*รองนายกรัฐมนตรีย้ำให้ตร.ทำงาน หลังรองผบ.ตร.บินไปมาเลเซีย คดีระเบิดเป็นไปตามกม.*

การประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่บ้านเกษะโกมล พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงการเดินทางไปประเทศมาเลเซียของพล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่ชาติ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียควบคุมตัว 3 ผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ พลเอกประวิตร กล่าวว่า ไม่ได้เน้นย้ำอะไรกับพล.ต.อ. จักรทิพย์ เรื่องนี้เป็นเรื่องของตำรวจ ปล่อยให้ทางตำรวจไปทำงานกันเอง พล.ต.อ. จักรทิพย์เพิ่งเดินทางไป ยังไม่ถึงมาเลเซีย อย่าเพิ่งมาคาดคั้น กลับมาค่อยคุยกันอีกที ส่วนประเด็นที่นายชูชาติ กันภัย ทนายความของนายอาเดม คาราดัก หรือชื่อจริงคือนายบินลาเติร์ก มูหัมหมัด ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ได้เข้าเยี่ยมนายอาเดม และออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่านายอาเดมไม่เกี่ยวข้องกับเหตุกับระเบิดนั้น ก็ปล่อยให้เป็นไปเรื่องของกระบวนการตามกฎหมายไป

ส่วนการเขิญตัวนักการเมืองและสื่อมวลชนเข้ามาปรับทัศนคติ พล.อ.ประวิตร ขอถามว่า ตัวเองมีอำนาจหรือไม่ เพราะตัวเองมีอำนาจจึงต้องเรียกมาพูดคุยเพื่อปรับความเข้าใจกัน เพราะเกิดความสับสน ไม่ได้ทำอะไร เมื่อปรับทัศนคติ มีความเข้าใจกันแล้วก็ต้องปล่อยตัวไป

สำหรับการประชุมวันนี้ได้มีการหารือ ร่วมกับทีมเศรษฐกิจ ถึง คลัสเตอร์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า ว่าจะให้สิทธิประโยชน์อะไรได้บ้าง เขตอ.แม่สอดจ.ตาก และจ.สระแก้ว โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ จะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน โดยพลเอกประวิตร กล่าวว่า หน่วยงานต่างๆ ได้เน้นย้ำถึงมาตรการความมั่นคงเขตเศรษฐกิจพิเศษที่แม่สอด และสระแก้วอยู่แล้ว และจะต้องดูแลกันเข้มขึ้น  โดยรัฐบาลจะเข้าไปสร้างระบบสาธารณูปโภค การคมนาคม ขนส่ง ให้ดียิ่งขึ้น จะทำพื้นที่ดังกล่าวให้เจริญขึ้น