*นายกฯระบุแรงงานลุ่มน้ำโขง ต้องเร่งพัฒนาฝีมือแรงงาน เฝ้าระวังปัญหาข้ามแดง

การพัฒนา ยกระดับ แรงงาน  ในกลุ่มประเทศในลุ่มน้ำโขง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คสช. กล่าวในพิธีเปิดงานการประชุมความร่วมมือเชิงวิชาการด้านแรงงานระดับรัฐมนตรีกับประเทศเพื่อนบ้าน ว่า  กว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ที่ประเทศในกลุ่มลุ่มน้ำโขงได้ร่วมมือกันทางด้านเศรษฐกิจ เพื่อที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในแต่ละท้องถิ่นให้เชื่อมโยงกับอาเซียน โดยเฉพาะการยกระดับทางด้าน ทักษะฝีมือ ระบบของแรงงานให้มีคุณภาพ ควบคู่กับการส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน   ในอนาคตที่จำนวนประชากรในแต่ละประเทศจะเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้นประเทศในกลุ่มลุ่มน้ำโขงจึงต้องดูแลในเรื่องของการข้ามเขตแดนให้ดี โดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคง ซึ่งควรที่จะต้องมีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นมาเพื่อดูแลซึ่งในประเทศไทยจะเริ่มต้นที่ จุดผ่านแดนแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งจะต้องเร่งจดทะเบียนและพิสูจน์สัญชาติ จากประเทศต้นทางเพื่อให้สามารถออกใบอนุญาตถาวรให้ได้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา และความล้าช้า ภายหลังจากปี 2559 จะไม่อนุญาตให้แรงงานต่างชาตินำญาติติดตามเข้ามาทำงาน พร้อมเสนอให้จัดทำฐานข้อมูลแรงงานในพื้นฐานเดียวกันของกลุ่มลุ่มน้ำโขง 

หลังการประชุมในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะมีความต่อเนื่องและติดตามการประเมินผล เนื่องจากเพราะจะมีผลต่อการใช้จ่ายงบประมาณที่จะต้องมุ่งสู่ผลสัมฤทธิ์และวางอนาคตในด้านแรงงานให้ชัดเจนในทุกๆเรื่อง เพื่อให้ภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเป็นกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา แต่อย่างไรก็ตามการดำเนินการต่างๆ ทุกประเทศก็จะต้องดำเนินไปพร้อมๆกัน โดยที่จะไม่ทิ้งประเทศใดไว้ข้างหลัง ซึ่งต่อจากนี้ทุกประเทศจะต้องลดความหวาดระแวง ความขัดแย้งตามแนวชายแดน เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม ลดการทุจริต และขอให้เข้าใจในเรื่องการจัดระเบียบแรงงานเพื่อไม่ให้ปัญหาเหล่านี้เกิดปัญหาในอนาคต

สำหรับ การประชุมความร่วมมือเชิงวิชาการด้านแรงงานระดับรัฐมนตรีกับประเทศเพื่อนบ้าน ครั้งนี้ มีรัฐมนตรีแรงงาน และหัวหน้าคณะผู้แทนแต่ละประเทศ อาทิ กัมพูชา ,ลาว ,เมียนมา ,เวียดนาม และไทย เข้าร่วม