หลังตุรกีปฏิเสธไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้าประเทศของนายอาบูดูซาตาร์ อบูดูเระห์มาน หรืออิซาน ผู้ต้องหาคดีระเบิดคนสำคัญที่ถูกออกหมายจับ พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ข้อมูลการเดินทางของนายอิซาน เป็นข้อมูลจากบังคลาเทศ อาจมีการเข้าใจคลาดเคลื่อนกัน จากนี้จะส่งข้อมูลของนายอิซานไปให้ประเทศตุรกีช่วยตรวจสอบ และหากพบว่านายอิซานเดินไปที่ประเทศตุรกีจริง การจับกุมอาจติดในเรื่องของสนธิสัญญาการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ที่ทางการไทยไม่ได้ทำไว้กับทางตุรกี จึงอาจจะต้องหาช่องทางอื่นต่อไป
ส่วนการส่งพาสปอร์ตของนายอาเด็ม คาราดัค ผู้ต้องหาที่ควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี กองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 ไปให้ตุรกีตรวจสอบ เป็นการส่งตรวจสอบเพื่อยืนยันว่าพาสปอร์ตดังกล่าวเป็นของจริงหรือไม่ หากไม่จริงก็จะต้องทำการตรวจสอบต่อเพื่อหาสัญชาติและประเทศที่แท้จริงของผู้ต้องหา
ส่วนคำให้การของนายอาเด็มที่ระบุว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อเหตุระเบิดนั้น ตัวเองไม่รู้สึกแปลกใจอะไร เพราะเป็นแนวทางการต่อสู้คดีของผู้ต้องหา และเป็นเรื่องปกติของผู้ต้องหาที่รับสารภาพในครั้งแรก แต่เมื่อมีทนายมาดูแลในส่วนของคดี ผู้ต้องหาจะกลับคำให้การ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลยืนยันการกระทำผิดว่านายอาเด็มมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีจริง เช่น สารระเบิดที่ตรวจพบบนเสื้อผ้า ส่วนพาสปอร์ตกว่า 200 เล่มที่ยึดได้จากการเข้าตรวจค้นพูลอนันต์อพาร์ทเม้น คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งในขบวนการลักลอบขนคนเข้าประเทศ
พล.ต.ท. ประวุฒิยังกล่าวถึงการเดินทางไปยังประเทศมาเลเซียของ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า เป็นการไปเพื่อประสานงาน และรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยที่ทางการมาเลเชียควบคุมไว้ ว่าทั้ง 3 คนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการช่วยผู้ต้องหาในขบวนการระเบิดหลบหนีออกนอกประเทศหรือไม่ หากเกี่ยวข้องจะสอบถามว่าช่วยผู้ต้องหาหลบหนีไปที่ใด