*รอบวัน:จีนลด ดบ.อีก/จ้างล็อบบี้ยิสต์แก้ปัญหา IUU/สิงคโปร์ยุบสภาลต.11 ก.ย. *

สรุปข่าว 19.35 น.

+++ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% และลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์อีก 0.5% ในวันนี้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (26 ส.ค.) เป็นต้นไป พร้อมกับยอมรับว่า เศรษฐกิจของประเทศยังคงเผชิญกับแรงกดดันช่วงขาลง สำหรับการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีนครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 5 ตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว เพื่อหวังยับยั้งการเติบโตที่ชะลอตัวอย่างหนัก

+++ เหตุการณ์หุ้นร่วงหนักทั่วโลกเมื่อวันจันทร์ แบล็กมันเดย์ ทำให้มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของจีนสูญเงินในวันเดียวถึง 3,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 127,815 ล้านบาท) ดัชนีมหาเศรษฐีบลูมเบิร์ก ซึ่งจัดอันดับคนรวยของโลก เผยว่า นายหวัง เจี้ยนหลิน ประธานและผู้ก่อตั้งต้าเหลียน หวั่นต๋า บริษัทอสังหาริมทรัพย์และสถานบันเทิงของจีน ขาดทุนหนักที่สุดเมื่อตลาดหลักทรัพย์จีนปิดการซื้อขายเมื่อวานนี้ มูลค่าสินทรัพย์ของเขาหายไปกว่า 1 ใน 10 ในวันเดียว แต่ไม่สะเทือนเท่าใดนัก เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ นายหวังรวยขึ้น 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 213,055 ล้านบาท) เศรษฐีจีนที่ขาดทุนเป็นอันดับ 2 คือ นายแจ๊ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ มูลค่าสินทรัพย์หายไป 545 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 19,350 ล้านบาท)

+++ ดัชนีนิกเกอิปิดลดลง733.98 จุด อยู่ที่ 17,806.70 จุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดฮ่องกง ปิดเพิ่มขึ้น 153.39 จุด ที่ 21,404.96 จุด ส่วนเซียงไฮ้ คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน ปิด ลดลง 244.94 จุด ปิดที่ 2,964.97 จุด ดัชนีตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายพลิกกลับมาเป็นบวกกว่า 10 จุด จากปิดลบในภาคเช้า โดยดัชนีแกว่งตัวผันผวนทั้งแดนบวกและลบในระหว่างวัน ขณะที่มีแรงซื้อกลับหุ้นขนาดใหญ่ ล่าสุด ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาด ที่ 1,323.88 จุด เพิ่มขึ้น 22.82 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 60,200 ล้านบาท 

+++ การจับกุมนักข่าวฮ่องกงที่นำเสื้อเกราะและหมวกนิรภัยเตรียมเดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อกลับฮ่องกง นายดอน ปรมัติวินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการปล่อยตัวนักข่าวคนดังกล่าวแล้ว และเห็นว่านักข่าวคนนั้น อาจไม่ทราบว่าอุปกรณ์ดังกล่าวถือเป็นยุทธภัณฑ์ที่ไม่สามารถครอบครองได้โดยไม่มีใบอนุญาต และกรณีดังกล่าวถือเป็นบทเรียนที่ทุกคนต้องเพิ่มความระมัดระวังและรับรู้กติกาของแต่ละประเทศเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่ใช้เพียงความรู้สึกส่วนตัวและคิดเอาเองว่าถูกหรือผิด

