นายวราวุธ ขันติยานันท์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่าในวันที่ 2 กันยายน นายดิศธร วัชโรทัย รองราชเลขาธิการสำนักพระราชวัง พร้อมคณะจะร่วมกันบินไปตรวจสอบความก้าวหน้าในการงานทำงานของศูนย์ฝนหลวงพิเศษหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานให้ตั้งหน่วยฝนหลวงขึ้นที่ จ.นครสวรรค์ และจ.เชียงใหม่มาเป็นเวลาครบ 2 เดือน ของการปฏิบัติภารกิจตามแนวพระราชดำริฝนหลวงพระราชทานเพื่อจุดประสงค์หลักแก้ไขภัยแล้งเพื่อความชุ่มชื่นให้พื้นที่เกษตรและเพิ่มน้ำในเขื่อนซึ่งได้ถวายรายงานให้พระองค์ทุกวัน อย่างไรก็ตาม น้ำในเขื่อนภูมิพล เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในขณะนี้ยังมีปริมาณน้อย แม้ว่าจากปฏิบัติการฝนหลวงจะมีฝนตกทุกวันในพื้นที่เป้าหมาย แต่น้ำที่เข้าเขื่อนยังมีไม่มาก
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล ผู้ตรวจการอัยการ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบสำนวนคดีปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย และนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกันชี้แจงกรณีคดีระหว่างอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับพวกรวม 27 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยศาลฎีกาฯ ได้อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2558 ซึ่งมีคำถามว่า เหตุใดจึงไม่มีการดำเนินคดีนายพานทองแท้ ชินวัตร นางกาญจนาภา หงษ์เหิน นายวันชัย หงษ์เหิน และนายมานพ ทิวารี ในความผิดฐานรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 ซึ่งนายวินัยชี้แจงว่าทั้ง 4 คนมิได้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มิได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และมิได้เป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด จึงไม่อาจเป็นผู้ถูกกล่าวหาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) จึงไม่มีอำนาจไต่สวน และไม่อาจมีความเห็นในความผิดฐานรับของโจร หากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประสงค์จะดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 ก็ควรที่จะต้องร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแยกต่างหากจากคดีนี้ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีการประสานเรื่องคำขอเอกสารไปประกอบการพิจารณาแล้ว
ด้านพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ รายงานว่า ดีเอสไอรับสอบสวนคดีตามมติคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ตั้งแต่ปี 2550 โดยคตส.เป็นผู้ยื่นให้ดีเอสไอสอบสวน และกคพ.มีมติให้รับเป็นคดีพิเศษเฉพาะข้อหาฟอกเงิน ไม่มีข้อหารับของโจร โดยดีเอสไอกำลังขอคัดสำเนาคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีฟอกเงิน โดยจะมีการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีในวันที่ 7 กันยายนนี้
ส่วนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวานนี้ มีการนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีที่นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท จากนั้น องค์คณะฯ ได้ยกคำร้องขอให้ศาลรอการพิจารณาคดีไว้ชั่วคราว และยกคำร้องคัดค้านโจทก์เพิ่มพยาน โดยให้นัดคู่ความเพื่อฟังคำสั่งเกี่ยวกับการตรวจพยานหลักฐาน และการกำหนดวันเพื่อไต่สวนพยานในวันที่ 29 ตุลาคมนี้
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยว่า เหลือเวลาอีก 2 เดือนในการดูเอกสารทั้งหมดของฝ่ายโจทก์ ซึ่งยอมรับว่าเป็นพยานเอกสารที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ด้านนางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าในการเรียกร้องค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวว่า การสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 7 กันยายนนี้แน่นอน หลังจากนั้นคณะกรรมการทั้ง 2 คณะจะนำผลสรุปการสอบความรับผิดทางละเมิดส่งให้กับกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เป็นผู้ดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหาย ซึ่งอาจจะมีการส่งเรื่องไปให้อัยการดำเนินการต่อไป
ส่วนคณะทำงานดำเนินการระบายข้าว ออกประกาศเรื่องการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐ ครั้งที่ 6/2558 ปริมาณรวม 7 แสน 3 หมื่น 2 พันตันในคลังขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) โดยเปิดให้ยื่นซองเอกสารคุณสมบัติ วันที่ 7 กันยายนนี้ และยื่นซองเสนอราคาในวันที่ 8 กันยายน
นอกจากนี้ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังเตรียมหารือกับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และห้างสรรพสินค้า เพื่อหาทางปรับลดราคาสินค้าและติดตามต้นทุนราคาสินค้าทั้งระบบ โดยเฉพาะต้นทุนจากราคาน้ำมันที่ลดลงต่อเนื่อง
วันนี้กระทรวงพาณิชย์จะแถลงตัวเลขเงินเฟ้อเดือนสิงหาคม ต้องจับตามองว่าจะติดลบเท่าไหร่และติดต่อเป็นเดือนที่ 8 หรือไม่ จากที่ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาติดลบไปแล้วร้อยละ 0.85
ด้านนายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือ แห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) กล่าวถึงการส่งออกที่ติดลบ 7 เดือนติดว่า ทิศทางการส่งออกของไทยในช่วง 5 เดือนหลังจากนี้อาจติดลบต่อเนื่อง และอาจทำให้การส่งออกของไทยปีนี้มีโอกาสติดลบร้อยละ 4.5-5 และแม้ว่าค่าเงินบาทของไทยจะอ่อนค่าลงแต่เพื่อนบ้านก็อ่อนค่าลงเหมือนกัน
นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย จะเปิดสัมมนา "มิติใหม่ลงทุนนอกด้วยตนเอง" เพื่อให้ความรู้แก่นักลงทุนที่สนใจไปลงทุนในต่างประเทศ
และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย จะแถลงจุดยืนเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ เช่นเดียวกับที่บุคคลและองค์กรอื่นแสดงจุดยืนไปแล้ว
..