*นายกฯย้ำต่อที่ประชุมครม. ไม่ได้ต้องการขยายเวลา โรดแมพ ขอคนไทยเข้มแข็ง อย่าขยายค.ขัดแย้ง*

หลังการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. สภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือ สนช. พล.ต.สรรเสริญ แก้วหน้าเหนิด โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม อนุมัติตามโดยขอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการในระดับต่างๆเพื่อจะดำเนินการจากโครงการพระราชทานความช่วยเหลือประเทศกัมพูชาตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา สยามบรมราชธานี ในเรื่องให้การช่วยเหลือสนับสนุนด้านการศึกษาในจังหวัดกำปงสะปือ ประเทศกัมพูชา ซึ่งจะการลงนาม mou ของระหว่างไทย - กัมพูชาต่อหน้าพระพักตร์

 นอกจากนั้น ยังได้อธิบายโรดแมพให้ผู้เข้าร่วมประชุมทราบ ย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้ประสงค์ยืดเวลาออกไป และตั้งใจแก้ปัญหาให้เสร็จสิ้นให้เร็วที่สุด แต่บางสิ่งที่ไม่สามารถลดระยะเวลาไปได้คือระยะเวลา 4 เดือนที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ส่วนการทำงานของ คสช.จะเน้นความสงบโดยใช้มาตรา 44 เป็นหลัก และได้ใช้ ม.44 ไปแล้ว 27 ครั้ง แต่ใช้ในเชิงสร้างสรรค์เพื่อขจัดปัญหา

นายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงใยเรื่องความปัญหาความขัดแย้งของแต่ละประเทศที่เกิดระหว่างคนสองกลุ่มในประเทศ จนทำให้ประขาชนต้องไปพึ่งพิงประเทศอื่น ซึ่งมองว่าขณะนี้ไทยกำลังเดินซ้ำรอยประเทศอื่น แต่เป็นเพราะวันนี้คนไทยยังมีความเข้งแข็งจึงขอให้ทุกคนช่วยเหลือกัน และให้สื่อมวลชนช่วยสื่อสารทำความเข้าใจให้กับประชาชนด้วยเช่นกัน

ส่วนเรื่องที่ขณะนี้พายุดีเปรสชั่น หว่ามก๋อ ซึ่งอ่อนกำลังลง เป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ แต่ยังส่งผลกับภาคกลางและภาคตะวันออก ได้สั่งการให้กรมบรรเทาสาธารณะภัย และหน่วยวานที่เกี่ยวข้องเตรียมการไว้ โดยไม่ต้องให้ประขาขนร้องขอความช่วยเหลือ และยังต้องเตรียมการเก็บกักน้ำไว้  ซึ่งจากสถิติแล้วพบว่าหน้าแล้งปีหน้ามีปัญหาแน่นอน เพื่อที่ให้ผ่านพ้นฤดูแล้งปีหน้าให้ได้