ทันสถานการณ์ฯ:ยุโรปเริ่มควบคุมการรับผู้อพยพ/แอบบอตต์พ่ายมติลงจากตำแหน่งนายกฯ/จีนเสนอแผนปฏิรูปอุตสาหกรรม

15 กันยายน 2558, 06:23น.


นายซิกมาร์ กาเบรียล รองนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี คาดว่าเยอรมนีจะต้องรับผู้อพยพที่ขอลี้ภัยในเยอรมนีถึง 1 ล้านคน ในปีนี้ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมที่ 800,000 คน ซึ่งเขาเห็นว่า การที่ยุโรปเพิกเฉยต่อวิกฤตผู้อพยพ ผลักดันให้ความสามารถในการรองรับผู้อพยพของเยอรมนีไปถึงขีดจำกัด และไม่มีประเทศใดเพียงประเทศเดียวที่สามารถรองรับผู้อพยพได้ทั้งหมด



ด้านฮังการี ประกาศว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 กันยายนเพียงวันเดียวมีผู้อพยพเดินทางเข้าประเทศถึง 5,809 คน จากที่เมื่อวันเสาร์มีจำนวน 4,330 คน สอดคล้องกับรายงานข่าวที่ว่า เซอร์เบียพยายามผลักดันผู้อพยพถึง 30,000 คนข้ามพรมแดนก่อนที่ฮังการีจะเริ่มใช้มาตรการเพื่อสกัดผู้อพยพ ซึ่งรวมถึงรั้วหนามกั้นพรมแดนระหว่าง 2 ประเทศซึ่งฮังการีประกาศว่าการติดตั้งจะต้องเสร็จสิ้นในวันนี้ และผู้อพยพจะถูกดำเนินคดีฐานลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายมีโทษจำคุกสูงสุดคือ 3 ปี



ขณะที่ออสเตรียส่งเจ้าหน้าที่ทหารราว 2,200 นาย ไปช่วยรับมือวิกฤติผู้อพยพที่พรมแดน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเวอร์เนอร์ เฟย์แมนน์ ของออสเตรียกล่าวว่า ลำพังออสเตรียและเยอรมนีไม่สามารถแก้ปัญหาผู้ลี้ภัยของโลกได้



ด้านคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้ชาติยุโรปร่วมวางนโยบายที่กว้างขวางเพื่อเปิดช่องทางรับผู้อพยพมากขึ้น



ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) สนับสนุนให้ใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์ที่นำผู้อพยพจากทวีปแอฟริกามายังยุโรปและทำลายเรือที่นำผู้อพยพมายังยุโรป



ส่วนการเมืองออสเตรเลีย นายโทนี แอบบอตต์ ต้องลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยไม่มีผู้ใดคาดคิด เนื่องจากพ่ายแพ้ในการลงมติเลือกหัวหน้าพรรคเสรีนิยมของเขาเอง ในการลงคะแนนเลือกผู้นำพรรคคนใหม่เมื่อคืนนี้ ตามการเรียกร้องของนายมัลคอล์ม เทิร์นบุล รัฐมนตรีสื่อสารในรัฐบาลนายแอบบอตต์ ที่เห็นว่า พรรคจะต้องพบกับความพ่ายในการเลือกตั้งในปีหน้าหากไม่เปลี่ยนตัวผู้นำพรรค และผลการลงมติปรากฏว่านายแอบบอตต์พ่ายนายเทิร์นบุลไปด้วยคะแนน 44 ต่อ 54 ซึ่งส่งผลให้นายเทิร์นบุลจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี



ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ออสเตรเลียมีนายกรัฐมนตรีที่ถูกปลดจากตำแหน่ง เพราะการยึดอำนาจภายในพรรคมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกรณีของนายเควิด รัดด์ และนางจูเลีย กิลลาร์ด ในปี 2553 และ 2556 ตามลำดับ



กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศว่า กองทัพเริ่มต้นการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดในปีนี้  ภายใต้รหัสเซ็นเตอร์-2015 เมื่อวันจันทร์ โดยมีกำลังทหาร 95,000 นาย จากกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศเข้าร่วมการซ้อมรบใน 20 แห่งเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมทางทหาร



สายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส ยอมรับว่าฝ่าฝืนกฎนิรภัยการบินอย่างชัดเจน ด้วยการใช้เครื่องบินที่ไม่ได้รับการรับรองให้ทำการบินในเส้นทางนครลอสแองเจลิส-เมืองฮอนโนลูลู รัฐฮาวาย ตามที่นายไบรอัน ซูเมอร์ บล็อกเกอร์ด้านการเดินทางเขียนบล็อกส่วนตัวตั้งข้อสังเกตไว้ ซึ่งสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (เอฟเอเอ) ได้รับแจ้งเรื่องแล้ว



