*รองนายกฯสมคิด มั่นใจเดินหน้าศก.ไทยได้ ขอภาคเอกชนอย่าวิตกเกินเหตุ*

27 สิงหาคม 2558, 11:51น.


แนวทางเศรษฐกิจไทยในอนาคต นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “นโยบายเศรษฐกิจและทิศทางประเทศไทย” โดยขอให้ภาคเอกชนอย่าตื่นตกใจ อย่ากังวัลจนเกินเหตุ กับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน แต่ไม่ควรประมาทและแม้ว่าในทางการเมืองกำลังมีปัญหา แต่กำลังเข้าไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น พร้อมเชื่อว่าประเทศจะสามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่างแน่นอน



นายสมคิด มั่นใจว่า ขณะนี้เมืองไทยไม่มีวิกฤตการณ์เช่นเดียวกับปี 2540 แต่เป็นเพราะราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ ภาคเอกชนชะลอการลงทุน คนที่มีอำนาจซื้อก็ไม่กล้าจับจ่าย รวมถึงศักยภาพด้านการส่งออกที่ลดลง โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมาย ให้ภารกิจเร่งคือการกอบกู้ผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร และเหลือผู้ประกอบการ SME โดยผลักดันให้มีการหมุนเวียน โดยสั่งการให้กระทรวงการคลังเข้าไปช่วยเหลือในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของภาครัฐให้กระจายออกไปสู่ชาวบ้านให้เร็วที่สุด และสร้างท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็งด้วยตนเอง 



ส่วนการวางรากฐานให้กับประเทศ โดยไม่รอการเห็นชอบจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ แต่จะเป็นการทำงานแบบคู่ขนานกัน ซึ่งที่ผ่านมาการเติบโตของไทยในอดีตนั้นมาจากการส่งออก แต่ในขณะนี้ในเรื่องเศรษฐกิจโลก ประเทศที่แข็งแกร่งที่สุด คือ สหรัฐอเมริกา ส่วนประเทศจีนขณะนี้กำลังประสบปัญหา แต่คิดว่าจะฝ่าฟันปัญหาต่อไปได้



ดังนั้นไทยจึงต้องผลักดันให้เศรษฐกิจในประเทศเติบโตด้วยตัวเองไม่ใช่พึ่งพาจากโลกภายนอก โดยนำกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียงเป็นการนำร่อง ให้หมู่บ้าน จังหวัด ดำเนินการโดยไม่ต้องรอจากส่วนกลาง ซึ่งจะนำ โครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP กลับมากระตุ้นเศรษกิจท้องถิ่น การท่องเที่ยว ซึ่งสำคัญคือผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ละจังหวัดจะต้องคิดและดำเนินการ โดยรัฐบาลจะสนับสนุนในการลงทุน



รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐ โดยรัฐวิสาหกิจจะต้องเป็นกำลังสำคัญของภาครัฐ นอกจากนี้ไทยจะต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับตลาดโลก โดยดึงผู้ประกอบการทั้งในประเทศและต่างประเทศมาตั้งมาลงทุนในไทย ต้องมีการอำนวยความสะดวกเรื่องภาษี เพื่อดึงผู้ผลิตรายใหญ่เข้ามาในประเทศ และยกระดับให้มีเทคโนโลยีและการสื่อสารมาช่วยในการเจริญเติบโต ซึ่งส่วนสำคัญคือการเชื่อมต่อระหว่างอุตสาหกรรมและท้องถิ่น ที่จะต้องทำให้เกิดการจ้างงานในท้องถิ่น โดยไม่ทำให้แรงงานมากระจุกในตัวเมือง ซึ่งได้มีแนวคิดในการสร้างพื้นที่เศษฐกิจเศษจำเพาะโดยคาดว่าแนวคิดดังกล่าวจะแล้วเสร็จและนำเสนอนายกรัฐมนตรีได้ภายใน 1 เดือนนี้ พร้อมพัฒนาบุคลากร ทางเศรษฐกิจใหม่โดยนายสมคิดใช้คำว่า “นักรบ ทางเศรษฐกิจ ด้วยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยผลักดันให้มีการสร้างนักศึกษาให้เป็นผู้ประกอบการใหม่ๆ ซึ่งทางกระทรวงพานิชย์ต้องเข้าไปสนับสนุน และนำบริษัทเอกชนขนาดใหญ่มาช่วยส่งเสริม นอกจากนี้การลงทุนขนาดใหญ่ เช่น รถไฟรางคู่ ต้องเร่งดำเนินการจูงใจเอกชนเข้ามาลงทุน ซึ่งหากสามารถเชื่อมโยงเส้นทางการลงทุน จะเกิดกิจกรรมเศรษฐกิจที่เร็ว และสร้างความเจริญตลอดเส้นทาง



สำหรับการออกมาตรการระยะสั้นไม่ใช่การกระตุ้นผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีเพียงอย่างเดียว เพราะหากการพัฒนาเศรษฐกิจ ไปด้วยดี จีดีพีก็จะเติบโตตามกลไกของเศรษฐกิจอยู่แล้ว ส่วนเรื่องปัญหาประมงในขณะนี้ ได้ทำการแก้กฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาได้ปรึกษาไอยูยูตลอดเวลาโดยมองว่าทุกปัญหาจะต้องก้าวผ่านไปได้



ส่วนความเคลื่อนไหว หุ้นเอเชีย ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าพุ่งขึ้น 347.48 จุด ที่ 18,724.31 จุด



ส่วนดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดนิวยอร์ค เพิ่มขึ้น 533.09 จุด ปิดภาคเช้าที่ 21,613.48 จุด

 

ข่าวทั้งหมด

X