*รอบวัน:เพิ่มเงินผู้เสียชีวิตเหตุระเบิดราชประสงค์/ททท.รุกเรียกความเชื่อมั่น/อัดฉีดศก.แสนล้าน*

27 สิงหาคม 2558, 08:49น.


*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.



+++กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มีมติเพิ่มเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดราชประสงค์เป็นกรณีพิเศษ จากรายละ 100,000 บาท เป็นรายละ 150,000 บาท ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนค่าเสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา



++++พลตำรวจโทประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ยืนยันยังไม่มีรายงานข่าวว่า มีกลุ่มก่อความรุนแรงใด ทั้งกลุ่มเกรย์วูฟล์ หรือกลุ่มอื่นๆ เข้ามาเคลื่อนไหวในประเทศไทย และเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ ยืนยันว่า ฝ่ายสืบสวนทำงานอย่างเต็มที่ รวมทั้งตรวจสอบฐานข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองย้อนหลัง 2 ถึง 3 เดือน กับภาพบุคคลต้องสงสัยก่อเหตุระเบิด แต่ยังไม่พบตรงกับบุคคลต้องสงสัยตามภาพจากกล้องวงจรปิด จึงยังไม่สามารถตัดประเด็นใดทิ้งได้ แต่ยอมรับมีความเป็นไปได้ว่าผู้ก่อเหตุระเบิดอาจหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ยอมรับปัญหาความไม่ต่อเนื่องของกล้องวงจรปิดเป็นอุปสรรคสำคัญ และยังอยู่ระหว่างการรอภาพคนร้ายที่ส่งไปปรับความคมชัดในต่างประเทศ จึงยังไม่สามารถออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติมในขณะนี้ได้



+++โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังฝากเตือนประชาชนที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยล่าสุด เจ้าหน้าที่จับเยาวชนชาย อายุ 17 ปี ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งโพสต์เฟซบุ๊กโดยใช้ชื่อ “ระเบิดกรุงเทพ” เผยแพร่ข้อความสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน โดยจากการสืบสวนเยาวชนรายนี้ ให้การรับสารภาพว่าทำไปด้วยความคึกคะนอง และมีความคับข้องใจบางเรื่อง โดยพบว่ายังมีอีกหลายรายที่เข้าข่ายนี้ จึงขอให้หยุดการกระทำลักษณะดังกล่าว ส่วนการแฮกเว็บไซต์หน่วยงานราชการหลายแห่งก่อนหน้านี้ ยืนยันว่าไม่มีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิด แต่เป็นความพยายามของบุคคลบางกลุ่ม ที่ต้องการประกาศศักดา หรือสร้างชื่อเท่านั้น



+++ผลกระทบท่องเที่ยว นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า จากการตรวจสอบยอดนักท่องเที่ยวผ่านทัวร์หลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดในย่านราชประสงค์ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.พบว่า แนวโน้มยังอยู่ในช่วงขาลง โดยเป็นการทยอยปรับลดต่อเนื่อง จากในช่วงสัปดาห์แรกอยู่ในระดับราว 10% ตลาดจีน ที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะส่งผลกระทบหนัก ยังมีอัตราลดลงราว 10% เท่านั้น และคาดว่าในช่วง โกลเด้นวีค หรือวันหยุดช่วงวันชาติจีนต้นเดือน ต.ค.จะสามารถดีดเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้ยอดรวมตลาดจีนทั้งปีนี้ น่าจะอยู่ที่ 6.5 ล้านคน



+++ด้าน นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังมั่นใจว่าจะทำตามเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่ 2.2 ล้านล้านบาท แม้ว่าช่วงนี้จะได้รับผลกระทบ ยอมรับว่าตลาดที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด คือ อาเซียน จีน และญี่ปุ่น นอกจากนั้น ยังได้รับความร่วมมือจากองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) ให้เป็นผู้บรรยายหลักระหว่างการประชุมใหญ่ของ UNWTO ที่ประเทศโคลัมเบีย ระหว่างวันที่ 14-15 ก.ย.นี้ มีหัวข้อหลักที่จะบรรยายให้รัฐมนตรีด้านท่องเที่ยวจาก 60 ประเทศทั่วโลก คือ มาตรการด้านความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับการท่องเที่ยวไทยหลังเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้โดยเฉพาะ พร้อมกันนี้ในงานเวิลด์ ทราเวล มาร์เก็ต (WTM) ที่กรุงลอนดอน ในช่วงเดือน พ.ย.นี้ UNWTO ก็จะมีฟอรั่มให้ขึ้นกล่าวยืนยันความเชื่อมั่นโดยตรงต่อแวดวงธุรกิจท่องเที่ยวทั่วโลก



++++ขณะที่ นายเดวิด สโคว์ซิล รองเลขาธิการ UNWTO เชื่อว่า การท่องเที่ยวไทยจะฟื้นทันในช่วงไฮซีซันอย่างแข็งแกร่งแน่นอน เนื่องจากโดยพื้นฐานแล้วไทยมีความแข็งแกร่งเรื่องอัธยาศัยไมตรีและการต้อนรับที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต้องการมาเยือน ส่วนเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น เป็นที่รู้กันทั่วโลกว่าสามารถเกิดขึ้นได้ทุกหนแห่ง ขณะที่ นายศุกรีย์ สิทธิวนิช รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่าในช่วงโกลเด้นวีคปีนี้ นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยจะไม่ต่ำกว่าปีที่แล้ว ซึ่งมีสถิติเข้ามาอยู่ที่ 500,871 คน เติบโต 66.7% โดย ททท.ได้สั่งการให้สำนักงานในจีน 5 แห่งช่วยสร้างความมั่นใจด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะใช้โอกาสที่รัฐมนตรีกอบกาญจน์ จะเดินทางไปเยือนจีนระหว่างโรดโชว์ที่เฉินตู ร่วมกับ ททท. และแอตต้า ด้วยตัวเอง ระหว่างวันที่ 2-3 ก.ย.นี้ ตอกย้ำความมั่นใจกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวท้องถิ่นจีน



+++วันนี้ เวลา 09.45 น. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “นโยบายเศรษฐกิจและทิศทางประเทศไทย” ณ ห้องนภาลัยบอลรูม โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ รัฐบาลเตรียมอัดฉีดเม็ดเงิน แสนล้านบาทกระตุ้นคนรายได้น้อย รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า การเติมเงินกู้ผ่านกองทุนหมู่บ้าน โดยธนาคารออมสิน พร้อมนำสภาพคล่องมาปล่อยกู้ให้กองทุนหมู่บ้านเกรด A, B วงเงินประมาณ  5.9 หมื่น ปล่อยกู้ให้กองทุนใช้เงินหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท โดยรัฐบาล สนับสนุนดอกเบี้ยให้เท่ากับต้นทุนดำเนินงานคือร้อยละ 2.5 จากนั้นกองทุนหมู่บ้านนำไปปล่อยกู้ให้ประชาชนอัตราดอกเบี้ยต่ำมาก ครม.จะพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง เบื้องต้นรัฐบาลจะให้คิดดอกเบี้ยผ่อนปรน เช่น ร้อยละ 0 ใน 6 เดือนแรก จากนั้นขยับเป็นร้อยละ 1.5-2 แล้วแต่ครม.พิจารณา เพื่อไม่ให้สูงเหมือนที่ผ่านมาคือ ร้อยละ 5



+++ส่วนการเร่งรัดการลงทุนโครงการขนาดเล็กไม่เกิน 1 ล้านบาท คาดว่างบประมาณซึ่งกระจายตามส่วนราชการประมาณ 1 หมื่นล้านบาท และยังตั้งงบกลาง เพื่อซ่อมแซมสถานที่ส่วนราชการทั่วประเทศวงเงิน  3 หมื่นล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งแพ็คเกจขับเคลื่อนเศรษฐกิจครั้งนี้เป็นการอัดฉีดเงินออกสู่ระบบนับแสนล้านบาท



+++นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้แก่ ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทยจะเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ในการปาฐกถาพิเศษนโยบายเศรษฐกิจ และทิศทางประเทศไทย ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ โดยแนวทางเร่งด่วน ประกอบด้วย 3 เรื่องหลัก ได้แก่ การยกระดับราคาสินค้าเกษตรให้เพิ่มขึ้น ซึ่งภาครัฐควรใช้มาตรการชั่วคราวเข้าไปอุดหนุนสินค้าเกษตรที่สำคัญ เพื่อดันราคา เนื่องจากกลุ่มเกษตรกรเป็นผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ที่มีการจับจ่ายอย่างรวดเร็ว การแก้ไขปัญหาเอสเอ็มอี



+++นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 28 สิงหาคมนี้ จะแถลงนโยบายและแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยจะมีการเพิ่มแผนงานเดิมเน้นกระตุ้นรากหญ้าและดูแลค่าครองชีพ ส่วนวันนี้ จะมีการแถลงตัวเลขส่งออก



++++นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน คาดประชุมภายใน 2 สัปดาห์นี้ ซึ่งจะเสนอแนวทางช่วยเหลือด้านดอกเบี้ยให้กับชาวนาหรือโรงสีรับซื้อข้าวและชะลอระบายเพื่อพยุงราคาข้าวในตลาดให้เกิน 8,000 บาทต่อตัน ลดต้นทุน หาตลาด และเพิ่มมูลค่าผลผลิตและราคาขาย ปาล์มน้ำมัน ซึ่งองค์การคลังสินค้า (อคส.) จะเริ่มรับซื้อส่วนต่างตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมนี้ สำหรับการดูแลค่าครองชีพ วันที่ 27 สิงหาคม จะเปิดโครงการลดค่าครองชีพ และ 31 สิงหาคม เปิดตัวข้าวถุงเพื่อชุมชน



+++ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภารกิจเร่งด่วน 5 ด้านให้สำเร็จในปี 58-59 สอดรับกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เมกะโปรเจคท์ 17 โครงการ มูลค่า 1.6 ล้านล้านบาท จะเร่งรัดให้มีการประมูลและเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 58-59  ซึ่งตอนนี้มีการอนุมัติแล้ว 5 โครงการ มอเตอร์เวย์ 3 สาย แผนพัฒนาท่าเรือชายฝั่งแหลมฉบัง และศูนย์การขนส่งทางรางแหลมฉบัง



++++นักวิเคราะห์บริษัท Finansia Syrus Securities จำกัด (มหาชน) แสดงความ เป็นห่วงฐานะหุ้น AQ จากคดีศาลฎีกาฯ ตัดสินจำคุก 18 ปี นายวิโรจน์ นวลแข อดีตผู้บริหาร KTB กรณีการปล่อยกู้โดยมิชอบ ในคดีนี้ AQ ถูกฟ้องเป็นจำเลยที่ 20 และศาลตัดสินให้จำเลยที่ 20, 25 และ 26 รวมกันคืนเงิน 10,004 ล้านบาท (ยังไม่รวมดอกเบี้ย) แก่ธนาคารกรุงไทย ผู้เสียหาย แต่ยังไม่มีข้อมูลว่า สำหรับ บมจ.เอคิว เอสเตท(AQ)เดิมชื่อ บมจ.กฤษดามหานคร(KMC) คาดว่าจะมีการแถลงข่าวในระยะต่อไป ส่วนงบการเงินสิ้นงวดไตรมาส 2 ปีนี้ AQ มีสินทรัพย์รวม 7,087 ล้านบาท เป็นเงินสดประมาณ 2 พันล้านบาท และเป็นส่วนของผู้ถือหุ้น 6,277 ล้านบาท ต้องจ่ายเป็นสัดส่วนเท่าไร ยอมรับว่ากระทบต่อฐานะการเงินของ AQ อย่างมีนัยสำคัญ



+++นายกฯไม่อยู่  14.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานกองทัพอากาศ Villamor Airbase กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เพื่อเยือนสาธารณรัฐฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 27-28 สิงหาคม 2558



+++การรับมือภาวะผันผวนของตลาดน้ำมัน นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) เปิดเผยว่า ได้ปรับกลยุทธรับราคาน้ำมันดิบที่ลดต่ำสุดในรอบ 6 ปี เพราะหวั่นเกรงเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว โดยลดสตอกน้ำมันจากเดิมสตอกสูงกว่ากฎหมายที่กำหนดร้อยละ 6 หรือ 7 ล้านบาร์เรลจากที่ปกติสตอกประมาณ 8 ล้านบาร์เรล และเตรียมแผนเพิ่มประสิทธิภาพ โดยเพิ่มกำลังกลั่นเป็น 400,000 บาร์เรลต่อวัน จาก 275,000 บาร์เรลต่อวันในปัจจุบัน



+++คดีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ หรือเสี่ยจืด แซ่ตั๊ง หลังออกหมายจับผู้ต้องหา 4 ราย ซึ่งเข้ามอบตัวแล้ว 3 ราย ซึ่งได้ประกันตัวทั้งหมด มีรายงานว่า วันนี้ เวลา 9.00 น. น.ส.กัญฐณา หรือน้ำตาล ศิวาธนพล ผู้ต้องหาที่เหลือ 1 เดียวในคดีนี้ เบื้องต้นมีรายงานว่า ทางนายเสกสรรค์ เสนาชู ทนายความของ น.ส.กัญฐญาได้ประสานติดต่อมายังพนักงานสอบสวนว่า จะเดินทางเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีดังกล่าว ในวันพรุ่งนี้ (27 ส.ค.58) เวลา 09.00 น

ข่าวทั้งหมด

X