*รอบวัน:ออกหมายจับเพิ่มอีก3 คดีระเบิดราชประสงค์ครบ 1 เดือน /กนง.คงดบ./ทีโอทีเร่งเรียกค่าชดเชยAISแก้สัปทาน*

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.

+++เหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์  17 กันยายนครบรอบ 1 เดือนเหตุการณ์ระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหมและท่าเรือสาทร  ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 20 ราย และบาดเจ็บกว่า 100 คน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ยืนยันถึงสาเหตุระเบิดดังกล่าวว่า เกิดจากทางการไทยไปทำลายเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์ ไม่เคยให้สัมภาษณ์ว่าเกิดจากสาเหตุที่รัฐบาลไทยส่งชาวอุยกูร์ 109 คนกลับไปจีน เพราะการดำเนินการของรัฐบาลไทยนั้นทำถูกต้องตามกฎหมายหรือหลักสากลแล้ว และเป็นไปตามกฎหมายสนธิสัญญาที่แต่ละประเทศมีต่อกัน

+++ส่วน สถานทูตตุรกีปฏิเสธการเดินทางเข้าประเทศของนายอิซาน พล.ต.อ.สมยศตอบว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน คือถ้าหลักฐานออกมาปรากฏว่าได้เดินทางออกจากไทยแล้วไปต่อที่ประเทศไหน เราก็ต้องขอความร่วมมือจากประเทศปลายทางประเทศนั้น เช่นบังกลาเทศ   ส่วนการควบคุมตัวนางปณิฐ์สรา ชาลีรัฐรมย์ อายุ 39 ปี ที่หอพักย่านดินแดงว่า คงเกี่ยวข้องเชื่อมโยงตามที่เขาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนที่เรียกรถแท็กซี่ให้ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุระเบิด จะต้องตรวจสอบเพิ่มเติมว่าผู้ประกอบการหอพักหรือผู้ที่ได้ประโยชน์จากขบวนการก่อเหตุระเบิด เช่น คนขับรถ หรือเจ้าของหอพัก เข้าไปมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ต้องดำเนินการฐานให้การสนับสนุนเช่นเดียวกัน

+++ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. กลับจากมาเลเซีย ได้พูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลหลายเรื่อง รวมทั้งผู้ต้องหาทั้ง 3 คนด้วย โดยตอนแรกทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของเราคิดว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้เป็นเรื่องเดียวกับเหตุระเบิดที่ไทย แต่พอไปคุยแล้วพบว่าเป็นผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมประท้วงในมาเลเซีย ส่วนในวันนี้ มอบหมาย พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจ (สบ 8) ไปประสานงานพูดคุยกับตำรวจมาเลเซียเพิ่มเติมในรายละเอียดเกี่ยวกับคดีระเบิดที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งการพูดคุยครั้งแรกได้พูดในประเด็นความเกี่ยวข้องของผู้ต้องหาทั้ง 3 คนที่ทางการไทยมีข้อมูลว่ามีส่วนนำพาผู้ก่อเหตุระเบิดหลบหนีด้วย แต่ยังไม่ยืนยันข้อมูล ต้องตรวจสอบต่อไป ซึ่งการไปครั้งนี้อาจซักถามผู้ต้องหาทั้ง 3 คนด้วย โดยได้ติวเข้มเจ้าหน้าที่ที่จะเดินทางไปอีกครั้งว่าขอบข่ายและขอบเขตของงานมีอะไรบ้างแล้ว

+++จากการสืบสวนสอบสวนมีความชัดเจนของชายเสื้อเหลืองและฟ้ามากแค่ไหน พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า หลังจากที่มีสื่อมวลชนเสนอข่าวจำนวนมากนั้นว่าเรามีข้อมูลว่าเขาอยู่ที่นั่น ก็ทำให้ผู้ต้องหาหลบหนีออกจากมาเลเซียไปแล้ว เพราะเขาก็ฟังและอ่านข้อมูลข่าวสารรู้เรื่อง  เมื่อสัปดาห์ที่แล้วยอมรับว่าการสืบสวนนั้นใกล้ถึงตัวคนร้ายเสื้อเหลืองแล้ว แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไป แต่ก็ต้องเดินหน้าสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีต่อ โดยชายเสื้อเหลืองมีความเชื่อมโยงกับนายเมียไรลี ยูซุฟู แน่นอน

