เมืองไทยฯ(1):ตร.ออกหมายจับคดีวางระเบิดแล้ว 4 คน/คลังเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ/ก.เกษตรหารือปัญหาราคาปาล์ม

จากเหตุระเบิดกลางกรุง 2 จุด บริเวณศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องสงสัยแล้ว 4 คน คือชายชาวต่างชาติเสื้อเหลืองที่สะพายเป้ซุกระเบิดเข้าไปวางในบริเวณศาลฯ และชายใส่เสื้อสีฟ้าที่หย่อนระเบิดลงน้ำที่ท่าเรือ น.ส.วรรณา หรือ ไมซาเลาะ สวนสัน อายุ 26 ปี และชายที่ยังไม่ปรากฏสัญชาติอีก 1 คน กับมีการจับกุมชายชาวต่างชาติอายุ 28 ปีอีก 1 คนที่อพาร์ตเมนต์ ย่านหนองจอก

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัยให้การเป็นประโยชน์ ส่วนเรื่องข่าวควบคุมตัวชาวปาเลสไตน์ 4 คน มาสอบสวนนั้น ไม่ขอเปิดเผย ขณะที่สัญชาติของผู้ต้องสงสัย ทางประเทศตุรกีปฏิเสธ แต่ก็ยังไม่ยืนยันจนกว่าจะพิสูจน์ทราบเสียก่อน อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่าขอให้สบายใจสักหน่อยว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับก่อการร้าย เพราะไม่ตรงตามหลักการและทฤษฎี แต่มีคนเข้าไปเกี่ยวข้องมาก ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งอาจจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีผลประโยชน์ด้วย ทั้งจากหลักฐานที่บ่งบอกว่าเตรียมทำวัตถุระเบิดจำนวนมาก และยืนยันว่า การจับกุมคนร้ายครั้งนี้ เป็นผลงานของเจ้าหน้าที่โดยลำพัง จึงจะมอบเงินรางวัลให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ส่วนที่บอกว่ามีโทรศัพท์มาให้เบาะแสนั้นยืนยันว่าไม่มี

ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าการจับกุมผู้ต้องสงสัยคดีวางระเบิดแยกราชประสงค์และสาทร เป็นผลจากการสืบของฝ่ายความมั่นคง และขณะนี้เจ้าหน้าที่ใช้นิติวิทยาศาสตร์เข้ามาสืบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพยานหลักฐานทั้งหมด ภาครัฐพอใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่พยายามสืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดี จึงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ได้ทำงาน และขอให้คนไทยมั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ของเราทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีกทั้งฝากให้ทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตาดูแลบ้านเมืองเรา

ด้านการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารไปตรวจค้นบ้านพักที่จังหวัดพังงาของ น.ส.วรรณา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลมีนบุรี ในข้อกล่าวหาครอบครองยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต ญาติยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นแต่โดยดี แต่ในเบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งเปิดเผยว่า น.ส.วรรณาไม่ได้กลับบ้านมานานกว่า 3 เดือนแล้ว เจ้าหน้าที่จึงให้ญาติติดต่อทางโทรศัพท์และไลน์พูดคุยกับ น.ส.วรรณา โดยน.ส.วรรณาตอบกลับมาว่าขณะนี้พักอาศัยอยู่ที่ประเทศตุรกี พ่อแม่และญาติ น.ส.วรรณา จึงเจรจาให้มอบตัว หากมั่นใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด

ส่วนสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าได้ติดต่อกับ น.ส.วรรณา โดยยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด เพราะอยู่ในเมืองไกเซรีของประเทศตุรกีกับสามี และเดินทางกลับประเทศไทยครั้งสุดท้ายเมื่อ 3 เดือนก่อน และเธอไม่ได้กลับไปที่อพาร์ตเมนต์ของเธอมานานเกือบ 1 ปีแล้ว แต่ให้เพื่อนของสามีเช่าห้อง

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยว่าในวันนี้ จะมีการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันที่ตกต่ำ ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน และกรมศุลกากร ว่าสาเหตุมาจากอะไร และควรจะมีมาตรการใดรองรับหรือไม่

