สรุปข่าว 19.35น.
+++ในระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับบางกอกเจมส์ แอนด์จิวเวลลี่แฟร์ ครั้งที่ 56 ระหว่างการเยี่ยมชมบูธแสดงสินค้าอัญมณี โดยมีนายสมชาย พรจินดารักษ์ ประธานสมาพันธ์อัญมณีเครื่องประดับและโลหะมีค่าแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ เป็นผู้พาชมและอธิบาย แต่ปรากฎว่าทีมรปภ.ของพล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้าไปกันและดึงตัวนายสมชายออกมา ในลักษณะที่ไม่รู้ว่านายสมชายเป็นใคร พร้อมแทรกตัวเข้าไปกันออก ขณะที่นายสมชายพยายามชี้แจงว่า ตัวเองเป็นใคร และขอเข้าไปใกล้นายกฯ เพื่ออธิบายรายละเอียดของงาน แต่รปภ.คนดังกล่าวไม่ยอมพร้อมเอามือดึงเสื้อสูทที่บริเวณไหล่ ทำให้นายสมชายไม่พอใจ พร้อมกล่าวเสียงดังว่า “ทำไมไม่ให้เกียรติกันบ้าง ผมเป็นคนจัดงานนี้นะ” พร้อมหันไปฟ้องพล.อ.ประยุทธ์ว่า “รปภ.ของท่านกันมากไม่ให้เกียรติกันเลย” ช่วงเวลาดังกล่าวนายกฯ เหลือบไปเห็นเหตุการณ์พอดี และหันไปตีมือรปภ.คนดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า “ต้องให้เกียรติท่านบ้าง” ก่อนที่จะหันไปตำหนิ พ.อ.วรยุทธ์ แก้ววิบูลย์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 หัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัยด้วย หลังนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล พ.อ.วรยุทธ์ได้เรียกประชุม รปภ.ทั้งหมดทันที หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดยกำชับทีมรปภ.ทุกคนให้ระมัดระวังสำหรับบุคคลที่เป็นวีไอพีในแต่ละงาน และแยกแยะบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง
+++มีรายงานว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ทำหนังสือบันทึกลับด่วนที่สุด ลงวันที่ 9 ก.ย. ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เรื่อง รายงานพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยได้รับข้อมูล เบาะแสจากประชาชนทั่วไป บริษัทผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจชาวต่างประเทศ ที่เดินทางเข้าออกประเทศไทย ประกอบกับข้อมูลที่ได้สืบสวนในทางลับเกี่ยวกับพฤติการณ์ในการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจบางส่วนในสังกัด สตม. ที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยสามารถสรุปได้ 6 ข้อ เช่น การรับจ้างทำเรื่องขออยู่ต่อในประเทศไทยโดยมีตำรวจ ตม.บางกลุ่มทำธุรกิจรับจ้างขยายเวลาการอยู่ในประเทศไทย โดยการทุจริตต่าง ๆ เพื่อให้เข้าเงื่อนไขของการขยายเวลาการอยู่ในประเทศ เช่น การเปลี่ยนวีซ่าจากประเภทนักท่องเที่ยว เป็นวีซ่านักธุรกิจโดยมิชอบ ค่าจ้างประมาณ 12,000 - 15,000 บาท
+++พฤติกรรมตำรวจ ตม. ที่ทำ อิน-เอ้าท์ หรือพิธีการเข้า-ออกประเทศ โดยไม่ถูกต้อง ใช้วิธีแนะนำชาวต่างชาติที่ต้องการอยู่ต่อโดยไม่มีเหตุผลอ้างตามกฎหมายให้เดินทางไปที่ด่าน ตม. กาญจนบุรี และ ตม. สระแก้ว เพื่อให้รับรองการเดินทางออกและเข้าประเทศ เพื่อขยายระยะเวลาในการอยู่ในประเทศไทยไปอีกครั้งละ 15 วัน มีการขอวีซ่า ณ ด่าน ตม. นอกเหนือจากค่าธรรมเนียม โดยพบที่ ในด่าน ตม.สุวรรณภูมิ ตม.