*รอบวัน:อสส.ส่งฟ้องจุฑามาศ เรียกรับเงินจากนักธุรกิจสหรัฐฯ/ตลาดหุ้นจีน ปิดร่วงแม้ธนาคารกลางจะลดดอกเบี้ย*

+++หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก ร.ท.สุชาย เชาว์วิศิษฐ์ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นประธานบอร์ดบริหารธนาคารกรุงไทย ในขณะนั้น นายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย จำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 12 ซึ่งเป็นกรรมการอนุมัติสินเชื่อ ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 ซึ่งเป็นบทหนักสุด จำคุกคนละ 18 ปี จากกรณีเมื่อปี 2546 ได้มีการอนุมัติสินเชื่อกว่า 8,000 ล้านบาท ให้กับบริษัทในเครือของบริษัทกฤษฎามหานคร ซึ่งมีการอ้างว่าจะนำเงินไปรีไฟแนนซ์หนี้สินกับสถาบันการเงินอื่น และซื้อที่ดินทำโครงการเกี่ยวกับที่ดินอื่นอีก แต่ภายหลังได้มีการนำเงินไปเพื่อประโยชน์ส่วนตัว

+++นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กล่าวถึง การรับตัวผู้ต้องขังหลังศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาจำคุกผู้ต้องขัง 19 คน ในคดีทุจริตปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ว่า เรือนจำได้รับตัวผู้ต้องขังจากศาลมาคุมขังที่เรือนจำ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จะรับคุมขังเฉพาะผู้ต้องขังชาย จำนวน 16 คน ที่มีโทษจำคุก 12 ปี โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่และตรวจสุขภาพพร้อมแนะนำการปฏิบัติตัวตามระเบียบเรือนจำ เบื้องต้นพบว่า ผู้ต้องขังบางรายมีอาการเครียด อย่างไรก็ตาม ในคืนแรกของการคุมขังผู้ต้องขังใหม่ทั้งหมดจะถูกส่งตัวไปอยู่รวมกันภายในแดนแรกรับ เช่นเดียวกับผู้ต้องขังรายอื่น จากนั้นเมื่อผู้ต้องขังสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพในเรือนจำได้ จะพิจารณาจำแนกแยกแดนไปยังห้องคุมขังอื่นๆ ที่เหมาะสม สำหรับผู้ต้องขัง 4 รายที่โทษสูงเกินอำนาจคุมขังของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ คือ ต้องโทษจำคุก 18 ปี จะต้องถูกส่งตัวไปคุมขังในเรือนจำกลางคลองเปรมต่อไป

+++หลังจากที่อัยการสูงสุด (อสส.) มีคำสั่งฟ้อง นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และ น.ส. จิตติโสภา ศิริวรรณ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 กรณีเรียกรับเงินจากนักธุรกิจสหรัฐฯโดยมิชอบ เพื่อให้ได้สิทธิในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ เมื่อปี 2546 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้ส่งตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองมาที่สำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 2 ได้นำตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้งสอง ฟ้องต่อศาลอาญา ในความผิดฐานเป็นพนักงานเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในหน้าที่ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ เป็นพนักงานปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต  

 +++เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เรือนจำกลางจังหวัดอุดรธานี ส่งตัวนายบรรเจิด ฉัตรไพฑูรย์ หรือเสี่ยบั๊ค ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลเอกอุดร ผู้ต้องหาในคดีจ้างวานฆ่าพระบัณฑิต สุปัณฑิโต หรือพระหมอ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ไปเข้ารับการรักษาตัวอย่างกระทันหัน ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เนื่องจาก นายบรรเจิด มีอาการความดันโลหิตสูงอย่างรุนแรง ทำให้แขนและขาด้านซ้ายอ่อนแรง เจ้าหน้าที่พยาบาลในเรือนจำได้ทำการตรวจวินิจฉัยเบื้องต้นแล้ว แต่พบว่าอาการไม่ทุเลา จึงมีความเห็นให้นำตัวส่งโรงพยาบาล

