*กระทรวงต่างประเทศ ดูแล2คนไทยบาดเจ็บจากเครนยักษ์ถูกพายุพัดลงมาทับที่เมกกะ ซาอุฯ*

12 กันยายน 2558, 10:09น.


กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเหตุเครนขนาดใหญ่ล้มลงมาทับผู้แสวงบุญที่กำลังประกอบพิธีสวดมนต์ประจำวันศุกร์ที่ นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เมื่อค่ำวานนี้ตามเวลาในประเทศไทย ว่า เครนขนาดใหญ่ถูกลมพายุพัดและตกลงมาทับผู้แสวงบุญทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ กระทรวงการต่างประเทศได้ตรวจสอบกับสถานกงสุลใหญ่ ณ.เมืองเจดดาห์แล้ว ได้รับรายงานว่า ไม่มีคนไทยเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่มีผู้แสวงบุญชาวไทย 2 คน ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์แล้ว



 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า มัสยิดแห่งนี้ ชื่อ อัลฮะรอม มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดของโลก ตัวเลขผู้เสียชีวิตรายงานอยู่ที่ 107 ศพ บาดเจ็บ 238 คน ในจำนวนนี้มีคนไทยบาดเจ็บ 2 คน



ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันพลเรือนของซาอุดิอาระเบีย ระบุว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.23 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 21.23 น. เมื่อคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ในช่วงเวลาเกิดเหตุได้เกิดฝนตกหนักและลมกรรโชกแรง จึงเชื่อว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เครนเกิดหลุดและหล่นลงมาทับอาคารของมัสยิด



ทางการซาอุดิอาระเบีย กำลังเร่งประเมินความเสียหายทั้งหมด รวมทั้งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่



สำหรับเครนยักษ์ที่หล่นลงมานั้นเป็นส่วนหนึ่งในโครงการก่อสร้างเพื่อขยายพื้นที่ภายในมัสยิดเพิ่มอีก 400,000 ตารางเมตร เพื่อให้สามารถรองรับผู้แสวงบุญได้ถึง 2.2 ล้านคน



ทั้งนี้ นครเมกกะกำลังอยู่ระหว่างการจัดเตรียมประกอบพิธีฮัจย์ ซึ่งเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ประจำปีที่ชาวมุสลิมจากทั่วโลกหวังว่าในชีวิตหนึ่งจะได้มีโอกาสเข้าร่วม จึงคาดว่าในช่วงปลายเดือนนี้จะมีผู้แสวงบุญชาวมุสลิมหลายล้านคนจากทั่วโลกเดินทางไปที่นครเมกกะ 



นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ผู้แสวงบุญชาวไทย ได้แก่ นางแมะเยาะ แตมอ อายุ 47 ปี จากจังหวัดปัตตานี และนายสะมะแอ ชาซู อายุ 48 ปี จากจังหวัดยะลา ขณะนี้ทั้ง 2 ได้รับการดูแลจากหน่วยแพทย์และพยาบาลของไทย ทั้งนี้ มอบหมายให้อธิบดีกรมการศาสนา ติดตามสถานการณ์ ประสานและอำนวยความสะดวกให้แก่คณะผู้แสวงบุญคนไทยที่อยู่นครเมกกะ เนื่องจากช่วงนี้ยังอยู่ในพิธีการประกอบพิธีฮัจย์ของพี่น้องชาวมุสลิม ทั้งนี้จากข้อมูลและการรายงานสถานการณ์ยังไม่มีอะไรน่าห่วง เพราะการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ กรมการศาสนาและหน่วยงานต่างๆ ส่งเจ้าหน้าที่และแพทย์ไปดูแลผู้แสวงบุญอยู่แล้ว



 CR:กระทรวงการต่างประเทศ, ทีมข่าวต่างประเทศ



ข่าวทั้งหมด

X