 +++ชุดสืบสวนบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย ชุดสืบสวนบก.น.6 ได้เชิญตัวพยานสอบปากคำ นายเฉลิม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี โชเฟอร์ขับรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีเขียวเหลือง มฎ 2835 โดยใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 3 ชั่วโมง ก่อนปล่อยตัวกลับ โชเฟอร์รถแท็กซี่ดังกล่าวให้การว่า เป็นผู้ที่รับตัวชายต้องสงสัยเป็นมือระเบิด อายุประมาณ 30 ปี สูง 178 เซนติเมตร ไม่ทราบสัญชาติ ผมหยิกสีน้ำตาล สวมแว่นตากรอบดำ เสื้อยืดคอกลมสีเหลือง สวมปลอกแขนคล้ายต้องการอำพรางรอยสักหรือตำหนิ กางเกงสามส่วน สวมรองเท้าผ้าใบลายดำ-แดง จากบริเวณสวนลุมพินี แยกศาลาแดง ใกล้กับตึกชาญอิสสระ ทาวเวอร์ 1 ถนนพระราม 4 แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก ช่วงเวลาประมาณ 16.30 น. ไปส่งบริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง

+++นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่า การตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.)นั้น กรรมาธิการฯได้บัญญัติตามที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอมา ส่วนกรรมาธิการฯก็มีหน้าที่ปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ผ่านมา เพราะไม่ต้องการให้เกิดช่องโหว่ในการบริหารงานของรัฐบาล ดังนั้นคงไม่มีเหตุอะไรที่ทำให้รัฐธรรมนูญไม่ผ่านความเห็นชอบ จากการสัมมนาร่วมกันระหว่างกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญและสมาชิก สปช.วันนี้ (25 ส.ค.) ว่า สมาชิกสปช.เป็นห่วงและสอบถามแนวทางป้องกันการทุจริต การเลือกตั้งสุจริตและเที่ยงธรรม และการสื่อสารต่อเรื่องการปฏิรูป ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีแนวโน้มสูงที่จะผ่านความเห็นชอบจากสปช. เนื่องจากไม่มีสัญญาณคว่ำร่างรัฐธรรมนูญจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

+++นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึง วันที่จะประกาศทำประชามตินั้น จากเดิมที่กำหนดไว้ในช่วงวันที่ 10 มกราคม 2559 สามารถขยับได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะสามารถส่งร่างรัฐธรรมนูญได้ร้อยละ 80 จากครัวเรือนทั้งหมด หรือประมาณ 13.3 ล้านครัวเรือน จากครัวเรือนทั้งหมดมี 16.58 ล้านครัวเรือน เพราะตามรัฐธรรมนูญกำหนดว่า การทำประชามติ จะเกิดขึ้นหลังแจกจ่ายร่างรัฐธรรมนูญครบตามกำหนดไปแล้ว ภายในระยะเวลา 30-45 วัน ซึ่งคิดว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะจะทยอยส่งไป ส่วนงบประมาณการจัดทำประชามติที่กำหนดไว้ 3,000 ล้านบาทนั้น คาดว่าจะมีขยับขึ้นตามเนื้องาน แต่จะใช้งบประมาณอย่างประหยัดที่สุด

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ รับว่า กำลังพิจารณาจ้างล็อบบี้ยิสต์มาช่วยประเทศไทยในการชี้แจงถึงการแก้ปัญหาไอยูยู เพราะเกรงว่าไทยอาจได้รับใบแดงจากสหภาพยุโรป (อียู) ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาว่าจะมีบทบาทช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้มากน้อยแค่ไหน ขณะเดียวกันกำลังมีการปรึกษากับบุคคลในวงการล็อบบี้ยิสต์ด้วยว่าการว่าจ้างดังกล่าวจะช่วยให้ไทยมีโอกาสแก้ปัญหาสำเร็จมากขึ้นหรือไม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตามเงินที่ใช้ว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์แม้จะเป็นเงินจำนวนมาก แต่ถือว่าเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับผลความเสียหายที่ไทยจะได้รับ หากไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้

+++ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาตาหมายจับคดีฉ้อโกงหุ้น “ชูวงษ์ แซ่ตั๊ง” นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่เสียชีวิต หลังทนายความยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 5 ล้านบาท ขอประกันตัว