+++พนักงานสอบสวนกองปราบปรามคุมตัวนางสาวอุรชา วชิรกุลฑล เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี และนางศรีธรา พรหมา มารดา ไปฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังเข้ามอบตัวสู้คดีร่วมกันลักทรัพย์ ร่วมกันปลอมหรือใช้เอกสารสิทธิปลอม และรับของโจร จากกรณีรับโอนหุ้นนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ เมื่อช่วงเช้า ล่าสุดเมื่อช่วงเย็น ศาลอาญากรุงเทพใต้ ให้ประกันนางสาวอุรชา และมารดา โดยตีราคาประกันคนละ 3 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศก่อนได้รับอนุญาต

+++การซ่อมแซมท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ หลังเสียหายจากเหตุระเบิด  นายสหภูมิ ภูมิธฤติรัฐ รองอธิบดีกรมศิลปากร พร้อมช่างจากกรมช่างสิบหมู่ เดินทางเข้าสักการะองค์ท้าวมหาพรหม เพื่อเตรียมบูรณะซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย   โดยกรมศิลปากรได้นำช่างมาบูรณะซ่อมแซมองค์ท้าวมหาพรหมโดยจะดูทั้งหมด 2 ส่วน คือ ส่วนขององค์พระ และ ส่วนของซุ้มที่ครอบองค์พระ จากการตรวจสอบองค์พระ พบว่ามีส่วนที่เสียหายอยู่ 4 จุด คือ บริเวณคางขององค์พระ บริเวณสร้อยสังวาล นิ้วชี้ด้านขวา และหน้าแข้ง โดยในส่วนของคางเป็นส่วนที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด มีรอยแตกขนาดใหญ่ ในส่วนของซุ้มที่ครอบองค์พระ ก็พบร่องรอยความเสียหายเล็กน้อย ทั้งนี้ได้นำช่างประติมากรมาทำการซ่อมแซมในส่วนของคาง โดยการนำปูนปลาสเตอร์ สีเขียว ซึ่งเป็นสีที่ใกล้เคียงกับองค์พระมาเสริมในส่วนที่ชำรุด เนื่องจากปูนปลาสเตอร์สีเขียวมีความคล้ายคลึงกับเนื้อขององค์พระมากที่สุด

หลังจากเสริมในส่วนที่เสียหายเรียบร้อยแล้ว จะให้ช่างขัดองค์พระเพื่อปิดทองใหม่ทั้งองค์ โดยใช้ทองคำเปลว 2,500 กรัม  ประดับกระจกมาสกัดกระจกที่บริเวณซุ้มเพื่อให้กลับมาสวยงามเหมือนเดิม โดยงบประมาณที่ใช้ในการบูรณะองค์ท้าวมหาพรหมมาจากมูลนิธิทุนท้าวมหาพรหมโรงแรมเอราวัณ โดยใช้ทั้งสิ้น 7 หมื่นบาท ซึ่งจะใช้เวลา 9 วัน โดยจะให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 ก.ย. ก่อนจะมีการทำพิธีสมโภชองค์ท้าวมหาพรหม ในวันที่ 4 ก.ย. ระหว่างการซ่อมแซม เจ้าหน้าที่ยังคงเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าสักการะองค์ท้าวมหาพรหมได้ตามปกติ

+++การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันพรุ่งนี้ จะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 วงเงิน 2.7 ล้านล้านบาท ในวาระ 2 และ 3 หลังจากคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ที่มีม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เป็นประธานได้พิจารณาเสร็จแล้ว กมธ.วิสามัญฯ มีข้อสังเกตและข้อเสนอต่อภาพรวมของงบประมาณประจำปี 2559 ว่าการปฏิรูประบบการจัดทำงบประมาณ ต้องยึดหลักการที่นำไปสู่การจัดทำงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง ติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณของส่วนราชการต่างๆ เป็นภารกิจที่สำคัญ ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม สัมมนา หลักสูตร ระยะเวลาและจำนวนคน ต้องไม่มีความซ้ำซ้อน

