+++ความคืบหน้าการฟ้องแพ่งในคดีจำนำข้าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า กำลังสอบสวนหาหลักฐาน แต่จะฟ้องภายในปีนี้ เพราะต้องไปตรวจสอบทุกไซโล บางยุ้งข้าวเรียบร้อยแล้ว ต้องขออนุมัติจากอัยการสูงสุด เพื่อให้ขายข้าวได้ โดยคณะกรรมการตรวจสอบได้สรุปตัวเลขเบื้องต้นมาแล้วแต่ยังไม่ชัดเจน ในส่วนยุ้งข้าวที่ตรวจสอบไม่ได้ ที่กองข้าวพังลงมา ส่วนตัวเลขความเสียหายหลายแสนล้านบาท ตัวเลขขั้นต้น 5 แสนล้านบาท อย่างไรก็ฟ้องทัน
+++ความคืบหน้ากรณีศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เตรียมพิจารณารายชื่อข้าราชการที่พัวพันการทุจริตล็อต 3 พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) กำลังพิจารณา ไม่ได้ไปเร่งรัดการทำงานของหน่วยงานใด มีความพอใจการทำงานขององค์กรอิสระ และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
+++นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) เปิดเผยว่า การประชุม สนช.วันพรุ่งนี้ เรื่องสำคัญที่ต้องติดตามคือ การพิจารณาถอดถอนนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ตามที่(ป.ป.ช. ส่งสำนวนชี้มูลความผิดมาที่ สนช.กรณีร่ำรวยผิดปกติ จากการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน บ้านเลขที่ 5/5 ต.ไผ่จำศีล อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ตั้งแต่ปี 2541 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และมีการก่อสร้างต่อเนื่องในขณะที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว โดยปลูกสร้างแล้วเสร็จ เมื่อปี 2554 ซึ่งมีมูลค่า 16 ล้านบาทเศษ การประชุมในวันดังกล่าวถือเป็นการประชุมนัดแรก เป็นวาระเพิ่มเติมพยานหลักฐาน ก่อนที่จะนัดประชุมเพื่อให้คู่กรณีมาแถลงเปิดสำนวนในวันที่ 29 ตุลาคม
+++นายกลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์ วัย 58 ปี เข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยคนใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐฯ หลังวุฒิสภาลงมติรับรองนายเดวีส์ เมื่อเดือนก่อน ทำหน้าที่ต่อจากนางคริสตี เคนนีย์ ที่หมดวาระดำรงตำแหน่งไป เมื่อเดือนพฤศจิกายน สถานทูตสหรัฐประจำประเทศ ไทย เผยแพร่คลิปนายเดวีส์ กล่าวทักทายก่อนจะเดินทางมารับตำแหน่งช่วงปลายเดือนนี้ บนเว็บไซต์ยูทูบ นายเดวีส์ กล่าวในคลิปว่า ตนอยากรับฟัง และศึกษาความคิดเห็นของคนไทยในทุกภูมิภาค และเป้าหมายคือต้องการส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างสองประเทศให้มากขึ้น
+++นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ติดตามว่าที่ประชุมจะอนุมัติส่งเสริมการลงทุนด้านใดเพิ่มหรือไม่ หลังจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุนฉบับใหม่ ให้ทันสมัยและสร้างแรงจูงใจเกิดการลงทุนขึ้นจริง ด้วยการเพิ่มเงื่อนไขส่งเสริมการลงทุน ไม่ให้ขัดกับเงื่อนไของค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) เช่น เพิ่มสิทธิและประโยชน์ทางภาษีให้ผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุน
+++นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า ต่อไปหน่วยงาน กนอ. จะต้องถูกยุบ และจัดตั้งเป็นสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจพิเศษ (สนพ.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานแทน กนอ. เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษ อยู่ระหว่างรอกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอที่ประชุม ครม. เห็นชอบ.
+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แถลงผลการประชุมติดตามความคืบหน้าการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่อาคารพักรับรองโกษะโกมล ร่วมกับภาคธุรกิจ ระบุว่า ขณะนี้มีความชัดเจนในรายละเอียด เรื่องเเบ่งประเภทของอุตสาหกรรมเป็น 7คลัสเตอร์ เช่นอุตสาหกรรมไอที ชิ้นส่วนยานยนต์ สิ่งทอ แปรรูปสินค้าเกษตร เครื่องใช้ไฟฟ้า ปิโตรเคมี และสินค้าพิเศษเรียบร้อยเเล้ว และในวันนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะนำข้อมูลทั้งหมดประชุม ร่วมกับนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุมัติในรายละเอียด โดยจะคำนึงถึงประชาชนในพื้นที่จะได้รับประโยชน์ และ ภาคเอกชน ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ ในโครงสร้างพื้นฐาน และพื้นที่ที่จะนำอุตสาหกรรมลงในแต่ละพื้นที่อย่างไรบ้างด้วย การร่วมลงทุนในส่วนของภาคเอกชน รัฐบาลกับภาคเอกชนจะร่วมหารือกันในระยะต่อไป นอกจากนี้จะมีการเพิ่มมาตราการเข้มงวด เขตเศรษฐกิจพิเศษพื้นที่จังหวัดที่ติดกับชายเเดนให้มีความเข้มงวดยิ่งขึ้น เช่นจังหวัดเชียงใหม่ เเละ จังหวัดสระเเก้ว เนื่องจากมีด่านเข้าออกสำคัญ รวมถึงงานด้านสาธารณูปโภคด้วย
+++ติดตามที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันนี้ ที่มีแนวโน้มจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.5 เพื่อรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ในวันที่ 16-17 ก.ย.
+++สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดงาน มหกรรมวิเคราะห์การลงทุน ตั้งแต่ 16-18 ก.ย.
+++การลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ นักลงทุนจับตาดูการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้อย่างใกล้ชิด ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอล่าสุดของสหรัฐ อาจทำให้เฟดใช้เป็นเหตุผลที่จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ โดยข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าวรวมถึง ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ที่ขยับขึ้นเพียง ร้อยละ 0.2 ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3
+++ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่ง EIA จะเปิดเผยในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย ขณะที่เทรดเดอร์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบปิดร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ ปิดที่ 44.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ ปิดที่ 46.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
+++สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,102.60 ดอลลาร์/ออนซ์