*รอบวัน(1): น้องทาม รอรับจักยานพระราชทาน/รมว.เกษตรฯประชุมรับมือภัยแล้ง/ผบ.ตร.ส่งปัญหาตม.ให้นายกฯ*

+++พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สำนักราชเลขาธิการ ส่งข้อความพระราชสาส์นแสดงความยินดีไปยังสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ในโอกาสที่ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์อังกฤษด้วยระยะเวลา 63 ปี กับอีก 7 เดือน หรือคิดเป็น 23,226 วัน 16 ชั่วโมง กับอีกประมาณ 30 นาที ในเวลา 17.30 น. ของวันที่ 9 ก.ย.2558 ตามเวลามาตรฐานฤดูร้อนของอังกฤษ (ตรงกับ 23.30 น.เวลาในประเทศไทย)

+++สำนักพระราชวัง เริ่มเปิดให้ประชาชนลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวานนี้ เป็นวันแรกตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.ของทุกวัน มีประชาชน คณะบุคคลสำคัญ ตัวแทนหน่วยงานต่าง ๆ เดินทางมาลงนามถวายพระพรอย่างต่อเนื่อง พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยานำ ครม. และ ผู้บัญชาการเหล่าทัพทูลเกล้าฯ ถวายแจกันดอกไม้และลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย

+++กรณีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานจักรยานให้แก่ ด.ช.วรรธนะ คำอินทร์ หรือน้องทาม อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้นป.5 โรงเรียนวัดหนองนาดงกวาง อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นเด็กพิการไร้แขนทั้ง 2 ข้าง ที่ร่วมปั่นจักรยานในกิจกรรม "Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่" โดยผู้แทนพระองค์จะเชิญจักรยานพระราชทานไปมอบให้น้องทามในวันที่ 10 ก.ย นายอนันต์ กิตติรัตนวศิน นายอำเภอบางระกำ ดูความเรียบร้อยที่บ้านของน้องทาม และเตรียมสถานที่เตรียมรับผู้แทนพระองค์ที่จะเดินทางมามอบจักรยานพระราชทาน โดยทำความสะอาดบริเวณโดยรอบ และซ่อมแซมทำถนนที่ชำรุดเป็นบางจุด

+++หลังจากปริมาณน้ำในเขื่อนใหญ่ไม่เพียงพอ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุมหน่วยที่เกี่ยวข้องเตรียมรับมือปัญหาภัยแล้งรองรับการทำนาปรังในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา การประชุมวันนี้ ร่วมกันกำหนดพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง พื้นที่งดส่งน้ำ เนื่องจากสถานการณ์น้ำแล้งจะยาวนาน โดยจะวางแนวทางการส่งเสริมการทำเกษตรที่ใช้น้ำน้อย การทำปศุสัตว์เพื่อไม่ให้เกษตรกรสับสนและใช้เป็นชุดทางเลือกได้ แผนทั้งหมดจะต้องสอดคล้องกับศักยภาพการผลิตของแต่ละพื้นที่และจะต้องจบในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติในเดือน ต.ค.นี้

+++นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน  กล่าวว่า กรมชลประทาน จะต้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดเพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาประเมินผลเพื่อร่วมกันวางแผนเพาะปลูกพืชฤดูแล้งปี 2558/2559 เบื้องต้นคาดว่าเขื่อนขนาดใหญ่ที่สำคัญทั้ง 4 แห่ง ประกอบด้วย ภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยบำรุงแดน และป่าสักชลสิทธิ์ จะสามารถเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง หรือตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2558-30 เมษายน 2559 รวม 3,600 ล้าน ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) น้อยกว่าปีที่ผ่านมาที่เก็บได้ถึง 6,700 ล้าน ลบ.ม. โอกาสที่จะทำนาปรังจึงมีน้อยมาก แต่การประกาศห้ามทำนาปรังจะต้องมีมาตรการอื่นเข้ามาเสริมซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือ จากนั้นก็จะเสนอให้พล.อ.ฉัตรชัยพิจารณาและประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป ขณะนี้บางจุดมีการเก็บเกี่ยวข้าวนาปีไปแล้ว กรมจึงได้ขอความร่วมมือไม่ให้ปลูกใหม่เพราะต้องการใช้น้ำที่มีอยู่สนับสนุนเกษตรกรที่ยังไม่สามารถปลูกข้าวได้ กว่า 2.2 ล้านไร่ ให้ปลูกพืชชนิดอื่นที่ใช้น้ำน้อย เพราะวัตถุประสงค์ของกรมฯต้องการให้พื้นที่เกษตรกรในลุ่มเจ้าพระยา 22 จังหวัด 7.4 ล้านไร่ สามารถปลูกพืชได้อย่างน้อย 1 ครั้ง        

