*รอบวัน:จีนตีข่าวส่งกลับอุยกูร์ต้นเหตุระเบิดราชประสงค์/รองนายกฯประวิตร ยืนยันดูแลเก๋ง-พิชัยอย่างดี/นครินทร์นั่งตุลาการศาลรธน.คนใหม่*

11 กันยายน 2558, 17:36น.


สรุปข่าว 19.35น.



+++สื่อของรัฐบาลจีน “โกลบอล ไทม์ส”ระบุชัดเจนว่า เหตุระเบิดที่ย่านราชประสงค์ของไทย ซึ่งเป็นต้นเหตุให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตอย่างน้อย 6 คนนั้นอาจจะเป็นแผนการของกลุ่มขบวนการอิสลามแห่งเตอร์กิสถานตะวันออก (อีทีไอเอ็ม) ซึ่งต้องการแก้แค้นทางการไทย ที่ส่งตัวชาวอุยกูร์มากกว่าร้อยคนให้จีนเมื่อเดือนก.ค.  ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนสั่งสื่อปิดปากเลี่ยงเสนอข่าวที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดราชประสงค์ โดยนักข่าวจากสามสำนักข่าวใหญ่ของจีนเผยว่า ในเดือนนี้พวกเขาถูกสั่งให้หลีกเลี่ยงการนำเสนอข่าวดังกล่าว เนื่องจากเกี่ยวข้องกับประเด็นอ่อนไหวอย่างอุยกูร์   



++++ข้อมูลจากโกลบอล ไทม์สยังอ้างคำสัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่จากทางการจีนที่ไม่ต้องการระบุชื่ออีกว่า นายเมียไรลี ยูซุฟู ถือหนังสือเดินทางจีน เขาเดินทางออกจากจีนตั้งแต่ปี 2556 ภายหลังถูกจับกุม ได้ให้การกับทางการไทยว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี



+++นายสี หลี่ผิง อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาแห่งสถาบันChinese Academy of Social Sciences (CASS) ในกรุงปักกิ่ง ออกมาแสดงความเห็นว่า รัฐบาลจีนกำลังพยายามปกปิดการนำเสนอข่าวระเบิดที่ย่านราชประสงค์ของไทย เพราะอาจขัดขวางนโยบายต่อต้านการก่อการร้ายในต่างแดนของตน และไม่ต้องการให้สื่อจีนโยงเหตุบึ้มดังกล่าวเข้ากับเหล่าชนกลุ่มน้อยอุยกูร  หากในที่สุดพบว่า เหตุระเบิดเป็นการเอาคืนไทยที่ส่งชาวอุยกูร์ให้จีนจริง ก็จะทำให้ประเทศอื่นๆต้องคิดรอบสอง หากจะส่งชาวอุยกูร์ให้จีนเพราะเห็นเหตุการณ์ที่ไทยเป็นแบบอย่าง



+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า ในขณะนี้ ได้ทำสัญญาซื้อขายข้าวกับสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเป็นข้าวเก่า1ล้านตัน ข้าวใหม่อีก1ล้านตัน และยางพาราอีก2แสนตัน  โดยสัญญาขายข้าวฉบับเก่าของรัฐบาลที่แล้วยังค้างอีก7แสนตัน ดังนั้นรวมแล้วก็2.7ล้านตัน ขณะนี้ทำสัญญาขายไปแล้ว1ล้านตัน ส่วนเรื่องยางพารากำลังทำสัญญาอยู่ ซึ่งถ้าเสร็จแล้วก็คงมีการลงนามและขายได้ ซึ่งจะทำให้เร็วที่สุด เพราะตอนนี้พูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว



+++การเจรจาขอลดดอกเบี้ยในการก่อสร้างรถไฟกับรัฐบาลจีนจาก4 เปอร์เซ็นต์ให้เหลือ2 เปอร์เซ็นต์ ว่า เรื่องรถไฟมีการตกลงกันว่าดอกเบี้ยยังแพง จึงมีการตกลงกันซึ่งขณะนี้กระทรวงคมนาคมของไทยและจีนกำลังตกลงกันอยู่ เพราะเราต้องการให้ได้ดอกเบี้ยต่ำที่สุด มิฉะนั้นก็รับไม่ไหว ส่วนจะกู้เงินจากที่อื่นนอกจากจีนหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่กระทรวงคมนาคมดำเนินการ ส่วนตัวอยากให้เรื่องนี้จบภายในปีนี้แต่จะทันหรือไม่นั้น ไม่ทราบ เดิมทีวางแผนจะให้เริ่มดำเนินการก่อสร้างจบภายในปีนี้ แต่ต้องช้าเกี่ยวกับเรื่องสัญญาข้อตกลงความร่วมมือกันและหลายๆเรื่อง ซึ่งเรื่องพวกนี้ต้องตกลงให้ได้ทั้ง 2 ประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียเปรียบได้เปรียบ



