ทันสถานการณ์ฯ:ผู้อพยพจากซีเรียมุ่งหน้ายุโรป-เร่งแก้ปัญหาค้ามนุษย์/จี20เห็นพ้องเลิกแข่งลดค่าเงิน/แนวโน้มจีดีพียูโรโซนลดลง

07 กันยายน 2558, 06:15น.


จากวิกฤติผู้อพยพที่ยังคงหลั่งไหลเข้าสู่ยุโรป องค์กรตำรวจสากลแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรโปล) คาดว่า ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ที่ลักลอบขนผู้อพยพอย่างผิดกฎหมาย อาจมีมากถึง 3 หมื่นคน โดยก่อนหน้านี้ ตำรวจตุรกี จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ 4 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวซีเรีย และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้อพยพชาติเดียวกัน 12 คน รวมถึงเด็กชายซีเรีย วัย 3 ขวบ



โดยสหภาพยุโรป (อียู) เตรียมทำข้อตกลงกับผู้นำกลุ่มประเทศแอฟริกัน เพื่อจัดการเครือข่ายค้ามนุษย์ ในการประชุมสุดยอดผู้นำอียู-แอฟริกา ที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้



ซึ่งจากการที่ฮังการียอมเปิดด่านชายแดนติดกับออสเตรีย และจัดรถบัสนำผู้อพยพนับพันคนไปส่งที่ชายแดน เจ้าหน้าที่ออสเตรียเผยว่า ภายในรอบ 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้อพยพถึงราว 10,000 คนผ่านแดนเข้าสู่ประเทศ ทั้งรถบัส รถไฟ และการเดินเท้า โดยออสเตรีย กับ เยอรมนี เพิ่มการเดินรถไฟเพื่อรับผู้อพยพ เนื่องจากผู้ที่มาถึงฮังการี และออสเตรียแล้ว จะเดินทางต่อไปยังเยอรมนี เฉพาะวันเสาร์วันเดียว มีผู้อพยพเดินทางถึงเมืองมิวนิก ที่อยู่ทางใต้ของเยอรมนี 7,000 คน ซึ่งจะถูกส่งไปยังศูนย์รองรับเพื่อลงทะเบียนและรับแจกอาหารและเสื้อผ้า



อย่างไรก็ยังมีผู้อพยพที่อยู่ในศูนย์พักพิงที่กรีซ อิตาลี และ ฮังการีทีก่อเหตุรุนแรง มีการทำลายทรัพย์สินภายในศูนย์ เพราะไม่พอใจสภาพความเป็นอยู่ที่มีความแออัด ไปจนถึงต้องการเดินทางต่อไปยังเยอรมนีโดยเร็ว



ส่วนการที่นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ผู้นำเยอรมนีกล่าวว่า เยอรมนีสามารถรองรับคลื่นผู้อพยพได้ ทำให้กระแสต่อต้านผู้อพยพในเยอรมนีมีความรุนแรงขึ้น และนักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน กังวลว่าอาจเป็นการส่งสัญญาณผิดๆ       



ด้านนายกรัฐมนตรีโทนี แอบบอต แห่งออสเตรเลีย ประกาศเพิ่มสัดส่วนการรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียจากยุโรป และมอบให้นายปีเตอร์ ดัตตัน รัฐมนตรีกิจการตรวจคนเข้าเมือง ไปนครเจนีวาเพื่อหารือกับสหประชาชาติในการให้ความช่วยเหลือเรื่องผู้อพยพ          



นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป กล่าวเรียกร้องให้สมาชิกอียูทั้ง 28 ประเทศมีความร่วมมือกันให้มากกว่านี้ และทำตามข้อตกลงเรื่องสัดส่วนการรับผู้อพยพ