+++นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันศุกร์นี้จะแถลงนโยบายแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับเป้าหมายนโยบายนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจและการสร้างความเชื่อมั่นโดยจะมีการเพิ่มเติมแผนงานเดิมที่เน้นกระตุ้นรากหญ้า แต่ละกรมกำลังทบทวนและแผนเพิ่มเติมทั้งการส่งออก และดูแลค่าครองชีพ เชื่อว่าจะผลักดันการฟื้นตัวเศรษฐกิจ

+++พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้และวันศุกร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและภริยา เดินทางเยือนสาธารณรัฐฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการ เป็นการกระชับความสัมพันธ์กับประธานาธิบดีฟิลิปปินส์และสานต่อผลการพบหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีกับประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เมื่อครั้งที่ผู้นำทั้งสองได้พบปะหารือระหว่างประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 22 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จะหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ คาดว่าผู้นำทั้งสองประเทศจะได้มีการหารือความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน รวมทั้งผลักดันความตกลงที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน อาทิ ความร่วมมือด้านการศึกษา ความร่วมมือด้านการบริการเดินอากาศเป็นต้น เป็นการเยือนประเทศอาเซียนในลำดับที่ 8 ของนายกรัฐมนตรี

+++ความคืบหน้าเรื่องการเจาะข้อมูลหน้าเว็บไซต์หน่วยงานราชการไทยบางแห่ง โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า "ฟาลิก้า ทีม" (Fallaga Team) นายณัฐ พยงค์ศรี นักวิชาการคอมพิวเตอร์ชำนาญการ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวว่า เป็นการแสดงศักยภาพว่ามีฝืมือในการเจาะข้อมูล ซึ่งจะไม่ใช่แค่ประเทศไทย และในวันนี้ กลุ่มฟาลิก้ายังเจาะข้อมูลเว็บไซต์ในอีกหลายประเทศ โดยบางเว็บไซต์ยังไม่รู้ตัวว่าถูกแฮกข้อมูล สำหรับข้อแนะนำนั้นผู้ดูแลเว็บควรตรวจสอบเว็บให้มากขึ้น และควรอัพเดทระบบปฏิบัติการในการใช้งานเป็นประจำ เพื่อไม่ให้เกิดช่องโหว่และขอให้ติดตามข่าวจากหน่วยงานด้านความปลอดภัยต่างๆ ว่ามีการตรวจพบช่องโหว่ใดบ้างแล้วควรรีบแก้ไข อย่างไรล่าสุดจากการตรวจสอบ เว็บไซต์ในประเทศไทย ได้รับการแก้ไข และกลับมาใช้งานได้ตามปกติในวันนี้ สำหรับเว็บไซต์ในประเทศไทยที่ถูกแฮกซึ่งบางเว็บไซต์แก้ไขแล้ว คือ  เว็บไซต์ของจังหวัดลำพูน http://www.lamphun.go.th เว็บไซต์สภานิติบัญญัติแห่งชาติ http://www.senate.go.th และ เว็บไซต์ของจังหวัดสระแก้ว http://www.sakaeo.go.th ส่วนเว็บไซต์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม http://www.msup.msu.ac.th เว็บไซต์ของจังหวัดอุบลราชธานีhttp://www.ubn4.go.th เว็บไซต์เทศบาลเวียงสะอาด จังหวัดมหาสารคาม http://www.wiangsa-at.go.th/banchang เว็บไซต์โรงพยาบาลลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี http://llkhospital.com/news/index.php เว็บไซต์เทศบาลตำบลดูนสาด จังหวัดขอนแก่น http://www.doonsad.go.th/banchang เว็บไซต์ปากน้ำปราณhttp://www.paknampran.go.th  ยังแก้ไขไม่เสร็จสิ้น