+++ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ คำสั่งกระทรวงยุติธรรมที่ 314/2558 เรื่องกำหนดอาณาเขตเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี เพื่อประโยชน์ในด้านการรักษาความปลอดภัยและความเหมาะสมในการคุมขังและการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังในคดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐและคดีอื่นที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งเป็นผู้ต้องขังประเภทมีเหตุพิเศษ ที่ไม่ควรจะรวมคุมขังอยู่กับผู้ต้องขังอื่น จึงสมควรกําหนดสถานที่คุมขังไว้สําหรับผู้ต้องขังประเภทดังกล่าว อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 (1) และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช2479 จึงกําหนดเรือนจําชั่วคราว ขึ้นในพื้นที่ พัน.ร.มทบ.11 ถนนพระรามที่ 5แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 1 ไร่ เรียกชื่อว่า “เรือนจําชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี”  เพื่อใช้เป็นสถานที่คุมขังผู้ต้องขังและดําเนินงานด้านอื่นที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย โดยให้สังกัดเรือนจําพิเศษกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้นับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2558 พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม



+++การสอบข้อเท็จจริงปัญหาการทุจริตในสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองหรือ ตม. พลตำรวจโท  นเรศ   นันทโชติ  หัวหน้าจเรตำรวจ  เปิดเผยว่า ขณะนี้ ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเรียกรับสินบน จำนวน 10 ชุด เพื่อตรวจสอบการทำงานของตรวจเข้าเมืองทั้ง 10 กองบังคับการ  โดยมี จเรตำรวจและรองเจรตำรวจ ร่วมเป็นกรรมการ เพื่อดูแลประสานงานแต่ละพื้นที่  มอบหมายให้ พลตำรวจตรีธณัท วงศ์สุวรรณ  รองจเรตำรวจ  เป็นประธานดูแลการทำงานของคณะกรรมการทั้ง 10 ชุด เพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งเสนอให้ที่ประชุมจเรตำรวจ   และมอบหมายให้  พลตำรวจตรี ชวัลวิทย์  วีระเดชกำแหง รองจเรตำรวจ  เป็นโฆษก เพื่อชี้แจงการดำเนินงานของคณะกรรมการ  เบื้องต้นได้กำหนดกรอบการทำงาน ให้คณะกรรมการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง  โดยเฉพาะพื้นที่ในส่วนรับผิดชอบของ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสุวรรณภูมิ ,ดอนเมือง , สระแก้ว และเชียงราย  เพื่อสรุปข้อมูลภายในวันที่ 20 กันยายน ก่อนนำเข้าที่ประชุมจเรตำรวจเพื่อพิจารณาในวันที่ 21 กันยายน



+++หลัง คสช.เชิญนายการุณ โหสกุล หรือเก่ง และนายพิชัย นริพทะพันธุ์  แกนนำพรรคเพื่อไทย เข้าค่ายทหารเพื่อปรับทัศนคติ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  กล่าวว่า ต้องเรียกบุคคลที่ยังพูดแสดงความคิดเห็นต่างๆทั้งหมด เพราะขณะนี้รัฐบาลกำลังทำงานอยู่ ซึ่งขอให้หยุดพูดในช่วงนี้ก่อน รับรองว่า เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างดี และไม่ได้ทำอะไรเพียงแค่ปรับสมองอย่างเดียวด้วยการพูดคุยกัน ส่วนที่มีฝ่ายการเมืองเรียกร้องให้เปิดเผยที่อยู่ในค่ายทหารนั้นตนคิดว่าไม่จำเป็นเพราะเหมือนกับอยู่บ้าน เพียงแต่เชิญมาพูดคุย ไม่ได้นำตัวไปทารุณ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ได้ดุ คสช.ทำเหมือนเดิม แต่รัฐบาลก็ให้ฟังความจริงทุกอย่าง ขอให้ไปดูประเทศอื่นว่าเขาทำแบบเราหรือไม่ เราพยายามทำให้ดีแบบเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด แต่ขอเวลาทำงานก่อนตอนนี้



