การสรรหาบุคคลที่จะเข้ามาเป็นประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญหรือ กรธ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คสช. ระบุว่า จะมีการประชุมร่วมกับ คสช. เพื่อพิจารณาอีกครั้ง แต่คาดว่าจะเสร็จสิ้นก่อนวันที่ 22กันยายน ก่อนจะต้องเดินทางไปประชุมองค์การสหประชาชาติ ที่สหรัฐอเมริกา ส่วนที่สภานิติบัญญัติ สนช.จะเสนอชื่อเข้ามานั้น ส่วนตัวจะเป็นผู้พิจารณาเอง โดยหลักการพิจารณาคนที่จะมาเป็น กรธ.จะต้องมีความรู้ด้านของกฎหมายต่างๆ รวมถึงด้านเศรษฐกิจ ส่วนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องแก้ไขปัญหาของประเทศในอนาคตให้ได้ และช่วงเปลี่ยนผ่านก็จะต้องดูแลความสงบเรียบร้อยให้ได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับปัญหาการรับสินบน ในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. ตรวจพบว่ามีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วมีส่วนกี่ยวข้องกับการรับเงินจากนายเมียไรลี ยูซุฟู ผู้ต้องในขบวนการที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการสอบสวน ซึ่งหากพบว่ามีความผิดก็จะต้องถูกย้าย โดยขณะนี้ก็ได้มอบหมายให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นผู้ดูแล ส่วนตัวยังไม่ได้รับเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการ แต่คิดว่าปัญหาเหล่านี้ บางส่วนอยู่ที่เครื่องมือและเทคโนโลยี ที่ไม่มีงบประมาณในการสนับสนุนและพื้นที่ตามแนวชายแดนยังมีระยะทางยาวเป็นจำนวนมาก
ส่วนการเชิญตัวนายพิชัย นริพทะพันธุ์ และนายการุณ โหสกุล อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ปรับทัศนคตินั้น พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า การพูดคุยนี้เป็นไปตามคำสั่ง คสช. เนื่องจากการพูดของบุคคลดังกล่าวไม่สร้างสรรค์ และยังให้ร้ายกับรัฐบาล และ คสช. ส่วนตัวยังไม่อยากใช้กฎหมาย จึงได้มอบอำนาจให้ คสช.ดูแลรับผิดชอบแล้ว ส่วนจะควบคุมไว้ครบ 7วันไหมยังไม่ทราบ แต่จากนี้จะมีการเชิญมาอีกหรือไม่ จะพิจารณาเอง ย้ำว่าจะเป็นนักการเมือง หรือพรรคการเมืองถ้ามาพูดจาให้ร้าย โจมตี รัฐบาล และ คสช.ส่วนตัวก็ยอมไม่ได้เช่นกัน
สำหรับ การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)วันนี้ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มีรายงานความคืบหน้าการเจรจาสันติสุข ในปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามหลักการพูดคุยรัฐบาลให้เป็นไปตามวาะแห่งชาติ ซึ่งจะต้องเร่งทำความเข้าใจ พร้อมขออย่านำเพิ่งหยิบยกชื่อของกลุ่มนำมาเป็นประเด็น เนื่องจากรัฐบาลกำลังเร่งสร้างความเข้าใจเพื่อให้เจตนารมณ์ไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมต้องสร้างความเชื่อใจในแต่ละกลุ่มเพื่อให้เกิดความเท่าเทียม ซึ่งขณะนี้มาเลเซียก็ให้ความร่วมมือเป็นตัวกลางอย่างดี รวมถึงประเทศมุสลิม และประเทศในอาเซียนก็มีความพอใจในความก้าวหน้ามาเป็นระดับ ส่วนขอเรียกร้องที่เสนอมานั้น ก็จะเร่งทำความเข้าใจในส่วนที่สามารถดำเนินการได้ก่อน เพื่อลดปัญหาการใช้ความรุนแรงหวังที่จะกดดันรัฐบาล