*ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.
+++ราคาน้ำมันในตลาดโลก ยังปรับตัวลดลง หลังกำลังผลิตในสหรัฐฯยังสูงขึ้น แม้ราคาตกต่ำ มันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 71 เซนต์ ปิดที่ 38.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 7 เซนต์ ปิดที่ 43.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล คลังน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯ ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 สิงหาคม ลดลง 5.5 ล้านบาร์เรล แต่ยังคงอยู่ในระดับที่มากกว่า 9.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ใกล้ๆ กับระดับกำลังผลิตสูงสุดตลอดกาล
+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพุธ (26 ส.ค.) ทำสถิติขยับขึ้นวันเดียวมากที่สุดในรอบ 4 ปี หลังความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนที่ฉุดให้วอลล์สตรีทและตลาดทุนโลกร่วงหนักในช่วงไม่กี่วัน กระตุ้นให้เกิดการเสี่ยงช้อนซื้อเพื่อเก็งกำไร ด้วยคาดหมายว่าธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) จะตัดสินใจไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 619.07 จุด ปิดที่ 16.285.51 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังได้แรงหนุนจากกรณีธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศอัดฉีดเงิน 1.40 แสนล้านหยวนเข้าสู่ระบบธนาคารของประเทศ ผ่านปฏิบัติการอัดฉีดสภาพคล่องระยะสั้น (short-term liquidity operations -SLO)
+++ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (26 ส.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์เศษ หลังปิดลบเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน หลังการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ผลักให้นักลงทุนเมินสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 13.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,124.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++ตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าทางการเงินของจีน (CFFE) ประกาศว่า ทางตลาดได้สั่งห้ามนักลงทุนจำนวน 164 รายทำการเปิดโพสิชั่นใหม่ เนื่องจากได้ละเมิดกฎการซื้อขายสัญญาในตลาด คำสั่งห้ามดังกล่าวจะมีระยะเวลา 1 เดือน ระหว่างการตรวจสอบ และเข้าดำเนินการหากพบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติในตลาด ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของจีนได้เข้าสอบสวนพนักงานของบล.ซิติค ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ขนาดใหญ่ของจีน ในข้อหาทำการซื้อขายหุ้นอย่างผิดกฎหมาย ขณะที่ตลาดหุ้นจีนทรุดตัวลงอย่างหนักในขณะนี้ นอกจากนี้ โบรกเกอร์อีก 3 แห่งก็ยอมรับว่าทางบริษัทกำลังถูกสอบสวนกรณีที่อาจทำผิดกฎระเบียบของตลาด เจ้าหน้าที่จีนได้กล่าวหาบริษัทโบรกเกอร์หลายแห่งว่าทำการปั่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ และตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ตลาดผันผวนอย่างหนักในระยะนี้