+++ความเคลื่อนไหวการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันยังไม่ได้ทาบทามนายอานันท์ ปันยารชุน  อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ระบุการตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 21 คน จะต้องเป็นบุคคลที่รู้เรื่องกฎหมายเป็นหลัก จะต้องรู้สถานการณ์ปัญหาของประเทศในขณะนี้และในอนาคตเป็นโจทย์ในการร่างรัฐธรรมนูญ ต้องเข้าใจเจตนารมณ์ของตัวเอง รัฐบาล และ คสช.ว่าจะขับเคลื่อนประเทศอย่างไร

+++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวระบุว่าเป็นผู้เสนอชื่อนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาเป็นประธานกรธ. ว่า ไม่เคยเสนอ และไม่เคยอยู่ในความคิด แม้แต่ชื่อนายจรูญ อินทจาร อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ได้อยู่ในความคิด ตำแหน่งดังกล่าวนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.จะเป็นผู้คิดเอง ได้พูดแล้วว่าจะชัดเจนวันที่ 22 กันยายนนี้ จะมีการประชุมร่วม ครม. คสช. เมื่อได้รายชื่อแล้วก็ประกาศให้ปฏิบัติหน้าที่ได้ทันทีโดยไม่ต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ

+++ด้านนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ( สนช.) กล่าวว่า ที่ระบุว่า สนช.ควรเข้าไปเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 2 คน จะให้นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.เป็น ผู้เสนอแนะการทำร่างรัฐธรรมนูญ แต่เป็นความเห็นส่วนตัว เพราะ สนช.มีบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ผูกมัด เพราะผู้มีหน้าที่แต่งตั้งคือ คสช.

+++ส่วนการเลือกสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ต้องคุยกันในที่ประชุมร่วม คสช.และครม. เปิดโอกาสให้ทุกคน ไม่ใช่บอกว่าจะเอาสมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ( สปช.)โหวตไม่รับร่างมาเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนปฏิรูปฯ แต่จะเอาคนมีความรู้

+++ความคืบหน้าการติดตามสืบสวนคดีระเบิด พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า จากคำให้การของนายเมียไรลี ยูซุฟู  พยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงพยานบุคคลที่สามารถยืนยันว่าผู้ต้องหา มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุที่แยกราชประสงค์ ส่วนคำให้การในประเด็นอื่น เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม เพื่อนำมาประกอบคำให้การของผู้ต้องหา โดยข้อมูลในทุกประเด็นจะต้องสอดคล้องกัน เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการดำเนินการจากการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พบว่า ผู้ต้องหาสามารถซื้อสารเคมีและอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบวัตถุระเบิดได้จากร้านจำหน่ายปุ๋ยและเคมีภัณฑ์ทั่วไป ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยป้องกันมิให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถจัดหาอุปกรณ์ในการก่อเหตุได้ง่าย จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการร้านจำหน่ายปุ๋ยและเคมีภัณฑ์ ในการช่วยเหลือทางราชการด้วยการเฝ้าระวังเพื่อป้องกันเหตุ เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในร้าน การสังเกตและจดจำผู้ซื้อที่มีลักษณะท่าทีน่าสงสัย การจัดซื้อปุ๋ยเคมีที่อาจนำไปประกอบเป็นวัตถุระเบิดได้ เช่น แอมโมเนียมไนเตรท โปรเตสเซียมคลอเรต เป็นต้น

+++พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร) กล่าวถึง พฤติกรรมตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่กระทบต่อภาพลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าได้ทำบันทึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว เห็นว่าปัญหานี้ระดับไม่ธรรมดา ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกกฎหมาย ผู้นำประเทศต้องรู้ปัญหา และช่วยเหลือแก้ไข ฝากพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.ไปแล้วให้แก้ไขต่อ

