สหรัฐเตือนรัสเซีย ส่งทหารไปซีเรีย ยิ่งทำให้เหตุการณ์บานปลาย

ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างนายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯว่า นายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯได้โทรศัพท์คุยกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเมื่อวานนี้เพื่อเตือนว่า การที่รัสเซียส่งกำลังทหารเข้าไปยังซีเรียอาจจะทำให้เหตุนองเลือดในซีเรียยิ่งทวีความรุนแรงและไร้เสถียรภาพหนักยิ่งขึ้น หลังยืดเยื้อมากว่า 4 ปี ระบุว่าสหรัฐฯเฝ้ามองการเคลื่อนกำลังทหารของรัสเซียด้วยความเป็นกังวลในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

สหรัฐฯต้องการจะทราบความประสงค์ที่แท้จริงของรัสเซียว่า ส่งทหารพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ไปยังซีเรียเพื่อเตรียมทำการโจมตีกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) กลุ่มกบฏทุกฝ่ายที่สู้รบกับกองกำลังรัฐบาลซีเรีย หรือต้องการจะส่งกำลังทหารไปช่วยควบคุมสถานการณ์ในซีเรีย โดยเฉพาะการช่วยเหลือนายอัสซาด ในกรณีรัฐบาลซีเรียล่มสลายขึ้นมา ก่อนหน้านี้ นางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ยืนยันในแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า ช่วงนี้มีคณะผู้เชี่ยวชาญทางทหารของรัสเซียอยู่ในซีเรีย เพื่อให้คำแนะนำแก่ชาวซีเรียเรื่องการใช้ระบบอาวุธที่รัสเซียจัดส่งไปให้กับรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดของซีเรีย ระบุว่ารัสเซียได้ส่งมอบอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับซีเรียตามสัญญาซื้อขายเดิมที่ทั้งสองฝ่ายลงนามไว้

สำหรับจุดยืนของสหรัฐฯต้องการให้นายอัสซาด พ้นจากตำแหน่ง แต่จากการช่วยเหลือของรัสเซียและอิหร่าน ทำให้นายอัสซาดสามารถยื้ออำนาจเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ทั้งรัสเซียและสหรัฐฯมีจุดร่วมคือ การต่อต้านกลุ่มไอเอส ซึ่งฉวยโอกาสเข้ายึดครองพื้นที่บางส่วนของซีเรียสืบเนื่องจากสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อ ที่ผ่านมาสหรัฐฯได้ให้การช่วยเหลือกลุ่มกบฏสายกลางของซีเรียที่ทำการสู้รบกับกลุ่มไอเอส ไปพร้อมๆกับการหาทางโค่นล้มรัฐบาลของนายอัสซาด