+++หลังจากบรรลุข้อตกลงเพื่อคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ สำหรับเรื่องข้อตกลงที่มีเนื้อหา 6 ประเด็น ซึ่งกำหนดให้มีการนัดพบปะพูดคุยกันมากขึ้น และอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในเรื่องต่างๆ อย่างเป็นระบบเพื่อจัดให้มีการพูดคุยของผู้นำทหารระหว่างสองเกาหลีต่อไป แต่ล่าสุดรายงานของกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้เรื่องสถานการณ์ด้านความมั่นคงล่าสุดที่นำเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาในวันนี้ระบุว่ากรณีการแอบวางกับระเบิดใกล้ชายแดนและการยิงปืนใหญ่ของเกาหลีเหนือเมื่อไม่นานมานี้มุ่งจะเสริมสร้างเอกภาพภายในประเทศ ระบุว่า เกาหลีเหนือจงใจสร้างความตึงเครียดทางทหารขึ้น เพราะต้องการจะกระชับอำนาจการบริหารของรัฐบาลเกาหลีเหนือให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น อีกทั้งอาจจะต้องการกดดันเกาหลีใต้ให้กลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้ง
+++นายฮเลอร์ กุดจอนสัน โฆษกสำนักงานกาชาดกรุงปักกิ่งแถลงว่าประชาชนกว่า 11,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนที่อาศัยหรือไม่ก็ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมใหญ่ในเมืองราจิน เกาหลีเหนือ ใกล้กับพรมแดนรัสเซีย กับจีน เมื่อวันเสาร์และอาทิตย์ที่แล้ว สำหรับเมืองราจิน เป็นเมืองหลวงของเขตเศรษฐกิจพิเศษราซง อยู่ในจังหวัดฮัมคยองทางเหนือของเกาหลีเหนือ
+++ แหล่งข่าวในพื้นที่เปิดเผยด้วยว่ามีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องทำให้ทั้งเมืองต้องจมอยู่ในน้ำรถยนต์ลอยไปกับกระแสน้ำราวกับเรือ เกาหลีเหนือเคยประกาศไว้เมื่อเดือน มิ.ย.ว่า กำลังเผชิญภัยแล้งครั้งรุนแรงที่สุดในรอบศตวรรษแต่ทางเกาหลีใต้แจ้งว่ามีฝนตกลงมาบ้างแล้วในเกาหลีเหนือตั้งแต่เดือน มิ.ย.ทำให้สถานการณ์ภัยแล้งได้คลี่คลายลงไปบ้างในระดับหนึ่ง
++++สื่อทางการของเกาหลีเหนือแจ้งว่า พบผู้เสียชีวิตแล้ว 40 ศพ และเสียหายร้ายแรงจากฝนตกหนัก วัดปริมาณน้ำฝนได้ 250 มิลลิเมตร (9.5 นิ้ว) เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ ต้องอพยพนักท่องเที่ยวชาวจีน 484 คนที่ติดค้าง เนื่องจากถนนสายเดียวเส้นทางไปยังชายแดนถูกน้ำท่วม นอกจากนั้นก็ยังมีนักท่องเที่ยวที่ติดค้างอยู่ในงานแสดงสินค้าที่เมืองราจินของเกาหลีเหนือ สภาพอากาศที่มีฝนตกหนักนั้น เป็นเพราะอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นโคนี ซึ่งพัดถล่มฟิลิปปินส์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาด้วยคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 4 ศพ
+++กองกำลังเคิร์ดที่ได้รับการสนับสนุนจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่นำโดยสหรัฐฯ สามารถขับไล่นักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) จากหมู่บ้านต่างๆ 10 แห่ง ในจังหวัดเคอร์คุกของอิรักเมื่อวันพุธ (26 ส.ค.) ในการจู่โจมเพื่อคุ้มกันอาณาเขตของพวกเขาทางตอนเหนือ การจู่โจมเริ่มต้นขึ้นตอนรุ่งสางในพื้นที่ดากัก ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางเหนือราว 175 กิโลเมตร และพอถึงตอนหัวค่ำ กองกำลังชาวเคิร์ดก็สามารถยึดครองพื้นที่ได้ราวๆ 24 ตารางกิโลเมตร สภาความมั่นคงของแคว้นเคอร์ดิสถานเผยว่านักรบชาวหรือรู้จักกันในชื่อ 'เปอร์เมซกา' ราว 2,000 คน เข้าร่วมโจมตีดังกล่าว และสามารถเด็ดหัวนักรบไอเอสได้หลายสิบคน ขณะที่ผู้ช่วยผู้บัญชาการกำลังชาวเคิร์ด เผยว่ามีนักรบเปอร์เมซกา 5 คน เสียชีวิตในปฏิบัติการดังกล่าว
++กองทัพของกองกำลังสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติคเหนือหรือนาโต้ในอัฟกานิสถาน เปิดเผยว่ามีทหารในสังกัดกองกำลังสนับสนุนหรืออาร์เอส เสียชีวิต 2 นาย ในช่วงเช้าวันนี้ เมื่อมือปืน 2 คน ที่สวมเครื่องแบบทหารอัฟกันก่อเหตุกราดยิงรถของทหารทั้ง 2 นายที่ค่ายทหารในจังหวัดเฮลมานด์ทางใต้ของอัฟกานิสถาน อย่างไรก็ตาม มือปืนทั้ง 2 คน ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญในที่เกิดเหตุ ในรายงานของนาโต้ไม่ได้เปิดเผยชื่อ ตลอดจนสัญชาติของผู้เสียชีวิต แต่ระบุว่าเจ้าหน้าที่ของอัฟกันและนาโต้จะร่วมกันสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์นี้อย่างใกล้ชิด แต่สื่อต่างประเทศหลายแห่ง ระบุว่า มือปืนทั้ง 2 คน คือทหารของอัฟกานิสถานไม่ใช่คนร้ายที่ปลอมตัวมา และเป็นเหตุกราดยิงในลักษณะเดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนมกราคม ที่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนของกองทัพสหรัฐ 3 คนในสังกัดอาร์เอสเช่นกัน เสียชีวิตจากเหตุทหารอัฟกันกราดยิงที่สนามบินทหารในกรุงคาบูล
+++ผู้ชุมนุมประท้วงราว 200 คน จากเมืองไฮเดอเนาทางตะวันออกของเยอรมนีได้โห่ใส่นางอังเกลา แมร์เคลนายกรัฐมนตรีหญิงแห่งเยอรมนีซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของถนน ขณะเดินทางมาตรวจเยี่ยมศูนย์ผู้อพยพซึ่งได้รับความเสียหายจากผู้ชุมนุมประท้วงแนวคิดขวาจัดและยังตะโกนข้อความต่อต้าน นายกรัฐมนตรีแมร์เคิล เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ได้เกิดเหตุรุนแรงจากการชุมนุมประท้วงถึงสองคืนติดกันของกล่มผู้ชุมนุมประท้วงแนวคิดขวาจัดซึ่งไม่เห็นด้วยกับการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวให้กับผู้อพยพ
+++เจ้าหน้าที่ชายฝั่งอิตาลีเผยว่าพบศพผู้อพยพราว 50 คน เสียชีวิตอยู่ในที่เก็บสินค้าใต้ท้องเรือของเรือลำหนึ่ง นอกชายฝั่งลิเบียเมื่อวันพุธ (26 ส.ค.) ระหว่างปฏิบัติการช่วยเหลือคนอื่นๆ อีก 430 คน เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าคนเหล่านี้ตายด้วยสาเหตุอะไร โฆษกของยามชายฝั่งอิตาลีบอกว่าเรือโพไซดอนของสวีเดน ภายใต้การร่วมมือกับ ฟรอนเท็กซ์ หน่วยงานควบคุมชายแดนของสหภาพยุโรป ได้ออกเดินทางในวันพุธ (26 ส.ค.) มุ่งหน้าเข้าช่วยเหลือเรือลำดังกล่าวที่ประสบความยากลำบาก และพบศพจำนวนมากบนเรือ อย่างไรก็ตามไม่เป็นที่ชัดเจนว่าผู้อพยพเหล่านี้เสียชีวิตได้อย่างไรเฉพาะปีนี้ มีผู้อพยพเดินทางมาถึงชายฝั่งอิตาลีแล้วมากกว่า 100,000 คน แต่เชื่อว่ามีไม่น้อยกว่า 2,300 คน ที่ต้องเสียชีวิตระหว่างการเดินทางข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอันแสนสาหัส
++++บีบีซี รายงานอ้างนายเจฟฟรีย์ มาร์ค ผู้จัดการทั่วไปของสถานีโทรทัศน์ดับเบิลยูดีบีเจ 7 ในมลรัฐเวอร์จิเนียของสหรัฐฯ ว่า น.ส.อลิสัน ปาร์เกอร์ นักข่าวโทรทัศน์วัย 24 ปี และนายอดัม วาร์ด ช่างภาพวัย 27 ปี ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ขณะรายงานสดจากบริดจ์วอเตอร์ พลาซ่า ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในชุมชนโมเนตา เขตเทศมณฑลเบดฟอร์ด ของสหรัฐฯ เมื่อเวลา 06.45 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ มีรายงานระบุว่า นักข่าวทั้งสองเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน สถานีรู้สึกใจสลายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของเอบีซีและซีเอ็นเอ็น รายงานว่าผู้ต้องสงสัย ยิงตัวเองเสียชีวิตแล้ว ผู้ต้องสงสัยรายนี้ คือนายเวสเตอร์ ฟลานานแกน วัย 41 ปี หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ บรูซ วิลเลียมส์ ส่วนมูลเหตุจูงใจ น่าจะมาจากความขัดแย้งภายในสถานี
ผิดพลาด! กระสุนปืนใหญ่ของเขมร ตกใส่อาคารร้าง-ปราสาทตาอม
...
สมเด็จพระสังฆราช นำคณะสงฆ์ทำวัดเย็น เจริญจิตภาวนาเพื่อความสวัสดีแห่งราชอาณาจักรไทย
...
ไทยเดินหน้าประท้วงองค์การระหว่างประเทศ เขมรละเมิดสิทธิมนุษยชน ทำร้ายคนไทย
...
ข่าวทั้งหมด