+++พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น.กล่าวถึงการตรวจสอบพาสปอร์ต 251 เล่ม ที่เจ้าหน้าที่ทหารบุกค้นจากหอพักพลูอนันต์อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ว่า ได้มีเจ้าหน้าที่สถานทูตตุรกีมาให้ความร่วมมือตรวจสอบพาสปอร์ตด้วย ซึ่งจะพิสูจน์ว่าเป็นพาสปอร์ตปลอมหรือไม่นั้น ยังไม่ได้วินิจฉัยใดๆ เนื่องจากต้องนำไปตรวจสอบที่ตุรกีเพิ่มเติม  ด้าน พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ได้นำสำนวนคดีการตรวจค้นห้องพักนายอับดุล ตาวับ อายุ 40 ปี และนายบาร์กัต ไบก์ หรืออาลี อายุ 40 ปี ชาวปากีสถาน ที่จุฑาแมนชั่น ริมถนนอ่อนนุชซอย 44-46 ซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงในคดีระเบิด โดยเป็นหัวหน้าขบวนการค้ามนุษย์และพาคนร้ายหลบหนีออกนอกประเทศมาส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สน.หนองจอก เพื่อเตรียมอนุมัติออกหมายจับด้วย

++++ส่วนการออกหมายจับ น.ส.ปณิฐ์สรา ภรรยานายอับดุล ตำรวจได้ประสานขอตัว น.ส.ปณิฐ์สรา จากทหารแล้ว เพราะจากการสอบสวนน่าเชื่อว่าเชื่อมโยงกับคดีระเบิด แต่ยังไม่ระบุวันเวลาส่งมอบตัวที่ชัดเจน โดยขั้นตอนต่อไปพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ต้องมอบสำนวนส่งให้ สน.หนองจอกรวมสำนวน จากนั้นจึงขออนุมัติศาลออกหมายจับได้ต่อไป นอกจากนี้ ชุดสอบสวน บช.น.เตรียมเดินทางไปที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อสอบปากคำคนขับรถโดยสารประจำทางที่คาดว่าเป็นคนพาชายเสื้อฟ้าหลบหนีไปที่ชายแดนมาเลเซียอีกครั้ง

+++การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 6 ของปี 2558 มีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 เสียง ให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% เนื่องจากมองว่า ภาวะการเงินและอัตรา แลกเปลี่ยนยังเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันยังได้ปรับลดคาดการณ์ การเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้ลง จากเดิม ที่เคยประเมินว่าจะเติบโตได้ในระดับ 3% แม้ล่าสุดจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ภาครัฐออกมาต่อเนื่อง แต่ปัจจัยกดดันจากต่างประเทศมีความรุนแรงกว่า การประชุมครั้งนี้ ถือเป็นนัดสุดท้ายของนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ในตำแหน่ง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และเป็นครั้งสุดท้ายของ นายวิรไท สันติประภพ ในฐานะกรรมการ กนง. ซึ่งการประชุมครั้งถัดไป นายวิรไท จะเข้าประชุมในฐานะเป็น ผู้ว่าการธปท. คนใหม่ และมีตำแหน่งเป็น ประธาน กนง. ด้วย

++++นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน  กล่าวว่า เงินบาทที่อ่อนค่าไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนมากนัก โดยมองว่าปัจจัยสำคัญที่กำหนดการลงทุนในขณะนี้ไม่ใช่เรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนแต่มาจากปัจจัยด้านอื่น เช่น เรื่องการคาดการณ์ผลตอบแทนที่ได้รับ รวมไปถึงกำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมที่ยังเหลืออยู่ค่อนข้างมาก สำหรับสถานการณ์ด้านเสถียรภาพการเงินของประเทศนั้น นายเมธี กล่าวว่า มีประเด็นที่ กนง. จับตาอยู่บ้าง คือ ปัญหาหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่ถึงขั้นที่ กนง. ให้ความกังวลและเป็นห่วงว่าจะลุกลามออกไปจนทำให้เกิดปัญหาในเชิงเสถียรภาพขึ้นมา

