*จีนจะใช้มาตรการด้านการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจใน 3 ปีนี้*

สำนักข่าว ซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างผลการศึกษาล่าสุดของบริษัท ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอล คอร์ป(ซีไอซีซี) ธนาคารเพื่อการลงทุนของรัฐบาลจีนว่า รัฐบาลจีนอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการด้านการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 3 ปีนี้ ระบุว่ารัฐบาลจีนจะใช้เงินคงคลังระหว่าง 1.2-1.5 ล้านล้านหยวนเพื่ออัดฉีดให้กับโครงการลงทุนต่างๆที่ผ่านการอนุมัติจากรัฐบาล คาดว่า เงินทุนทั้งหมดที่ต้องใช้ในมาตรการนี้อาจจะขยับขึ้นไปที่ 5-7 ล้านล้านหยวนหรือ ร้อยละ 2.5-3.4 ของจีดีพีของจีนปีนี้ และปีต่อไป

สำหรับโครงการลงทุนต่างๆที่จะได้รับเงินอัดฉีดจากรัฐตามมาตรการนี้ รวมถึงโครงการที่จัดทำโดยธนาคารของรัฐ ธนาคารเอกชนและนักลงทุนเอกชนที่มีการทำสัญญาร่วมทุนรัฐ-เอกชน ผลการศึกษาดังกล่าวมีขึ้นหลังกระทรวงการคลังของจีนเสนอเมื่อวันอังคารให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาหลายมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว เช่นการระดมเงินทุนร่วมกัน เพื่อเร่งรัดการก่อสร้างในโครงการต่างๆ การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณที่จัดสรรไว้แล้วและการขยายฐานภาษี

ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนพยายามจะหาทางแก้ไขปัญหาการชะลอตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การที่ภาคอุตสาหกรรมผลิตสินค้าล้นตลาด อุปสงค์ที่ชะงักลงและภาคการส่งออกที่ลดมาอยู่ที่ร้อยละ 7 ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยรัฐบาลจีนเริ่มหันมาพิจารณามาตรการการคลังมากขึ้น  เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและประคองเศรษฐกิจจีนให้เติบโตต่อเนื่อง หลังพบว่าแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยวิธีการผ่อนคลายทางการเงินเริ่มมีข้อจำกัดมากขึ้นเรื่อยๆ หลังปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาแล้วหลายครั้ง ขณะที่เงินฝากในธนาคารต่างๆของจีนยังมีจำนวนมาก/16.17 น.