+++นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯ ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นให้กับประชาชนทั่วไป ผู้ค้าสลากฯ รายย่อย เพื่อใช้ในการจัดทำแผนโรดแมป ระยะที่ 2 ของแนวทางในการจัดสรรโควตาสลากฯ รอบใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาการขายสลากฯ เกินราคา โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ทั้งผู้ค้าจริง ผู้ค้ารายย่อย นักวิชาการและประชาชนครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนรวบรวมข้อสรุปทั้งหมดเสนอคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสลากในการประชุมด่วนวันที่ 28 ส.ค.นี้ เพื่อสรุปแนวทางในการจัดสรรโควตาใหม่ทั้งหมด เพื่อให้คณะกรรมการสลากฯ พิจารณาในการประชุมวันที่ 2 ก.ย. เมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็จะเปิดรับการลงทะเบียนการจัดสรรโควตาสลากฯ ใหม่ ให้กับผู้สลากฯ ที่เป็นตัวจริง เพื่อจำหน่ายในต้นปี 2559 ต่อไป เบื้องต้น สำนักงานสลากฯ ยืนยันว่า สลากฯในระบบที่มีอยู่ในระบบปัจจุบัน 74 ล้านฉบับ ยังเพียงพอต่อความต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องพิมพ์เพิ่ม แม้จะมีบางส่วนเสนอให้พิมพ์สลากฯเพิ่ม เพราะราคาสลากฯ ที่ลดลง ตามราคาขายที่กำหนดไว้ที่ใบละ 80 บาท ทำให้ความต้องการสลากฯในปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มขึ้น

+++ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนตลอดวัน โดยมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นใหญ่หนุนตลาด แต่ความกังวลเศรษฐกิจโลกทรุดยังกดดันให้มีแรงขายกำไรระยะสั้น ตลาดหุ้นไทย เคลื่อนไหวตามหุ้นขนาดใหญ่ โดยกลุ่มพลังงานได้รับผลดีจากราคาน้ำมันดิบโลกฟื้นตัวเล็กน้อย หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน นักวิเคราะห์ ประเมินว่าดัชนีจะผันผวนทิศทางขาลงมากกว่าขาขึ้น เพราะความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกทรุดยังไม่จบ ต้องรอจับตาดูผลมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนว่าจะช่วยอุ้มเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ ส่งผลให้ปิดตลาดที่1,320.08 จุด ลดลง 3.80 จุด มูลค่าการซื้อขาย 45,888.89 ล้านบาท

+++สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีน ปิดตลาดร่วงร้อยละ 1.27 อยู่ที่ 2,927.29 จุด หลังการขึ้นๆลงๆตลอดการซื้อขายวันนี้ แม้ว่าธนาคารกลางของจีน ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ลงมาที่ร้อยละ 4.6 เพื่อช่วยลดความวิตกกังวลของตลาด หลังดัชนีตลาดหุ้นจีนผันผวนมาหลายวัน ดิ่งร่วมร้อยละ 16 แล้วในสัปดาห์นี้ ฉุดดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกให้ร่วงตาม การที่ดัชนีตลาดหุ้นจีนร่วงหนักและผันผวนต่อเนื่องเช่นนี้กระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุน

+++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นจีนเกือบทั้งวัน ปิดตลาดวันนี้ร่วงร้อยละ 1.5 อยู่ที่ 21,080.39 จุด การที่จีนลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยให้ธนาคารต่างๆสามารถกู้ยืมจากธนาคารกลางได้ถูกลงในทางกลับกันมาตรการนี้อาจจะช่วยกระตุ้นภาคธุรกิจและครัวเรือนให้กู้ยืมเงินจากธนาคารมากขึ้น มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตในระยะยาวมากกว่าผลระยะสั้นคือ การฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่การลดอัตราดอกเบี้ยในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้บ่งชี้ว่าธนาคารกลางของจีนยอมรับว่าขณะนี้เศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัวต่อเนื่อง แต่คงจะไม่รุนแรงมาก มาตรการนี้อาจจะช่วยสร้างฟื้นเชื่อมั่นของนักลงทุนและช่วยให้ตลาดนิ่งได้ในระดับหนึ่ง แต่การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดอันดับสองของโลก ย่อมจะสะเทือนไปทั่วโลกเช่นกัน

 CR:BBC