*ปธ.จนท.บริหารธ.กสิกรไทย รับศก.โลกทรุดต้องให้กำลังใจคนทำงาน ระเบิดกระทบท่องเที่ยว*

แนวโน้มเศรษฐกิจไทย นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นหน้าพระพรหม แยกราชประสงค์ว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ และรัฐบาลก็ต้องถอยมาตั้งหลัก มาดูแลเรื่องความปลอดภัยของทั้งประเทศ และต้องศึกษาระบบความปลอดภัย เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นมาอีก อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์อย่างนี้ ทำให้ท่องเที่ยวหยุดได้ แต่ก็ต้องดูสถานการณ์ก่อนว่าจะมีผลกระทบอย่างไร ขณะนี้ ควรให้กำลังใจกับคนทำงาน ช่วยกันทำงาน อย่าด่วนตัดสินอะไร

ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)  นั้น นายบัณฑูร มองว่า สถานการณ์อย่างนี้เป็นเรื่องยากของทุกคนในประเทศ คนที่เป็นรัฐบาลก็เจอความกดดัน จะให้เข้ามาบริหารให้เกิดผลเร็วๆ คงไม่ได้ เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจโลกก็ทรุดกันหมด ส่วนการมองของต่างประเทศ ไม่ใช่ประเด็นที่จะมาตัดสิน เนื่องจากการปกครองของไทยไม่เหมือนประเทศอื่น และเมื่อเข้ามาในโครงสร้างนี้แล้ว รัฐบาลก็ต้องแสดงผลงานการพัฒนาประเทศให้เห็น ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะพลิกได้ในเวลาข้ามคืน การปรับครม. คงไม่ได้ทำให้นโยบายเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่ควรทำให้นโยบายทุกด้านสามารถปฏิบัติเป็นรูปธรรมได้ เพื่อผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าขึ้นไป ซึ่งการนำนโยบายมาปฏิบัติเป็นเรื่องท้าทายของรัฐบาลทุกชุดที่เข้ามาทำงาน

สิ่งที่ดีที่สุดคือ การให้กำลังใจกับคนที่อาสาเข้ามาแก้ปัญหาของประเทศ ซึ่งหวังว่าจะทำงานด้วยกันได้ เพื่อหาช่องทางยกระดับความเป็นอยู่การทำมาหากินของประเทศโดยรวม ซึ่งหากทีมเศรษฐกิจเข้าขากัน ทำนโยบายและยุทธศาสตร์เดียวกัน ทุกเรื่องโยงกัน ไม่ต่างคนต่างทำได้ ถือว่าดี

ส่วนการทำงานของ ว่าที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ เชื่อว่า เรื่องอัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน จะต้องดำเนินให้สอดคล้องกับความจำเป็นในการพัฒนา ซึ่งไม่มีคำตอบตายตัว ว่าจะต้องกำหนดตัวเลขอย่างไร และที่ผ่านมาสถาบันการเงินได้เผชิญมรสุมมาด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้น จึงเป็นความท้าทายของ ธปท. และธนาคารพาณิชย์ที่จะรักษาระดับการเติบโต ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ แม้ว่าผลกระทบของสินทรัพย์ของกิจการจะถดถอยลงบ้าง แต่ก็ไม่ได้ล้มเหลว ยังประคองตัวได้ในภาวะขาลง ส่วนผลกระทบจากเงินหยวนอ่อนค่า ถือว่าเป็นโจทย์ที่ทุกประเทศที่แข่งขันกันต้องเผชิญ ส่วนประเทศไทย ถ้ามีการค้าตรงกับจีนย่อมได้ผลกระทบ

ภาพ :ธนาคารกสิกรไทย