*รอบวัน:ตร.ออกหมายจับคนที่ 9 เหตุระเบิด/ขายสลากเสรี/ศาลฎีกาฯตัดสินคดีนพดล หนุนเขมรขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร*

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.

+++เหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์  ตัวละครเริ่มประกอบติดกันมากยิ่งขึ้น ล่าสุด ตำรวจค้นบ้านพักในซ.ราษฎร์อุทิศ พบสารประกอบหลายแกลลอน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แถลงวานนี้ (3ก.ย.) ว่าการติดตามสืบสวนคดีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทรมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ต้องสงสัยที่ควบคุมตัวไว้ 2 ราย คือนายอาเดม คาราดัก ซึ่งถูกจับได้ที่พูลอนันต์อพาร์ตเมนต์ เขตหนองจอก เมื่อวันที่ 29ส.ค.และนายยูซุฟู มีไรลี ซึ่งถูกจับได้ที่ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 1 ก.ย.

+++พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง แต่บางรายละเอียดอาจไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอาจจะทำให้ทำงานของเจ้าหน้าที่ยากยิ่งขึ้น และผู้ต้องสงสัยอาจรู้ตัวหลบหนีไปได้       สำหรับสาเหตุของการก่อเหตุเบื้องต้นตนเชื่อว่ามาจากกลุ่มที่เสียประโยชน์ด้านการค้ามนุษย์จากการที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปราบปราม แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นอื่นๆทิ้ง จนกว่าจะได้ผลการพิสูจน์พยานหลักฐานที่ชัดเจน

+++พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าผู้ต้องหาที่ถูกคุมตัวทั้ง 2 คน อยู่ระหว่างการสอบสวนของฝ่ายทหาร และการพิสูจน์พยานหลักฐานให้ครบถ้วน รวมถึงการตรวจสอบดีเอ็นเอ ที่คาดว่าจะได้ภายใน 2-3 วันนี้ แต่ในเบื้องต้นยืนยันแน่ชัดว่าทั้ง 2 คนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดแน่นอน     ส่วนเรื่องสัญชาติ ยังไม่มีการยืนยันว่าเป็นบุคคลสัญชาติใด เนื่องจากต้องรอการตอบกลับจากประเทศนั้นๆ ที่ได้ประสานไปแล้ว

++++ส่วนกรณีของ นส.วรรณา สวนสัน และ นายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะเข้าให้ข้อมูลแต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นเมื่อใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ปักใจเชื่อว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 อยู่ที่ประเทศตุรกี แต่ก็ได้ประสานไปยังตำรวจสากลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนการเดินทางกลับไทย ตนจะขอความอนุเคราะห์ไปยังการบินไทยในเรื่องนี้ด้วย

+++ นอกจากนี้ยังเชื่อได้ว่ากลุ่มคนร้ายอาจมีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิด 2 แห่ง ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเชื้อปะทุและฝักแคที่ใช้จุดชนวนระเบิดเป็นชนิดเดียวกัน ฝักแคสีชมพูที่พบในห้องพักพูลอนันต์อพาร์ตทเม้นต์ไม่มีขายทั่วไปในประเทศไทย แต่มีขายในประเทศมาเลเซีย เพราะเป็นยุทธภัณฑ์ที่ทางราชการไม่อนุญาตให้มีไว้ในความครอบครอง แต่ขณะเดียวกันเคยพบหลักฐานเป็นฝักแคสีชมพูเคยถูกนำไปใช้ก่อเหตุวางระเบิดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อปี2551 และ2553

++ส่วนการตรวจสอบร่างกายของนายยูซุฟู ที่พบว่ามีรอยแผลเป็นบริเวณคางด้านขวา นายยูซุฟู ให้การว่าเป็นแผลที่เกิดจากการเตะฟุตบอล แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ โดยได้ให้แพทย์ทหารมาตรวจสอบบาดแผลว่าเกิดจากอุบัติเหตุการผสมสารเคมี หรือไม่ รวมถึงตรวจสอบลายนิ้วมือบนกระดาษจดสูตรเคมีที่พบในห้องพักกับลายนิ้วมือของนายยูซุฟู เพราะน่าเชื่อว่านายยูซุฟู อาจจะเขียนสูตรนี้ขึ้นมาเอง เนื่องจากมีความรู้ด้านเคมี เพราะเคยเรียนสาขาเทคนิคการแพทย์ ที่มหาวิทยาลัยในประเทศจีน  ต่อมา ศาลจังหวัดมีนบุรีออกหมายจับนาย ยูซุฟู มีไรลี่ เลขหมายจับที่ จ.813/2558 ในข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย

++++ขณะเดียวกันสถานทูตตุรกีในไทยออกแถลงการณ์ว่าได้ขอความชัดเจนไปยังกระทรวงต่างประเทศของไทยว่าผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 29 ส.ค. เป็นชาวตุรกีหรือไม่ รวมถึงขอความชัดเจนเกี่ยวกับหนังสือเดินทางตุรกีที่มีการเผยแพร่ทางสื่อ    นอกจากนั้น สถานทูตไทยประจำกรุงอังการาได้ระบุว่าไม่มีข้อมูลชัดเจนในประเด็นนี้ ขณะที่มีรายงานในสื่อว่าผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับเมื่อวันที่ 31 ส.ค. บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มีหนังสือเดินทางจีน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไทยควรให้ข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้องเกี่ยวกับรายงานข่าวนี้