+++ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ลาออกจากราชการ ในตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้ว โดยจะมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ต.ค. จะมีผลให้พ้นจากความเป็นข้าราชการ ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในปี 2559 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่สั่งการต่อที่ประชุม ครม.ว่า ครม.ชุดใหม่ ต้องไม่มีตำแหน่งข้าราชการประจำอีกตำแหน่งหนึ่ง โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้  การลาออกจากตำแหน่งก่อนเกษียณอายุราชการ เพื่อไม่ให้เกิดความเคลือบแคลงเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ทั้งนี้ จะทำหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้ดีที่สุด



+++ที่ประชุม คณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลมีมติเลือก นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอดีตกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2557 เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แทนนายเฉลิมพล เอกอุรุ ที่ครบวาระ เนื่องจากอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ จากผู้สมัครเข้ารับการสรรหาจำนวน 10 คน  



+++ศาลอาญา นัดอ่านคำพิพากษา  ศาลศาลฎีกา คดีที่ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.นพวรรณ ตั้งอุดมสุขในคดีหมิ่นมาตรา 112  กรณี เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ.2551 จำเลยได้พิมพ์ข้อความอันเป็นการดูหมิ่นเบื้องสูง แล้วนำไปเผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาไท (www.prachatai.com) ให้ประชาชนทั่วไปที่ใช้บริการเว็บไซต์ดังกล่าวได้อ่าน ซึ่งการกระทำดังกล่าว อาจทำให้เกิดความเสียหายแก่เบื้องสูงได้ เมื่อถึงเวลานัด ปรากฏว่าจำเลยไม่มาศาล  ศาลจึงให้ออกหมายจับจำเลย เพื่อนำตัวมาฟังคำพิพากษา พร้อมสั่งปรับนายประกัน 1 ล้านบาท และให้เลื่อนฟังคำพิพากษาออกไป เป็นวันที่ 20 ตุลาคม เวลา 09.30 น. 



+++คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษา ยกฟ้อง แต่ในชั้นอุทธรณ์ มีคำพิพากษากลับให้ลงโทษจำคุกจำเลย 5 ปี  ต่อมาจำเลยยื่นฎีกาขอต่อสู้คดี ซึ่งศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลย ตีราคาประกัน 1 ล้านบาท  โดยมีบิดา เป็น นายประกัน   ศาลได้กำชับทนายความและนายประกัน ถ้าไม่สามารถตามตัวจำเลยมาศาลได้ในนัดหน้า ศาลจะอ่านคำพิพากษาลับหลัง ซึ่ง น.ส.นพวรรณ ได้รับปากว่า จะเดินทางมาฟังคำพิพากษา กระทั่งเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2558 ไม่สามารถติดต่อ น.ส.นพวรรณ ได้อีก



+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาด ลดลง 14.44จุด ที่ระดับ 1,381.72 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 42,522.54ล้านบาท



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวลงในวันนี้ หลังเคลื่อนไหวผันผวนในระหว่างวัน เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจของจีนที่มีกำหนดเปิดเผยสุดสัปดาห์นี้ และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐในสัปดาห์หน้า ได้บดบังบรรยากาศความเชื่อมั่นที่เป็นบวกของนักลงทุนที่มีต่อเศรษฐกิจในประเทศของญี่ปุ่น นิกเกอิลดลง 35.40 จุด ปิดที่ 18,264.22 จุด



+++ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้ขยับขึ้นเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนต่างรอดูข้อมูลเศรษฐกิจจีนหลายรายการที่จะมีการเปิดเผยในวันอาทิตย์นี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเพิ่มขึ้น 2.34 จุด ปิดที่ 3,200.23 จุด  โดยข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่จะมีการเปิดเผยในวันที่ 13 ก.ย. ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนส.ค. การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนส.ค. และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.



+++ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดปรับตัวลดลง ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจจีนหลายรายการที่จะมีการเปิดเผยในวันอาทิตย์นี้ ดัชนีฮั่งเส็งลดลง 58.13 จุด ที่ 21,504.37 จุด

ข่าวทั้งหมด

X