นายกรัฐมนตรีลาร์ส ล็อคเก้ รัสมุสเซ่น แห่งเดนมาร์ก กล่าวว่า เดนมาร์กตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการที่ผู้อพยพทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะเดินทางต่อไปยังสวีเดน ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันไม่ใช่เพียงเรื่องผู้ลี้ภัย แต่ยังเป็นการอพยพและการลักลอบเข้าเมืองด้วย จึงประกาศหยุดการเดินรถไฟทุกขบวนทั้งไปและกลับจากเยอรมนี หลังตำรวจสกัดจับผู้อพยพหลายร้อยคนที่ด่านตรวจชายแดน โดยพบในรถไฟ 2 ขบวน ขบวนละมากกว่า 200 คน แต่ผู้อพยพจำนวนมากไม่ยอมลงจากรถไฟ โดยอ้างว่าไม่ต้องการลงทะเบียนเป็นผู้ลี้ภัยที่เดนมาร์ก นอกจากนี้ยังให้ปิดทางเลี่ยงเมืองระหว่าง 2 ประเทศ เนื่องจากพบผู้อพยพประมาณ 300 คนที่ต้องลงมาจากรถไฟ จะเดินไปตามถนนสายนี้มุ่งหน้าไปทางเหนือ ซึ่งผู้อพยพกลุ่มนี้ระบุว่าพวกเขาต้องการเดินทางไปสวีเดน นับจากช่วงสุดสัปดาห์ เดนมาร์กพบผู้อพยพที่พยายามเดินทางเข้ามาในประเทศ 3,000 คนแล้ว
และในเวลาเดียวกันกับที่สหภาพยุโรป หรืออียูกำลังประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจ ทางคณะกรรมาธิการยุโรป ประกาศระบบสัดส่วนในการจัดการผู้อพยพที่ลงทะเบียนเป็นผู้ลี้ภัยแล้วจำนวน 120,000 คน พร้อมสนับสนุนให้ผู้อพยพลี้ภัยเหล่านี้ เข้าสู่ระบบแรงงานเพื่อให้มีรายได้และไม่เป็นภาระของประเทศที่รับดูแล
รัฐบาลปัจจุบันของเดนมาร์กเป็นรัฐบาลที่มีนโยบายชาตินิยมขวาจัด ชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนมิถุนายนด้วยการประกาศนโยบายที่จะเพิ่มความเข้มงวดในการจัดการปัญหาผู้อพยพลี้ภัยมากกว่าเดิม พร้อมไปกับการเพิ่มสิทธิ์ของพลเมืองสัญชาติเดนมาร์ก
...F163..