พรรคคอมมิวนิสต์จีนเปิดเผยพิมพ์เขียวการปฏิรูปภาคอุตสาหกรรมฉบับใหม่ โดยอุตสาหกรรมของรัฐจะทำหน้าที่เป็นแกนนำเศรษฐกิจต่อไป แต่วิสาหกิจและกลไกตลาดจะมีบทบาทมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามแรงกดดันให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แก้ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว และลดการพึ่งพาการค้าและการลงทุนเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ



นายโรแวน ซัตตัน นักวิจัยจากศูนย์วิทยาศาสตร์ชั้นบรรยากาศแห่งชาติของอังกฤษรายงานว่า ภาวะโลกร้อนจะทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยสูงขึ้นในปีนี้ และปีหน้า ร่วมด้วยปรากฏการณ์เอลนินโญ่ จะทำให้โลกในปี 2557 , 2558 และ 2559 เป็นช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์



ตำรวจอินโดนีเซีย ประกาศรายชื่อผู้ต้องสงสัย 107 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดไฟป่า 68 จุดใน 5 จังหวัดบนเกาะสุมาตรา ซึ่งทั้งหมดจะถูกจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป โดยในขณะนี้ยังมีไฟป่าอีก 1,200 จุดใน 52 เขต ในจังหวัดสุมาตรา ที่ยังลุกไหม้อยู่ และมีการส่งกำลังตำรวจ 3,226 นายลงพื้นที่เพื่อสนับสนุนการดับไฟ



ผลจากไฟป่า ทำให้ประชาชนเกือบ 9 หมื่นคนใน จ.ริอู จ.สุมาตราใต้ และ จ.กาลิมันตันใต้ ต้องเผชิญกับปัญหาการหายใจเนื่องจากต้องสูดควันไฟเข้าไปในร่างกาย โดยมีการประกาศภาวะฉุกเฉินใน จ.ริอูแล้ว นอกจากนี้ ควันไฟยังถูกพัดไปพาไปถึงมาเลเซีย สิงคโปร์ และทางตอนใต้ของประเทศไทยอีกด้วย



สำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติของสิงคโปร์รายงานว่า ดัชนีวัดคุณภาพอากาศเพิ่มขึ้นเป็น 222 เมื่อเช้าวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบหนึ่งปี และเกินระดับ 200 ที่ถือว่า ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างมาก โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคหัวใจ หรือโรคปอด  แต่โรงเรียนหลายแห่งยังคงเปิดตามปกติ หลังปิดเทอมไปตลอดหนึ่งสัปดาห์



นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัก แห่งมาเลเซีย ประกาศอัดฉีดเงิน 20,000 ล้านริงกิต ให้กองทุน “ValueCap” เพื่อการลงทุนของรัฐบาล เพื่อหวังพยุงตลาดหลักทรัพย์ และสร้างความเชื่อมั่น แต่ยังปฏิเสธที่จะใช้มาตรการควบคุมเงินทุน ถึงแม้เงินริงกิตจะอ่อนค่าลงจากปีที่แล้วถึงร้อยละ 26 มาอยู่ที่ 4 ริงกิตต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่ำสุดในรอบ 17 ปี ส่วนตลาดหุ้นก็ตกลงถึงร้อยละ 7.5 ในช่วง 3 เดือนหลัง



ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปทานล้นตลาด หลังโอเปกปรับลดประมาณการณ์อุปสงค์ โดยน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 63 เซนต์ ปิดที่ 44.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.77 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



เมื่อวานนี้ โอเปกปรับลดประมาณการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี 2559 เนื่องจากตลาดเกิดใหม่ ที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตกอยู่ในภาวะชะลอตัว โดยคาดว่าอุปสงค์โลกจะขยายตัวราว 1 ล้าน 2 แสน 9 หมื่นบาร์เรลต่อวัน เป็น 94 ล้าน 8 หมื่นบาร์เรลต่อวันในปีหน้า ลดลงจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ 50,000 บาร์เรลต่อวัน



ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ปิดการซื้อขายในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนรอผลการผลประชุมเฟดในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ที่มีการคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 62.13 จุด หรือร้อยละ 0.38 ปิดที่ 16,370.96 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 8.02 จุด หรือร้อยละ 0.41 ปิดที่ 1,953.03 จุด แนสแดค ลดลง 16.58 จุด หรือร้อยละ 0.34 ปิดที่ 4,805.76 จุด

       ...

ข่าวทั้งหมด

X