++++นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงแนวโน้มการลงทุนและการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะยาวว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มดีขึ้น ทั้งในสหรัฐและยุโรป รวมถึงจีนแม้การเติบโตจะชะลอตัวลงแต่ยังเติบโตอยู่ในระดับ 7% ได้ โดยแนวโน้มเศรษฐกิจไทย แม้จะมีการประเมินว่าการเติบโตจะอยู่ในระดับที่ 3% แต่ยอมรับค่อนข้างเป็นห่วง ทั้งการส่งออกจากต้นปีที่ติดลบกว่า 4% และการลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอการลงทุนจากความไม่มั่นใจต่างๆ รัฐบาลเองคาดหวังจะกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านธุรกิจเอสเอ็มอีจากมาตรการระยะสั้น 1.36 แสนล้านบาทน่าจะช่วยสนับสนุนให้การเติบโตของเศรษฐกิจไทยกลับมาในระดับ 3 %ได้

+++คณะกรรมการบริษัท ทีโอที ได้ประชุมหารือเกี่ยวกับคำสั่งคณะรัฐมนตรี ให้เร่งรัดการดำเนินการเรียกค่าชดเชยจากการแก้ไขสัญญาสัมปทานครั้งที่ 6 และครั้งที่ 7 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินว่าเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) ใน วันที่ 16 ก.ย.  โดยได้มีการสรุปความเสียหายจากการแก้สัญญาสัมปทานว่าเป็นตัวเลขเท่าใด   ในสมัยนายจุติ ไกรฤกษ์ เป็น รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ประเมินความเสียหายไว้ 7.2 หมื่นล้านบาท และลดเหลือ 6 หมื่นล้านบาท ในสมัยนายพรชัย รุจิประภา เป็น รมว.ไอซีที แหล่งข่าวจากกรรมการบริษัท ทีโอที เปิดเผยว่า จะเร่งเรียกค่าเสียหายจากเอไอเอสให้ได้ภายในเดือนนี้ โดยให้รวมดอกเบี้ยค่าปรับ ร้อยละ 7  ต่อปี ตั้งแต่มีการแก้ไขสัญญาสัมปทาน หากไม่ดำเนินการจะถือว่า ละเว้นปฏิบัติหน้าที่  การแก้สัญญาสัมปทานครั้งที่ 6 ปี 2544 คือ ลดสัดส่วนแบ่งรายได้ แบบเติมเงิน จากร้อยละ 25 และร้อยละ 30 เหลือ ร้อยละ 20 ตลอดอายุสัมปทาน ส่วนแก้ครั้งที่ 7 ปี 2545 คือ หักค่าใช้จ่ายโรมมิ่งเครือข่ายให้กับผู้ให้บริการรายอื่น ก่อนนำมาคำนวณส่วนแบ่งรายได้ที่ต้องจ่ายแก่ทีโอที โดยสัมปทานเอไอเอสหมดอายุ 30 ก.ย. 58 กสทช.จะนำคลื่น900MHzจัดประมูลในเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ ตั้งราคาประมูลขั้นต่ำ 12,864 ล้านบาท กรณีมีผู้ประมูลมากกว่า 2 ราย หรือ 16,080 ลบ. กรณีน้อยกว่า 2 ราย

+++นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอไอเอส แจ้งว่า ไม่ได้กระทำการผิดเงื่อนไขสัญญาแต่อย่างใด และการแก้ไขสัญญาดังกล่าว ได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย และยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งจากทีโอทีแต่อย่างใด  วันที่ 16 ก.ย. หุ้นเอไอเอสลดลงหุ้นละ 4 บาท มาปิดที่ 236 บาท ขณะที่หุ้น INTUCH ลดลงหุ้นละ 1.25 บาท ปิดที่ 76 บาท

++++วันนี้ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม  คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)  ส่วน นายประสาร ไตรรัตน์วร กุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดงานสัมมนาวิชาการปี 2558 "เศรษฐกิจไทยกับบริบทใหม่ทางเศรษฐกิจ" ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์