*รอบวัน:รับมือน้ำมันโลกดิ่ง 32 เหรียญ/จีนส่งนอมินีรุกซื้อที่ดินไทยกว้านซื้อผลไม้เหมาสวน/ฟื้นเที่ยวราชประสงค์*

*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.

++++นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า สิ่งที่กังวลขณะนี้ คือ ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลง จนทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก จะฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาด กระทบต่อการส่งออกและอัตราเงินเฟ้อของไทย ส่วนการที่เวียดนามลดค่าเงินด่อง 1% ไม่ควรวิตกเกินไปว่าจะกระทบการส่งออก สินค้าไทยกับเวียดนามอยู่คนละตลาด แม้จะผลิตสินค้าชนิดเดียวกัน นายเมอร์วิน ถัง รองผู้อำนวยการฝ่ายเครดิตระหว่างประเทศ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่า ฟิทช์ไม่มีแผนที่จะทบทวนอันดับเครดิตของไทย ภายหลังเกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์

+++นายเซธ ไคลน์แมน นักวิเคราะห์ของธนาคารซิตี้กรุ๊ป ให้ความเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันในปีนี้จะปรับลดลงไปถึงระดับที่ 32.40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี  เป็นผลมาจากกำลังการผลิตน้ำมันที่สูงมาก หากผู้ผลิตน้ำมันไม่ลดกำลังการผลิตลง ราคาน้ำมันอาจลดลงไปได้เรื่อยๆ จนต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ในช่วง 1 เดือน ราคาน้ำมันโลกลดลงไปแล้ว 19.30% และ 58.2% ในระยะ 1 ปี

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และกล่าวตอนหนึ่งว่า เมื่อลงทุนใน กอช.แล้วรัฐบาลจะสมทบตามสัดส่วนและนำไปบริหารโดยผู้บริหารกองทุนมืออาชีพ จะมีกฎหมายที่ควบคุมชัดเจน ไม่เสียหาย รัฐบาลจะต้องค้ำประกันผลตอบแทนของสมาชิก ไม่ใช่ทำแล้วเจ๊งแล้วคืนเงินไม่ได้ ต้องไม่ทำให้เงินของประชาชนเสียหาย ต้องจ่ายผลตอบแทนให้กับสมาชิกทุกคนให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีคุณภาพ  เตรียมเสนอ ครม.ตั้งงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ของปีงบประมาณ 2559 วงเงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ซื้อหนี้เกษตรกรที่กู้ยืมเงินนอกระบบ โดยนำที่ดินไปจำนองเป็นหลักประกันและอาจสูญเสียที่ดินทำกิน

+++ พล.ท.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า งานในกระทรวงพลังงานเป็นงานที่ยากงานหนึ่ง ที่จะต้องเข้าไปจัดการปัญหาคือเรื่องการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ส่วนงานเดิมที่เคยดูแลอยู่คือการเป็น ประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) คงต้องหาคนใหม่มาทำหน้าที่แทน เพราะถ้าทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีพลังงานและประธาน คตร.ด้วย คงไม่มีเวลาพักผ่อน

+++นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีกลุ่มทุนจากต่างประเทศโดยเฉพาะจีนทยอยเข้ามาซื้อที่ดินไร่นาของเกษตรกรไทยแปลงใหญ่ในรูปแบบของนอมินีจำนวนมาก เพื่อนำที่ดินปรับเปลี่ยนรูปแบบการปลูกสินค้าเกษตร เช่น ข้าว หรือทำสวนผลไม้ แล้วส่งกลับไปจำหน่ายในต่างประเทศ เนื่องจากสินค้าเกษตรของไทยค่อนข้างได้รับความนิยมจากผู้บริโภคต่างประเทศมาก เพราะมีคุณภาพดีและรสชาติอร่อย ยังพบว่าเข้ามากว้านซื้อผลไม้ จากชาวสวนในลักษณะเหมาสวนมากขึ้น และยังมีการเช่าที่ดินเป็นรายปี สำหรับที่ดินที่มีการเพาะปลูกอยู่เดิม เพื่อนำเอาผลผลิตต่างๆ ออกไปจำหน่ายต่างประเทศ 

+++นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า ชาวนาต้องการให้รัฐบาล เข้ามาช่วยเหลือเรื่องของต้นทุนของการเพาะปลูก มากกว่าการให้ความสำคัญเรื่องของการนำงบประมาณมาแทรกแซงราคาให้สูงกว่าตลาด เพราะการให้ความสำคัญในเรื่องของราคาไม่เกิดความยั่งยืนในการเพาะปลูกข้าวเหมือนกับช่วงที่ผ่านมา ที่นักการเมืองจะใช้นโยบายการสนับสนุนสินค้าเกษตร โดยเข้ามาแทรกแซงราคาเพื่อให้ราคาสินค้าเกษตรสูงกว่าราคาตลาด เพื่อจูงใจชาวนาในการเลือกพรรคการเมืองนั้น ๆ เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่ได้ส่งผลดีและเกิดความยั่งยืน อีกทั้งยังสร้างความเสียหายให้กับประเทศอีกด้วย

+++ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่ประชุมคณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน เห็นชอบให้ตั้งงบประมาณประจำปี 59 วงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อหนี้จากเกษตรกรเข้ามาอยู่ในกองทุนช่วยเหลือฯ โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรที่เป็นหนี้นอกระบบ และกำลังจะถูกเจ้าหนี้ยึดที่ดินทำกิน หลังเอาที่ดินไปจำนองเป็นหลักประกันประมาณ 90,000 ราย โดยขั้นตอนต่อจากนี้จะเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาเห็นชอบต่อไปนภาพรวมของปัญหาหนี้สินนั้นจากการสำรวจพบว่า มีจำนวนเกษตรกรที่มีหนี้สินทั่วประเทศประมาณ 1.6 ล้านราย แยกออกเป็นหนี้ที่อยู่ในระบบ 1.4 ล้านราย ที่เหลือเป็นหนี้นอกระบบส่วนใหญ่จะนำที่ดินไปจำนองเพื่อกู้ยืมเงินจากนายทุน และเจ้าหนี้เงินกู้