+++นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงผลการเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 7 จุด ซึ่งเป็นบ้านพักของเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นจำกัด ที่มีส่วนร่วมสนับสนุนการกระทำผิดกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการบริหารสหกรณ์ฯ พบเอกสารสัญญา รวมถึงสำเนาเช็คสั่งจ่ายเงินให้กับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย โดยดีเอสไอจะออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้อง 10-13 ราย มารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงสหกรณ์ในวันที่ 3-5 ก.ย.นี้ เนื่องจากพบว่าเกี่ยวข้องกับการตกแต่งบัญชีอันเป็นเท็จตั้งแต่ปี 2551-2555 

+++ส่วนตรวจสอบเช็คสั่งจ่ายของสหกรณ์ว่าในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายตรวจสอบพบว่ามียอดการรับเช็คเพิ่มเติมจากเดิมที่พบว่ามีกว่า 600 ล้านบาท แต่การตรวจสอบล่าสุดพบยอดรับเช็ครวมเพิ่มเติมเท่าตัวคือ 1,216 ล้านบาท แบ่งเป็นเช็คสั่งจ่ายให้พระธัมมชโย จำนวน 8 ฉบับ เป็นเงิน 431 ล้านบาท สั่งจ่ายวัดพระธรรมกาย 10ฉบับ จำนวน 642 ล้านบาท จ่ายมูลนิธิแม่ชีจันทร์หางนกยูง 5 ฉบับจำนวน 140 ล้านบาท ซึ่งดีเอสไอจะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพิ่มเติม เนื่องจากที่ผ่านมาวัดธรรมกายไม่เคยให้ข้อมูลในส่วนนี้ แต่แจ้งเพียงว่าหากมียอดเงินเกินจาก 642 ล้านบาท จะขอไปตกลงกับสหกรณ์เอง

++++นอกจากนี้ยังพบการนำเงินจากสหกรณ์ฯ ไปซื้อที่ดินในชื่อของพระวิรัตน์ จำนวน 6 แปลง เนื้อที่ 20 ไร่ ในจ.พิจิตร และที่ดินของพระประยูร จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 27 ไร่ ในจ.ชุมพร ซึ่งดีเอสไอจะอายัดที่ดินตามกฎหมายต่อไป ในชั้นสอบสวนมีเจ้าอาวาสวัดจำนวน 3 รูป ที่ได้รับเช็คจากสหกรณ์วัดละประมาณ 10 ล้านบาท ไม่ติดต่อเข้าให้ปากคำตามหมายเรียกทั้ง 2 ครั้ง ตามขั้นตอนดีเอสไอต้องแจ้งความดำเนินคดีฐานขัดหมายเรียก และเสนอให้พนักงานอัยการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ประกอบด้วย เจ้าอาวาสวัดกิ่วลม วัดสะนาม และวัดบ้านขุน ซึ่งทั้ง 3 วัด ตั้งอยู่ใน อ.ฮอด จ.เชียงใหม่

+++รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศยุบสภาเมื่อวันอังคาร และกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 11 ก.ย. นี้ เร็วกว่าเส้นตายที่เดิมมีเวลาถึงเดือน ม.ค. 2560 แต่ก็ไม่ผิดไปจากที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ โดยการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกหลังการจากไปของนายลี กวน ยู บุคคลผู้เปรียบเสมือนบิดาแห่งสิงคโปร์และมีอิทธิพลอย่างมากต่อชาวสิงคโปร์ นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง ผู้ซึ่งเป็นบุตรชายของนายลี กวน ยู ระบุว่า การเลือกตั้งที่จะมาถึง เป็นมากกว่าการเลือกรัฐบาลที่จะมาปกครองประเทศในอีก 5 ปีข้างหน้า แต่ยังเป็นการกำหนดทิศทางอนาคตของประเทศในอีก 50 ปี ข้างหน้าด้วย การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคกิจประชาชน (พีเอพี) พรรครัฐบาล คาดหวังว่าจะสามารถกวาดที่นั่งไปได้อย่างล้นหลามจากทั้งหมด 89 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร หลังการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2554 สูญเสียคะแนนนิยมไปมากจากปัญหาแรงงานอพยพและค่าครองชีพที่สูงขึ้นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว