การประชุมคณะกรรมมาธิการสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช. ) เพื่อหารือถึงระเบียบวาระการประชุมเพื่อลงมติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 6 ก.ย. นายอลงกรณ์ พลบุตร โฆษก วิป สปช. กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติกำหนดวันลงมติรัฐธรรมนูญและมีลำดับการประชุม โดยการลงมติวาระเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบรัฐธรรมนูญ ทั้งฉบับโดยไม่มีการอภิปราย และเมื่อเริ่มเปิดประชุมจะตั้งคณะกรรมการตรวจการลงคะแนนและนับคะแนน แบบเปิดเผยโดยเรียกชื่อสมาชิกตามลำดับ และประกาศคะแนนทันทีหลังเสร็จสิ้น ซึ่งคาดว่าใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หาก สปช. เห็นชอบรับร่างรัฐธรรมนูญ จะต้องแจ้งไปยังคณะรัฐมนตรี เพื่อให้แจ้งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ก.ก.ต.)กำหนดหลักเกณฑ์วันเวลา ในการออกเสียงลงประชามติ
โดยหากมีมติรับรับร่างรัฐธรรมนูญ สปช.จะมีการพิจารณาว่าควรถามคำถามในการทำประชามติหรือไม่ หากเห็นสมควรจะเข้าสู่การพิจารณาญัตติเดิมที่ค้างไว้ คือคำถามที่ว่าให้มีปฏิรูปประเทศ 2 ปีก่อนเลือกตั้งหรือไม่ และการมีกลไกป้องกันและขจัดความขัดแย้งที่นำไปสู่ความรุนแรงภายหลังการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่หากมีมติไม่เห็นชอบในร่างรัฐธรรมนูญ การทำงานของ สปช. และคณะกรรมมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจะถือว่าเสร็จสิ้นภารกิจตั้งแต่เวลา 24.00 ของวันลงมติ
ส่วนการประชุมวันนี้ นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ ประธานคณะกรรมยกร่างรัฐธรรมนูญยังได้ส่งหนังสือด่วน ซึ่งเป็นหนังสือร่างเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทั้งฉบับและเป็นรายมาตรา เพื่อให้มั่นใจว่าสมาชิกสปช.จะได้พิจารณาเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญอย่างครบถ้วน
สำหรับกรณี นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมมาธิการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมพร้อมคณะกรรมาธิการ ที่มีความสงสัยเกี่ยวกับการแล้วเสร็จของร่างรัฐธรรมนูญเนื่องจากไม่มีคำปรารภ และส่งหนังสือมายัง ประธาน สปช. ให้ส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย สปช. ไม่สามารถดำเนินตามคำขอได้เพราะไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ ซึ่งหากยังมีความสงสัยในประเด็นดังกล่าวก็สามารถส่งเรื่องไปยังคณะรัฐมนตรีโดยตรงได้