+++ฟื้นฟูราชประสงค์ นายขจร วีระใจ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะหารือกับนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว ว่าจะให้กรณีนี้เป็นเหตุการณ์พิเศษและเพิ่มวงเงินช่วยเหลือหรือไม่ ที่ผ่านมากระทรวงมอบเงินเยียวยาญาตินักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตไปแล้ว 7 ราย เป็นชาวมาเลเซีย 4 ราย ฮ่องกง 2 ราย และสิงคโปร์ 1 ราย รายละ 3 แสนบาท และยังมีเงินสมทบของสมาคมท่องเที่ยวต่างๆ ที่ช่วยเหลืออีกรายละ 3 แสนบาท และเงินจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพรายละ 1 แสนบาท รวมเป็นเงินรายละ 7 แสนบาท

+++นายรณรงค์ ชีวินสิริอำนวย นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน กล่าวว่า 3 วันนับตั้งแต่เกิดเหตุระเบิด พบว่ายังคงมีชาวจีนเดินทางผ่านทัวร์เข้ามาราว 4-5 พันคนต่อวัน ใกล้เคียงกับระดับปกติ แต่ยอมรับว่ามีนักท่องเที่ยวบางรายยกเลิกเดินทางบ้าง แต่อัตราที่ลดลงจะเห็นชัดช่วง 5-6 วันหลังจากเหตุการณ์ กลยุทธ์การรักษาตลาดเร่งด่วนขณะนี้คือ ฟื้นความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว โดยสมาคมขอความร่วมมือเอเยนต์ทุกรายช่วยชี้แจงกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพราะตลาดจีนกว่า 80% ยังเป็นการเดินทางผ่านทัวร์เป็นหลัก นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ตอนนี้มียอดยกเลิกทัวร์จากฮ่องกงเข้ามามาก สาเหตุเพราะประกันภัยไม่ครอบคลุมภายใต้การประกาศเตือนเดินทางระดับสีแดงที่ฮ่องกงยกระดับเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม

+++นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก ททท. กล่าวว่า ยังคงจัดกิจกรรม "ไทยแลนด์ ทัวริสซึ่ม แฟร์" ที่ฮ่องกงตามปกติ ระหว่างวันที่ 3-6 กันยายนนี้ ขณะเดียวกันยังทำการตลาดในกลุ่มเอเชียตามกำหนดเดิม อาทิ งานไทยเฟสติวัล ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ 27-28 สิงหาคม 2558 จะใช้โอกาสนี้ยืนยันการรักษาความปลอดภัยของไทย    

+++ นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จัดเคาน์เตอร์พิเศษเช็กอินไว้ที่ ROW B หมายเลข 7-8 และเลื่อนชั้นที่นั่งเป็นชั้นธุรกิจหรือชั้นหนึ่งให้ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บในกรณีมีที่นั่งว่าง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกเป็นกรณีพิเศษในการผ่านพิธีการต่างๆ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และจัดให้พักรอขึ้นเครื่องที่ห้องรับรองพิเศษของการบินไทย รวมถึงนำส่งผู้โดยสารถึงประตูเครื่องบิน และให้พนักงานต้อนรับดูแลต่อเนื่องตลอดการเดินทางสำหรับญาติที่จะเดินทางมาเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บในโรงพยาบาลต่างๆ การบินไทยจัดบัตรโดยสารราคาพิเศษให้แก่ญาติ หากต้องการเดินทางโดยการบินไทย และการบินไทยยกเว้นค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการขนส่งผู้เสียชีวิตกลับสู่ภูมิลำเนา ญาติสามารถติดต่อได้ที่โทร 0-2137-4940-2

+++ตำรวจกองปราบฯรวบแก๊ง 18 มงกุฎ พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายกิตติภพ สิทธิราช และนายวิเศษ พุทธษา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกำแพงเพชร ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันหมิ่นเบื้องสูง ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม  ผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ร่วมกับนางอัษฏาภรณ์ สิทธิราช ที่ถูกจับกุมไปแล้ว และผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 1 คน ได้ทำทีเข้าไปตีสนิทกับเจ้าอาวาสวัดไทรงาม จ.กำแพงเพชร ได้เงินรวมกว่า 1 ล้านบาท สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

+++ พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กำกับดูแลงานจราจร เปิดเผยว่า จะเร่งรัดให้ทุกสถานีตำรวจรวบรวมใบสั่งที่ค้างชำระใน 1 ปี เพื่อออกหมายเรียกให้มาชำระค่าปรับ หากไม่มาจะถือว่าขัดหมายเรียก ส่วนกรณีถูกยึดใบขับขี่แล้วไม่มาชำระค่าปรับเพื่อรับใบขับขี่คืน จะดำเนินการส่งใบขับขี่ให้ขนส่งเพื่อให้ชำระค่าปรับและรับใบขับขี่คืน นอกจากนี้ยังพบว่าบางคนไม่มารับใบขับขี่ แล้วไปแจ้งความว่าใบขับขี่หาย จะถือว่าเป็น คดีอาญา ต้องถูกดำเนินคดีฐานแจ้งความเท็จด้วยใบสั่งค้างชำระในแต่ละปีจำนวนมาก ปี 2557 ออกใบสั่ง 1.1 ล้านใบ มียอดชำระค่าปรับ 30-40 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 300,000 กว่าใบเท่านั้น โดยใบสั่งจะมีอายุ 1 ปี