+++กองสลากเปิดจองซื้อสลากเสรี กำหนดรายละ 5-50 เล่ม เริ่มงวดวันที่ 1 พฤศจิกายน เพื่อให้ผู้ค้ารายย่อยเข้าถึงสลากมากขึ้น พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประธานกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ที่ทำแบบนี้เพราะต้องการรู้ตัวเลขผู้ซื้อผู้ขายที่แท้จริง แม้ที่ผ่านมาการมีระบบโควต้า แต่ก็มีบัญชีผี บัญชีปลอม พอเข้าไปตรวจสอบรายชื่อพบชื่อซ้ำ และมีการเรียกร้องโควต้าเพิ่มตลอดเวลา ดังนั้นนโยบายนี้เพื่อให้ทราบว่าควรจะพิมพ์สลากที่แท้จริงเท่าไรแน่ อย่าลืมว่าแต่ละเดือนความต้องการไม่เท่ากัน อย่างช่วงสงกรานต์ขายดี ช่วงปิดเทอมขายไม่ดี การจองผ่านธนาคารต้องมีเงินสดในมือและฝากในบัญชีธนาคารกรุงไทย และเงินในบัญชีเพียงพอที่จะซื้อหรือจอง เช่น จะซื้อ 5 เล่ม ก็นำเงินเข้าบัญชี 3 หมื่นกว่าบาท เมื่อเข้าถึงระบบซื้อหรือจองได้แล้ว จะตัดยอดเงินในบัญชีทันที ระบบการขายสลากผ่านธนาคารกรุงไทยจะวางเงินวันที่ 1 ของเดือน ได้สลากวันที่ 4-7 ของเดือน และขายสลากได้ทันที อีกทั้งแบบใหม่ได้สลากที่ต้นทุนถูกลงที่ใบละ 70.40 บาท กำไร 12% แทนที่จะซื้อจากผู้ค้าส่งที่ได้กำไรเพียงแค่ใบละ 2-3 บาท

+++ประเด็นร้อนวันนี้ 13.00 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพิพากษาคดี"นพดล ปัทมะ"อดีต รมว.ต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบหนุนกัมพูชาขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก

+++ วันนี้กระทรวงอุตสาหกรรมจะเสนอแผนบูรณาการเพื่อ ช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อมต่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีวงเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 1.04 แสนล้านบาท

++++ปัญหาหนี้ครัวเรือน ทะลัก นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงสถานสภาพหนี้ภาคครัวเรือน พบว่าประชาชน 80.2% ของกลุ่มตัวอย่างมีภาระหนี้ครัวเรือนถือว่าสูงสุดในรอบ 10 ปี และ 87.8% มีปัญหาในการชำระหนี้ซึ่งก็ถือว่าสูงสุดตั้งแต่มีการสำรวจมาเช่นกันมูลค่าหนี้สินต่อครัวเรือนโดยรวม อยู่ที่ 248,004 บาท เพิ่มขึ้น 13.16% ชี้ให้เห็นว่าครัวเรือนมีความเปราะบางทั้งรายได้และสภาพเศรษฐกิจต่อเนื่อง 3 ปีติดต่อกัน  ผลสำรวจยังชี้ว่าคนมีแนวโน้มพึ่งพาหนี้นอกระบบมากขึ้น และเงินที่กู้มาส่วนใหญ่นั้นก็เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

+++ตำรวจรวบทีมสังหาร นายสมยศ สุธางค์กูร อดีตเจ้าพ่อคาเฟ่ พระราม 9 หลังจับมือปืนคือ นายภาณุพงษ์ หรือแจ้ รัสนา รับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงนายสมยศจริง โดยได้รับค่าจ้างจำนวน 300,000 บาท แบ่งเป็น 2 งวด งวดแรกก่อนก่อเหตุยิงนายสมยศจำนวน 30,000 บาท และงวดที่ 2 หลังลงมือสำเร็จแล้วอีก 270,000 บาท โดยก่อนเกิดเหตุนายกฤษฎา หรือนก ใจเอม ซึ่งรู้จักกับนายภานุพงษ์ได้ติดต่อให้ไปทวงหนี้ และได้นัดพบกันกับนายกฤษฎา และผู้ชายที่นายกฤษฎาเรียกว่าอาจารย์ คือนายชม ไชยณรงค์ ที่โรงแรมย่านถนนเลียบคลองสอง ภายหลังนายชมเกิดเปลี่ยนใจบอกว่าไม่ต้องทวงหนี้แต่ให้ลงมือสังหารแทน  ต่อมาเวลา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป.ได้นำตัวนายชม ไชยณรงค์ อายุ 53 ปี  สาเหตุสังหารนายสมยศเกี่ยวข้องกับการหักหลังเรื่องเงินจำนวนหลายล้านบาท เกี่ยวกับการไปว่าคดี ซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ตำรวจจึงต้องระมัดระวังในการข่าวเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทจากการตรวจสอบพบว่านายชมเคยต้องโทษมาหลายคดี อาทิ คดีที่ร่วมกับ พ.ต.ท.พันธุ์ศักดิ์ มงคลศิลป์ อุ้มฆ่าแม่-ลูกตระกูลศรีธนะขัณฑ์ ขณะเดียวกันพัวพันกับคดีอุ้มฆ่าที่ จ.สระแก้วหลายคดี และมีหมายจับในคดีอุ้มฆ่าติดตัวอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอุกฉกรรจ์ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี หลายคดี