โดยที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานีเมื่อวานนี้ นายไพฑูรย์ พรศิริเมฆินทร์ อุปนายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมสมาชิกกว่า 10 คน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนปัญหาความเดือดร้อนจากราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำต่อนายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื่องจากราคาปาล์มทะลายลดลงเหลือกิโลกรัมละ 2.80-3.00 บาท ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตที่อยู่ระดับ 3.38 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ชาวสวนปาล์มขาดทุนอย่างหนัก จึงมายื่นหนังสือเพื่อผ่านไปถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ได้ช่วยแก้ไขปัญหาโดยเร็ว

ด้านนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกล่าวว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จะสนับสนุนในภาคเกษตรด้านการบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งด้านการค้า เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ส่วนนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ จะเสนอมาตรการด้านเศรษฐกิจ 3 มาตรการ คือ มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มีการใช้จ่ายมากขึ้น มาตรการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐผ่านไปยังตำบลต่างๆ ทั่วประเทศ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ และมาตรการใช้จ่ายงบประมาณด้านการลงทุนในโครงการขนาดเล็ก เพื่อช่วยให้การเบิกจ่ายสะดวกขึ้น และเป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการขนาดเล็กในพื้นที่ซึ่งรับงานมาจากผู้ประกอบการรายใหญ่ โดยทั้ง 3 มาตรการนี้ คงเป็นการเสนอเป็นรายละเอียดกว้างๆ ก่อน ส่วนรายละเอียดต้องให้ ครม.พิจารณาอีกครั้ง

นอกจากนี้ ยังเพิ่มวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกกว่า 2 หมื่น 4 พันล้านบาท เพื่อให้ส่วนราชการที่เคยเสนอของบลงทุนในปี 2558-2559 แล้วไม่ได้ แต่ยังมีความต้องการลงทุนให้เสนอขอโครงการเข้ามาใหม่ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นเงินลงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท และต้องสามารถเบิกจ่ายได้ภายใน 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ (ตุลาคม-ธันวาคม 2558)

และพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 2 กันยายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ จะเดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดตาก เพื่อติดตามความคืบหน้าการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยจะไปเยี่ยมชมศูนย์การแสดงสินค้าและศูนย์ประชุมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เทศบาลนครแม่สอด อ.แม่สอด และไปยังสะพานมิตรภาพไทยพม่า แห่งที่ 1 เพื่อตรวจเยี่ยมด่านศุลกากรแม่สอด ซึ่งเป็นประตูการค้าหลักที่มีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนสูงสุดของไทย ซึ่งมีการลงทุนในภูมิภาคที่เชื่อมโยงเส้นทางในพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเชื่อมโยงเส้นทางการคมนาคม และขนส่งระหว่างประเทศไทยกับพม่า

เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้โอวาทแก่เยาวชน ผู้บริหารศาล ยุติธรรม ผู้บริหารสำนักงานฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จากโครงการเยาวชนไทยหัวใจเดียว กัน รุ่นที่ 3 จำนวน 117 คน จากจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในตอนหนึ่งกล่าวยอมรับวา ประเทศมีปัญหามากมาย และไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไร ทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี และที่ผ่านมาก็คิดว่าเราทำอะไรให้พี่น้องมุสลิมโกรธเคือง ภาคใต้มีประชากร 3 ล้านคน มีชาวพุทธเพียงร้อยละ 10 อยู่ร่วมกัน อย่างสันติสุขมานาน ต่อมาเกิดการกระทบกระทั่งกัน วันนี้มีคณะกรรมการพูดคุยสันติสุข ไม่ใช้คำว่าเจรจา เพราะไม่ได้รบกัน มีเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยและกฎหมาย หากเหตุการณ์ยุติได้ก็ถอนกำลังกลับมา เพราะไม่มีใครอยากอยู่หรือบังคับน้ำใจกัน แต่กฎหมายเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนที่คิดว่าหากแยกไปปกครองตนเองดีกว่านี้ ซึ่งอยากบอกว่าหลายประเทศที่แยกออกไปจะยิ่งไม่ทันการณ์ เพราะทั้งโครงสร้างการจัดการต่างๆ จึงต้องช่วยกันคิด ให้เด็กๆ เป็นแกนนำ ให้เกิดความสันติสุข.

..