จากการประชุมรัฐมนตรีคลังและ เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ ที่กรุงอังการา ของตุรกี โดยที่ประชุมเห็นพ้องที่จะยุติการแข่งขันลดค่าเงิน หลังจากที่จีนปรับลดอัตราอ้างอิงแลกเปลี่ยนเงินหยวนหลายครั้งติดต่อกัน จนทำให้หลายประเทศพิจารณาหรือปรับลดค่าเงิน เกิดความวิตกกังวลในวงกว้างว่าโลกกำลังเข้าสู่ภาวะสงครามค่าเงิน โดยจี 20 ที่มีจีนเป็นสมาชิกร่วมอยู่ด้วยนั้น เห็นพ้องที่จะหยุดการลดค่าเงินและหยุดนโยบายการปกป้องตัวเองทางการค้าและเศรษฐกิจในทุกรูปแบบ



นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ชี้แจงว่า การปรับลดค่าเงินหยวนไม่ใช่ความพยายามที่จะแย่งชิงพื้นที่ในการส่งออก แต่เพื่อผ่อนคลายกลไกตลาด ให้สามารถกำหนดทิศทางของเงินหยวนได้มากขึ้น



ด้าน นายซูจุน ผู้อำนวยการฝ่ายระหว่างประเทศของธนาคารกลางจีน เปิดเผยว่า ความเปราะบางที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นจีน ใกล้ที่จะมาถึงจุดสิ้นสุดแล้วเช่นกัน โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตของจีนแตะจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน แต่หลังจากนั้น ก็ปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่องถึงร้อยละ 39 มูลค่าตลาดหายไปถึง 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ



ส่วนกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) รายงานว่า การที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง และตลาดหุ้นจีนลดลงอย่างต่อเนื่องมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดยปัญหาระยะสั้น คือ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับลดลง และความแปรปรวนของตลาด แต่ยังคงระดับคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของทั้งโลกในปีนี้เอาไว้ที่ร้อยละ 3.3 ลดลงร้อยละ 0.1 จากสถิติเมื่อปีที่แล้ว โดยไอเอ็มเอฟเรียกร้องให้รัฐบาลจีนใช้มาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจต่อไป 



ด้านนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) แถลงปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของ จีดีพี ยูโรโซนในปีนี้ จากร้อยละ 1.5 ลงเหลือร้อยละ 1.4 ขณะที่คาดการณ์จีดีพีของยูโรโซนสำหรับปีหน้าอยู่ที่ร้อยละ 1.7 ลดลงจากร้อยละ 1.9 โดยอัตราเงินเฟ้อเดือนสิงหาคมอยู่ที่ร้อยละ 0.2 จากที่ตั้งเป้าหมายไว้ร้อยละ 2.0 ก่อให้เกิดความกังวลว่ายูโรโซนอาจตกอยู่ในภาวะเงินฝืดอีกครั้ง เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังคงตกต่ำ เงินยูโรยังแข็งค่า และมีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจยังชะลอตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้อัตราเงินเฟ้อไม่สามารถถึงเป้าหมายจนถึงปี 2561



ตำรวจโรมาเนีย จับกุมนายโซริน โอเปรสคู นายกเทศมนตรีกรุงบูคาเรสต์ เมืองหลวงของประเทศโรมาเนีย ฐานมีพฤติกรรมรับเงินสินบนจากบริษัทต่างๆ แลกกับการให้บริษัทเหล่านี้ได้รับสัญญาทำโครงการก่อสร้าง  โดยนายโอเปรสคู วัย 63 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีบูคาเรสต์เป็นสมัยที่ 2 เรียกรับเงินสินบนร้อยละ 10 ของผลกำไรขั้นต้น และอัยการเรื่องต่อศาลเพื่อหาให้ขยายเวลาคุมขังอีก 1 เดือน ในระหว่างที่กำลัลมีการสืบสวน



หนังสือพิมพ์เดลี เทเลกราฟ รายงานว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมอังกฤษอย่างช้าๆ พฤติกรรมการดื่มกินในไนท์คลับของชาวอังกฤษลดลง จนส่งผลให้ไนท์คลับทั่วประเทศต้องปิดตัวลงราวครึ่งหนึ่ง จาก 3,144 แห่ง เหลือเพียง 1,733 แห่ง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการบริโภคแอลกอฮอล์ที่ลดลง และการห้ามสูบบุหรี่ การแจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามีการส่งเสียงดังรบกวนจากไนท์คลับในละแวกบ้านเรือน



*-*

ข่าวทั้งหมด

X