เพราะเรื่องนี้กระทบความน่าเชื่อถือ ภาพลักษณ์ เศรษฐกิจ ความมั่นคงของประเทศ

+++เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินคดีลงโทษนายวีระพัน หรือเฒ่า อินทะวง มาเฟียสยาม อายุ 38 ปี สัญชาติลาว หลังจับได้ที่สถานีรถไฟฟ้าสุทธิสาร เมื่อวันที่ 8 กันยายน แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 กล่าวว่า นายวีระพัน เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายมานานแล้ว เคยทำงานที่บ่อนการพนันแห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานครเมื่อหลายปีก่อน ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด พร้อมให้ผู้ที่เคยถูกนายวีระพันทำร้ายร่างกายสามารถเข้าชี้ตัวผู้ต้องหาได้ที่ สน.ปทุมวัน

+++หลังจากศาล นัดฟังคำพิพากษาคดีฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง ส.ต.ต.บัณฑิต หรือนายบัณฑิต สิทธิทุม อายุ 48 ปี อดีตตำรวจ สภ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย ร่วมกระทำให้เกิดระเบิดเป็นอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินผู้อื่น ร่วมกันมีปืน เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดไปในเมือง ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร กรณีเมื่อวันที่ 20 มี.ค.2553 จำเลยกับพวกอีก 1 คน ร่วมกันใช้เครื่องยิงจรวดอาร์พีจี 2 เล็งและยิงลูกระเบิดไปยังอาคารกระทรวงกลาโหม เขตพระนคร พื่อข่มขู่ให้รัฐบาลยุบสภา ทำให้นายศักดิ์ หาญสงคราม บาดเจ็บและสายเคเบิลโทรศัพท์ของ บ.ทีโอที จก. (มหาชน) เสียหายรวมมูลค่า 39,421 บาท เหตุเกิดหลายพื้นที่เกี่ยวพันกัน เมื่อถึงเวลานัดมีเพียงผู้รับมอบฉันทะโจทก์และนายประกันมาศาล ขณะที่จำเลยทราบนัดแต่ไม่ได้เดินทางมา โดยไม่ได้แจ้งเหตุอันควรและไม่สามารถติดต่อได้ ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยไม่มาศาลถือว่ามีพฤติการณ์จงใจหลบหนี ให้ออกหมายจับเพื่อนำตัวมาฟังคำพิพากษา ปรับนายประกันเต็มตามสัญญา ยึดเงินสด 1 ล้านบาท เลื่อนนัดฟังคำพิพากษาในเวลา 09.00 น. วันที่ 20 ต.ค. คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2554 จำคุกจำเลย 38 ปี และริบของกลาง ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 56 ให้ยกฟ้องจำเลย ขณะที่โจทก์ยื่นฎีกา

+++ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีการพิพากษาตัดสินคดี นายอดิศักดิ์ ศรีสะอาด หรือ กายสัก หรือ เบนซ์ ท่าทราย อายุ 26 ปี อดีตพ่อค้ายาเสพติดชื่อดัง ที่ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจรับสินบน กระทั่งเป็นข่าวดังกระหึ่มในโลกโซเชียล พร้อมขู่ ฆ่าตำรวจโรงพักศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ยกโรงพัก และเจ้าหน้าที่ไปควบคุมตัวได้ที่จุดตรวจบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี เมื่อวันนี้ 11 มี.ค.2558 ก่อนนำตัวมาสอบสวน และฝากขังที่เรือนจำสุพรรณบุรี ล่าสุด ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี พิพากษา คดีของ เบนซ์ ท่าทราย ในข้อหามียาบ้า 35 เม็ด และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้พิพากษา นายเบนซ์ และแฟนสาว ในข้อหาร่วมกันมียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย พร้อมอาวุธปืน 2 กระบอก พร้อมสั่งให้จำคุก 5 ปี ปรับเงินอีก 400,000 บาท  พ.ต.อ.สุทธิ พวงพิกุล รอง ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี ระบุถึง กรณีที่นายเบนซ์ อ้างถึงตำรวจนายหนึ่งของ สภ.ศรีประจันต์ ว่า รับส่วยยาบ้า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ปรากฏว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลเลื่อนลอย ไม่มีความเป็นจริง นายตำรวจคนดังกล่าว ทำงานปราบปรามด้านยาเสพติด มาอย่างต่อเนื่องได้ไล่ล่าแก๊งของนายเบนซ์ จนทำให้นายเบนซ์โกรธ และได้โพสต์ข้อความใส่ร้ายจนเสื่อมเสีย