*ผบ.ตร.ขออย่าด่วนสรุปสัญชาติผู้ก่อเหตุระเบิด หวั่นกระทบความสัมพันธ์*

หลังจากที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับชายไม่ทราบสัญชาติ ตามภาพถ่าย สวมเสื้อสีฟ้า ถือถุงผ้า และนำสิ่งที่คาดว่าเป็นวัตถุระเบิด มาวางไว้ บนสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ระหว่างท่าเรือสาทร ก่อนจะเขี่ยถุงดังกล่าวลงไปในน้ำ ใน 3 ข้อหา คือ มีหรือใช้วัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาต, กระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่ผู้อื่น, และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

ความคืบหน้าวันนี้ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีพยานหลักฐานชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน ส่วนการออกหมายจับซึ่งไม่กำหนดชื่อ กำหนดสัญชาตินั้น อยู่ในดุลยพินิจของศาลที่จะพิจารณา และเชื่อว่ามีเหตุผลเพียงพอ ทั้งนี้ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุทั้งแยกราชประสงค์และบริเวณสาทรเป็นสัญชาติใด เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีสมัยนี้ก้าวหน้าไปมาก สามารถตกแต่งใบหน้า เสียงพูด ทำให้ตำรวจไข้วเขวได้ ขอสื่ออย่าเร่งด่วนสรุปว่าเป็นสัญชาติใด ประเทศใด เกี่ยวข้องกับขบวนการใด เนื่องจากการด่วนสรุปเช่นนี้เป็นการสร้างเดือดร้อนความเสียหายและความขัดแย้งจนส่งผลเสียถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว โดยพล.ต.อ. สมยศ ระบุว่าถึงแม้จะทราบตัวทราบกลุ่มคนร้ายแล้วก็คงไม่บอกสื่อมวลชน เพราะไม่รู้ว่าหากบอกไปแล้วได้ประโยชน์อะไร

ส่วนการเชิญตัวชาวอุยกูร์ 3 คนที่จังหวัดสระแก้วมาสอบปากคำ ผบ.ตร.ยืนยันว่า พนักงานสอบสวนได้ทำทุกกระบวนการเพื่อหาคำตอบและตอบข้อสงสัย พร้อมกล่าวว่า ที่ผ่านมา ตำรวจได้ทำไปมากกว่าหลายเท่ากว่าที่นำเสนอ และบางกรณีเช่นการที่สื่อไปสัมภาษณ์พยานซึ่งเป็นคนขับรถแท็กซี่ ว่ามีการรับผู้ต้องสงสัยจากอาคารชาญอิสระ แต่พอไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็ไม่สอดคล้องกับข้อมูลที่ผ่านสื่อมวลชนไป

ส่วนกรณีที่วัดธรรมกายเตรียมจะมารวมตัวทำบุญที่บริเวณแยกราชประสงค์ คงไม่อนุญาต เนื่องจากการรวมตัวกันของ คนจำนวนมาก ดูแลไม่ทั่วถึงและไม่กล้ารับผิดชอบ และจะใช้มาตรฐานเดียวกันไม่ว่าใครจะจัดก็จะไม่อนุญาต หากต้องการจัดทำบุญควรจัดภายในวัด เพราะไม่ว่ามหาเถระสมาคม ก็ไม่อนุญาต หรือตัวเองจะจัดพิธีตักบาตรทำบุญก็ยกเลิกเพราะหากทำได้ก็จะมีหน่วยงานอื่นๆ ขอจัดอีก

ผบ.ตร. ยืนยันว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงมีการประชุมติดตามสถานการณ์ภาพรวมทั่วประเทศทุกวัน แต่ข้อมูลเป็นความลับ ไม่มีเรื่องน่าวิตกกังวล ขณะนี้ตำรวจกดดันตัวเองในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐกินภาษีประชาชน และหากมีโอกาสจะไปบนศาลที่พระพรหมด้วย เพราะเรื่องแบบนี้ใครไม่เชื่ออย่าลบหลู่

ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข