เมืองไทยฯ (1): สปช.ลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ -เตรียมตั้งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ/ตร.ขอออกหมายจับเพิ่มขบวนการวางระเบิด*

เมื่อวานนี้ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มีมติไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ....  ด้วยคะแนนเสียง 135 ต่อ 105 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง โดยมีนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.เป็นประธานที่ประชุม

โดยในการลงมติ สปช.ที่เป็นสายทหารส่วนใหญ่ออกเสียงไม่เห็นชอบ มีเพียง พล.ร.อ.พระจุณณ์ ตามประทีป , พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช และ พล.อ.นคร สุขประเสริฐ ที่ออกเสียงเห็นชอบ ขณะที่ พล.อ.นาวิน ดำริกาญจน์ ที่เป็นกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญงดออกเสียง

ขณะที่ สปช.สายจังหวัด , สปช.กลุ่มพลังงาน , กลุ่มเศรษฐกิจ , การเมือง และกลุ่ม สปช.ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนผู้ที่สร้างความแปลกใจด้วยการออกเสียงไม่รับร่างคือ นายชัยอนันต์ สมุทวณิช และนายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์

หลังการลงมติ นายเทียนฉายประกาศผลการลงมติและแจ้งปิดการประชุม สปช.แบบถาวร พร้อมขอบคุณสมาชิก สปช. รวมทั้ง กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญที่ทำงานร่วมกันมานานหลายเดือน สำหรับขั้นตอนต่อไป สปช.จะแจ้งผลการลงมติให้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ จากนั้นภายใน 30 วัน คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะตั้งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 21 คน และร่างให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน แล้วนำส่ง ครม.และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อทำประชามติ หากผ่านประชามติให้นำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย และเร่งทำกฎหมายเลือกตั้งและกำหนดวันเลือกตั้ง  แต่หากกรณีไม่ผ่านประชามติก็ต้องเริ่มกระบวนการร่างใหม่

นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ถ้าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านจาก สปช.ก็จะดีใจ แต่เหนื่อย เพราะต้องไปชี้แจงการทำประชามติ รวมถึงกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอีกหลายฉบับ แต่ถ้าไม่ผ่านก็โล่งใจ เพราะไม่ต้องรับผิดชอบอะไรอีกต่อไป

ขณะที่นายสิระ เจนจาคะ สมาชิก สปช.แถลงว่า การลงมติมีเรื่องที่ผิดปกติ และในวันนี้จะคืนเงินเดือนที่ได้รับจากการเป็นสมาชิก สปช.จำนวน 1 ล้าน 7 แสนบาทส่งคืนสำนักงานเลขาฯ สภาผู้แทนราษฎร

อย่างไรก็ตาม ด้านนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธาน กมธ.ปฏิรูปการเมือง และสปช.อีกหลายคน ให้เหตุผลว่า สาเหตุที่ทำให้ สปช.โหวตคว่ำร่างมาจาก 3 เหตุผล คือ เนื้อหาร่าง รธน.มีปัญหา อาทิ ที่มาของนายกฯ คนนอก , ที่มาของ ส.ว.สรรหา , ระบบการเลือกตั้งผสม เรื่องของคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) และหากร่าง รธน.ผ่านจะมีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายการทำประชามติ ที่จะยึดหลักเสียงส่วนใหญ่ของผู้มีสิทธิ์ มั่นใจได้ว่าจะไม่มีเสียงประชาชนเห็นชอบถึง 23 ล้านเสียงขึ้นไป ประกอบกับ 2 พรรคการเมืองใหญ่ไม่เห็นด้วยกับร่างฉบับนี้ จึงเห็นควรว่าไม่ควรที่จะเสียเวลาทำประชามติอีก 4 เดือนและเสียงบประมาณอีก 4,000 ล้านบาท ทั้งยืนยันว่าไม่มีการล็อบบี้ และไม่มีการเสนอตำแหน่งหรือพูดถึงตัวเลขใดๆ ทั้งสิ้น

พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 44 ออกคำสั่งถอดยศ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เพื่อเป็นการลดพระราชภาระ

จากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ และบริเวณท่าเรือสาทร สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 17 และ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา จากนั้นตำรวจและทหารสนธิกำลังจับกุม นายเอเดม การาดัค และนายไมไรลี ยูซุฟู ซึ่งเชื่อว่าเป็นมือประกอบระเบิดและจากการสอบปากคำนำไปสู่การออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการแล้ว 9 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 1 คน ซึ่งเป็นชาวไทย คือน.ส.วรรณา สวนสัน หรือไมซาเราะห์

ทั้งนี้ นายไมไรลี ยูซุฟู สารภาพว่าเป็นคนนำระเบิดไปส่งให้ชายเสื้อเหลืองบริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง และไปรออยู่บริเวณสกายวอร์คห่างจากศาลท้าวมหาพรหม 200-300 เมตร แล้วกดชนวนระเบิด โดยยังถ่ายภาพเหตุการณ์ไว้ในกล้องโทรศัพท์มือถือด้วย ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคงเก็บไว้เป็นหลักฐานแล้ว นอกจากนี้นายยูซุฟู ยังรับสารภาพว่ารู้จักกับชายเสื้อเหลืองและเสื้อฟ้าที่ปรากฏในภาพว่าเป็นผู้วางระเบิดด้วย

โดยในวันนี้ พนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาในขบวนการวางระเบิดเพิ่มเติมอีก และ คณะทำงานกฎหมายส่วนรักษาความสงบ คสช. ประสานพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ส่งมอบตัวนายมิราลลี ยูสูฟู อายุ 26 ปี ให้พนักงานสอบสวน

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) และโฆษก ตร. กล่าวว่า พนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องคดีลอบวางระเบิดเพิ่มเติม ขณะนี้คดีคืบหน้าไปมาก ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมและถูกออกหมายจับมีส่วนเกี่ยวข้องจัดหาระเบิด ช่วยเหลือสนับสนุนและพาหลบหนี ขอเวลาให้ตำรวจทำงาน

โดยในวันนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  (ผบ.ตร.) มีคำสั่งเรียกประชุม ผกก.ด่าน ตม. ทุกด่านทั่วประเทศ หลังรัฐบาลมีนโยบายเข้มงวดกับกลุ่มชาวโรฮีนจาและชาวอุยกูร์ ทำให้มีผู้สูญเสียผลประโยชน์ออกมาตอบโต้ก่อเหตุรุนแรง จึงต้องแก้ไขปัญหาเรื่องด่าน ตม.และการปลอมแปลงหนังสือเดินทาง

ด้านพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ก่อเหตุ เนื่องจากพบว่าผู้ก่อเหตุได้ประโยชน์จากการใช้ช่องทางการเงินเพื่อก่อเหตุ

 ...