรายย่อยเพียงไม่กี่ราย แต่การจับกุมผู้บริหารระดับสูงๆของบริษัทในลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและอาจจะมีโทษปรับถึง 1,500 ล้านรูเปียะห์และจำคุกนานถึง 15 ปี สำหรับปัญหาหมอกควันที่เป็นผลมาจากการเผาป่าเกิดขึ้นทุกปี แต่ปีนี้ถือว่าเป็นครั้งหนึ่งที่รุนแรงที่สุดในอินโดนีเซีย
CR:24Horas ,แฟ้มภาพ