*ครม.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นศก.ฐานราก อัดฉีดเม็ดเงินช่วยผู้มีรายได้น้อย*

01 กันยายน 2558, 16:00น.


หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. อนุมัติมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้ต่ำและเกษตรกร รวมถึงการกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ อนุมัติเงินกองทุนหมู่บ้านจำนวน 6 หมื่นล้านบาท อนุมัติเงินใชัจ่ายผ่านตำบล จำนวน 3 หมื่น 6 พันล้าน และเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ โดยมาตรการที่จะช่วยเหลือประชาชนดังกล่าว ไม่อยากให้มองว่าเป็นการใช้นโยบายประชานิยมหรือไปลอกใครมา แต่อยากให้มองว่าขณะนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อน เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องเร่งแก้ปัญหา และไม่อยากให้กังวลเรื่องการแบกรับอัตราดอกเบี้ย หากมีมาตรการการคลังที่ดีจะสามารถใช้หนี้ได้อย่างรวดเร็ว อยากให้นึกถึงตอนประเทศไทยเป็นหนี้ในปี 2540 ที่ประเทศไทยสามารถชำระหนี้ได้ก่อนกำหนด ซึ่งในยุคนั้นได้มีการกำหนดตัวเลขการชำระหนี้ที่ชัดเจน และหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ที่ดี จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้



นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการช่วยเหลือประชาชนในส่วนของกองทุนหมู่บ้าน ทางรัฐบาลจะจัดสรรให้หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท  โดยรัฐบาลจะกู้จากธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร  (ธกส.) ธนาคารละ 3 หมื่นล้านบาท เพื่อที่จะช่วยเติมให้ประชาชนที่ขาดแคลน และสามารถทำให้เงินไหลลงสู่ประชาชนได้เร็ว โดยเงื่อนไขการปล่อยกู้ คือ สามารถกู้ได้ตามความจำเป็น ไม่กำหนดเพดาน และสามารถชำระหนี้ได้ภายใน 7 ปี โดย 2 ปีแรก จะไม่มีดอกเบี้ย เนื่องจากรัฐบาลจะให้การช่วยเหลือ และหลังจากนั่นจะเป็นดอกเบี้ยอัตราต้นทุน +ร้อยละ  1 ตามระยะใช้หนี้แต่ละปี แต่ไม่เกิน ต้นทุน + ร้อยละ 4 โดยจะให้แต่ละหมู่บ้านดูแลและพิจารณาอัตราปล่อยกู้กันเอง เพื่อที่จะให้ประชาชนนำไปใช้จ่ายหมุนเวียนตามความจำเป็นหรือนำไปเป็นต้นทุนสร้างรายได้ ส่วนจะนำเงินไปใช้หนี้นอกระบบก็สามารถทำได้



ส่วนมาตรการใช้จ่ายผ่านตำบล จำนวน 3 หมื่น 6 พันล้าน โดยจะมอบให้ตำบลละ 5 ล้าน ให้แต่ละตำบลนำไปจัดสรร วางแผน สร้างสาธารณูปโภค ทั้งการสร้างถนน การจัดหาแหล่งน้ำ การทำมาหากิน โดยมาตรการนี้จะเป็นมาตรการที่จะสร้างความเข้มแข็งภายในตำบล ให้รู้จักการวางแผน การบริหารจัดการ และจะให้กระทรวงมหาดไทยดูแล โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลงไปตรวจสอบ



ส่วนการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐในโครงการที่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท จะเร่งให้เบิกจ่ายเร็วขึ้นภายใน 3 เดือน โดยจะเร่งรัดให้มีการสนับสนุนการจัดซื้อจากภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME เพื่อที่จะสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับประชาชน

ข่าวทั้งหมด

X