ความคืบหน้าเหตุเครนยักษ์ล้มทับมัสยิดกลางอัลฮะรอม ในนครเมกกะ ซาอุดีอาระเบียเมื่อวันศุกร์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 107 คน และได้รับบาดเจ็บ 238 คน
นายกฤษศญพงศ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นผู้หญิง ชื่อนางวานิดา สะดี อายุ 48 ปี (พักอาศัยที่กรุงเทพ แต่ภูมิลำเนาอยู่ที่ปัตตานี) ซึ่งเดินทางไปนครเมกกะ กับสามีและหลาน แต่ในวันที่เกิดเหตุเข้าไปที่มัสยิดคนเดียว กับมีผู้ได้บาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน คือนางแมะเยาะ แตมอ อายุ 47 ปี ชาวจังหวัดปัตตานี และนายสะมะแอ ชาชู อายุ 48 ปี จากจังหวัดยะลา ทั้งคู่รับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลคิงไฟซอล และได้นำตัวมายังหน่วยแพทย์และพยาบาลไทยเพื่อเฝ้าดูอาการต่อไปแล้ว แต่ยังมีผู้สูญหาย 2 คน ซึ่งยังไม่ยืนยันรายชื่อ อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการนำร่างผู้เสียชีวิตกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่ประเทศไทย เนื่องจากเป็นความเชื่อทางศาสนา หากเสียชีวิตที่ใดต้องทำพิธีที่นั่นภายใน 24 ชั่วโมง
ในส่วนของการสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำนักข่าวของทางการซาอุดีอาระเบีย รายงานว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงที่มีผู้คนหนาแน่นที่สุด เพราะมีการละหมาดประจำสัปดาห์ ขณะที่มีลมพัดแรง และฝนตกหนัก โดยในบางช่วงเวลากระแสลมแรงถึง 83 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนการประกอบพิธีฮัจญ์ประจำปีนี้ จะมีขึ้นในวันที่ 21 กันยายนนี้
....