คดีทุจริตจำนำข้าว นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความรับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยคดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบโครงการรับจำนำข้าว ยื่นหนังสือต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คัดค้านบัญชีพยาน ที่อัยการสูงสุด โจทก์ ได้ขอเพิ่มเติมพยานบุคคล จำนวน 23 ปาก และพยานเอกสารอีกเกือบ 70,000 แผ่น ซึ่งเป็นพยานนอกเหนือจากสำนวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนรวิชญ์ กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2552 มาตรา 5 ระบุว่า การพิจารณาคดี ให้ศาลยึดรายงานของ ป.ป.ช.เป็นหลัก ซึ่งพยานบุคคล และพยานเอกสารที่อัยการนำมาอ้างในชั้นตรวจพยานหลักฐานของศาล ไม่ได้เกิดขึ้นในระหว่างการไต่สวนของ ป.ป.ช. จึงเป็นพยานหลักฐานนอกสำนวน ห้ามไม่ให้รับฟังเป็นพยานหลักฐานเพื่อวินิจฉัยคดี ทั้งนี้ พยานดังกล่าวประกอบด้วยสมาชิกสภานิติบัญญัติ( สนช.)และพนักงาน ป.ป.ช.ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ส่วนเอกสารเป็นเอกสารเกี่ยวกับการระบายข้าวและจีทูจี ซึ่งก็ไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ ศาลรับเรื่องไว้ และนัดฟังคำสั่งวันที่ 31 ส.ค.สำหรับคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลยคดีจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท ศาลฎีกาฯ ได้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 31 ส.ค.นี้ เวลา 09.30 น. ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ จำเลย จะต้องเดินทางมาศาลตามนัด โดยวันดังกล่าวตรงกับวันที่ศาลนัดฟังคำสั่งเรื่องการคัดค้านบัญชีพยานของอัยการสูงสุดดังกล่าวด้วย
CR:แฟ้มภาพ