ดอนเมือง พบมีการเรียกเก็บเงินค่า นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมของทางราชการ เป็นเงิน 300 - 500 บาท ต่อคน แต่ละวันประมาณมีผู้ต้องจ่าย 6,000 คน เฉลี่ยเรียกเก็บคนละ 300 บาท คิดเป็นเงินกว่า 1,800,000 บาท ต่อวัน โดยไม่ทราบว่าเงินดังกล่าวถูกแบ่งไปยังใครบ้าง มีรายงานอีกว่า พล.ต.อ.สมยศ ยังได้มือคำสั่งลับด่วนที่สุด สั่งการให้ พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ จตร. (หน.จต.) ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้าราชตำรวจในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในกรณีดังกล่าว และให้รายงานผลให้ทราบภายในวันที่ 23 กันยายน นี้
+++นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ และอดีต รมว.คลัง พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.แสดงความเห็นต่อโครงการรับจำนำข้าวและโครงการรถยนต์คันแรกทำให้ประเทศเสียหายว่า ประหลาดใจในความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอย่างมากต่อทั้ง 2 โครงการ คาดเดาว่าที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะพล.อ.ประยุทธ์ได้รับฟังข้อมูลที่บิดเบือนจากทีมเศรษฐกิจชุดก่อน ขอชี้แจงว่า แม้ว่านโยบายนี้จะต้องจัดสรรงบประมาณรายปีที่ดูเหมือนจะมากสักหน่อย แต่ก็ยังอยู่ในกรอบเพียงประมาณร้อยละ 5 ของงบประมาณประจำปีเท่านั้น จึงเป็นโครงการที่คุ้มค่า เพราะสามารถช่วยกลุ่มคนรายได้น้อยที่สุดในภาคเกษตรกรรมได้ถึงร้อยละ 23 ให้พอลืมตาอ้าปากได้
+++นางสินจัยและนายฉัตรชัย เปล่งพานิช 2 นักแสดงชื่อดังพร้อมทนายความ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือ ปอท. ให้ดำเนินคดีกับผู้ใช้ชื่อในเฟซบุ๊ก Tanawit Kalanthokpan (Art) ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14(1)และ ม.328 กรณีโพสต์ข้อความ สร้างความเกลียดชังให้กับคนที่ไม่รู้และกระทบต่ออาชีพการงาน ในฐานะนักแสดงถึงจะเป็นบุคคลสาธารณะ แต่ไม่ใช่จะหยิบไปทำอะไรก็ได้ อยากฝากถึงผู้ที่นำข้อความไปแชร์ต่อหรือผู้ที่กดไลค์ อยากให้พิจารณาก่อนว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ อย่าสร้างความเกลียดชัง เห็นต่างได้แต่อย่าทำร้ายเพราะไม่เกิดผลดี เรื่องคดีจะดำเนินการให้ถึงที่สุด
+++ศาลแขวงปทุมวัน นายวีระพัน หรือเฒ่า อินทะวง ฉายา มาเฟียสยาม อายุ 38 ปี สัญชาติลาว เป็นจำเลยในความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ , ดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าและข่มขู่ผู้อื่นให้เกิดความกลัว เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และฐานลักทรัพย์ รวม 4 สำนวน กรณีจำเลยได้ใช้กำลังประทุษร้ายข่มขู่ผู้เสียหายหลายรายย่านสยามสแควร์ ในพื้นที่ สน.ปทุมวัน โดยศาลได้อ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังแล้วสอบถาม ปรากฏว่าจำเลยให้การรับสารภาพโดยดี สั่งจำคุก 14 เดือน 15 วัน นำตัว นายวีระพัน ไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
+++มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการณ์ GDP ปี 58 โต ร้อยละ 3.1 ส่วนส่งออกในปีนี้จะหดตัวอยู่ในระดับร้อยละ 4 จากปัจจัย การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ชัดเจน-หนี้ครัวเรือนสูง ส่วนในปีหน้า ประเมินGDPเติบ โตได้ ร้อยละ 4.2 ส่งออกเติบโตได้ ร้อยละ 5.3
+++ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์เดือนสิงหาคม 2558 ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยมีความผันผวนจากการเผชิญกับปัจจัยทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ เหตุระเบิดที่ราชประสงค์ การปรับคณะรัฐมนตรีของไทย การลดค่าเงินหยวนของจีน และภาวะที่เงินทุนไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกจากความกังวลเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้เดือนสิงหาคมดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยเคลื่อนไหวลงไปต่ำสุดที่ระดับ 1,296.18 จุด ก่อนกลับมาปิดที่ระดับ 1,382.41 จุด ลดลงร้อยละ 4.0 จากเดือนก่อนหน้า และลดลงร้อยละ 7.7 จากสิ้นปี 2557เป็นไปในทิศทางเดียวกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดที่ 1,396.16 จุด ลดลง 0.13 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,178.12ล้านบาท
+++ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้ร่วงลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจประเทศ แม้ว่า นายกรัฐมนตรีจีนจะได้ออกมาสร้างความมั่นใจว่า เศรษฐกิจของประเทศระบุว่าจีนจะไม่เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างรวดเร็วและรุนแรง หรือที่เรียกว่า hard landing ตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคในจีนขยับขึ้นร้อยละ 2 จากเมื่อเดือนกรกฎาคมที่มีอยู่ร้อยละ 1.4 โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นผลมาจากส่วนใหญ่ราคาอาหารปรับขึ้นร้อยละ 3.7 ซึ่งรวมถึงผักสดที่มีราคาแพงขึ้นมาร้อยละ 15.9 และเนื้อหมูร้อยละ 9.3 ดัชนีราคาผู้ผลิตซึ่งเป็นมาตรวัดสินค้าหน้าโรงงาน ลดลงร้อยละ 5.4 จากเมื่อปีก่อน ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วง 45.20 จุด ปิดที่ 3,197.89 จุด
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วลดลง 568.81 จุด ที่ 21,562.50 จุด
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากข้อมูลคำสั่งซื้อเครื่องจักรที่น่าผิดหวังได้จุดปะทุแรงเทขาย ปิดร่วง 470.89 จุด ที่ 18,299.62 จุด
+++นายเสกสรร สุขแสง ผู้อำนวยการสำนักบังคับคดีแพ่งกรุงเทพฯ ลงพื้นที่เป็นคนกลางเจรจาระหว่างวัดกัลยาณมิตร ที่เป็นโจทก์ในการร้องขอให้รื้อชุมชนที่ปลูกบ้านในเขตพื้นที่วัด ซึ่งวัดและชุมชนมีการฟ้องร้องกันมาเป็นระยะเวลานานและศาลตัดสินให้วัดกัลยาณมิตรชนะคดีตั้งแต่ปี 2551 และกรมบังคับคดีได้ออกหนังสือปิดประกาศขอให้ชุมชนโดยรอบรับทราบเพื่อเร่งขนย้ายสิ่งของออกนอกพื้นที่มาโดยตลอด ผลเจรจากันแล้วเบื้องต้นได้ข้อสรุปคือจะให้โอกาสชาวบ้านขนย้ายสิ่งของออกให้เวลาสักระยะหนึ่งโดยจะไม่เข้าไปรื้อ พร้อมจะชดเชยค่าขนย้ายให้แต่ตัวเงินอยู่ระหว่างการตกลง ซึ่งการเจรจาเป็นไปด้วยดี ด้านนายพรชัย จงสุขศรี ตัวแทนวัดกัลยาฯ ในฐานะผู้ประสานงานและควบคุมการรื้อถอนบ้านชุมชนโดยรอบวัด กล่าวว่า ขณะนี้มีชาวบ้านที่ยอมรับข้อเสนอแล้ว10กว่าราย คาดว่าจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนตุลาคมนี้