การคัดเลือกบุคคลที่จะเข้ามาเป็นคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ระบุว่า บุคคลที่จะเข้ามาไม่จำเป็นต้องถูกใจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ คสช. แต่อาจจะเป็นคนที่เห็นต่างกับ คสช.ก็ได้ แต่ต้องไม่ขัดแย้ง ส่วนกระแสข่าวที่จะดึงเลขาธิการกฤษฎีกาเข้ามาด้วยนั้น เรื่องนี้ไม่สามารถตอบได้ และถ้าหากจะมีการดึงสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ( สนช.)และสมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.)เข้ามานั่งได้1 - 2 ตำแหน่งก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของหัวหน้า คสช.ซึ่งจะเป็นผู้พิจารณาขณะที่คุณสมบัติของประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญนั้น นายวิษณุ ระบุว่า ไม่มีบทบัญญัติใดกำหนดไว้ว่าต้องเป็นนักกฏหมาย แต่ถ้าหากมีความรู้ด้านกฏหมายก็จะมีผลดีเพื่อนำความรู้มาควบคุมองค์ประชุมได้ อีกทั้งสมาชิกของคณะกรรมการนี้ ที่เข้ามาจะต้องทราบถึงเจตนารมณ์ของ คสช. ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว โดยเฉพาะเจตนารมณ์ด้านความปรองดองถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งต้องทำให้ได้เพื่อให้โรดแมพสามารถเดินไปได้ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดภายใน20 เดือน เพราะหากประเทศยังไม่มีความสงบสุขก็ยากที่จะเร่งรัดให้เกิดการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม หากการร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่ผ่านการทำประชามติอีกครั้ง และหากมีความจำเป็นต้องร่างขึ้นมาใหม่นั้น ก็จะต้องปรับแก้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวเพื่อให้สอดรับ แต่ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องปรับแก้ไข และหากต้องร่างรัฐธรรมนูญซ้ำๆขึ้นมาอีกนั้น ก็จะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ เพราะในการทำประชามติแต่ละครั้งจะต้องใช้งบประมาณถึง3000 ล้านบาท นอกจากนี้รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายยังกล่าวถึงการสรรหาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ป.ป.ช. เข้ามาทดแทนชุดเดิมที่จะหมดวาระ ทั้ง5คน ช่วงสิ้นเดือนกันยายนนี้ว่า ก็จะเป็นการสรรหาไปตามระเบียบที่มี ซึ่งก็สามารถดำเนินการได้เลย
ผู้สื่อข่าว:วิรวินท์ ศรีโหมด