*รอบวัน:เร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเหตุระเบิด/จีนเรียกร้องไทย ลงโทษผู้ก่อเหตุให้หนัก/เตือนเสพสื่อโซเชี่ยล

สรุปข่าว 19.35น.

+++สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ท่านผู้หญิงรวิจิตร์ สุวรรณบุปผา ผู้ช่วยราชเลขานุการในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เป็นตัวแทนพระองค์ เข้าเยี่ยมและพระราชทานอาหารเครื่องดื่มให้แก่ญาติ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อคืนนี้ ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์   รวมทั้งยังมีตัวแทนจากชมรมรวมใจชาวจีนทั่วโลกเป็น 1 เดียวเข้ามาสอบถามและเยี่ยมเยียนชาวจีน พร้อมแสดงความเจตจำนงที่จะดูแล ญาติพี่น้องที่มาจากประเทศจีนโดยจะมีการออกทุน พร้อมสนับสนุนค่ารถรับส่ง ในการมาเยี่ยมผู้ประสบเหตุฟรี ทุกคน

+++กระทรวงการต่างประเทศ เชิญคณะทูตานุทูตจาก 76 ประเทศ ตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ 10 องค์กร เพื่อชี้แจงสถานการณ์ เหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ นายนรชิต สิงหเสนี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงภาพรวมการดำเนินงานของรัฐบาล ที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในด้านต่าง ๆ  กระทรวงการต่างประเทศจะอำนวยความสะดวก และช่วยเหลือเรื่องข้อมูล กรณีมีชาวต่างชาติได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยมีมาตราการเยียวยาช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ย้ำกับคณะทูตานุทูตว่า สถานที่ราชการ สถาบันการเงิน ยังเปิดให้บริการตามปกติ และไม่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแต่อย่างใด เนื่องจากควบคุมเหตุการณ์ไว้ได้แล้ว

+++เมื่อช่วงเย็นวันนี้  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ไปเป็นประธานเปิดงานตลาดนัดนวัตกรรมการแพทย์แผนไทย ที่ฮอลล์ 9 อาคารอิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งถึงเหตุการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ว่า วันนี้ยินดีที่ได้มาทำสิ่งที่ดีๆร่วมกัน โดยการเปิดงานตลาดนัดนวัตกรรมทางการแพทย์แผนไทย มาร่วมกันกับพวกเราทำความดีให้ประเทศไทยก้าวหน้าไปอีกระดับหนึ่ง ถึงแม้จะมีกลุ่มที่เป็นคนเลวๆทำเอาไว้เมื่อวันที่ 17 ส.ค. เป็นเรื่องที่เสียใจ เพราะฉะนั้นเราต้องทำสิ่งที่ดีเอาชนะสิ่งที่ไม่ดี ทำคนดีให้ชนะคนไม่ดี และตนยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด อยากให้ทุกคนช่วยกันทุ่มเทใจให้กับคนดีๆและมีคุณธรรมในบ้านเมือง  ระหว่างที่นายกฯกล่าวเปิดงานได้พูดวนกลับมาเรื่องเหตุระเบิดที่ราชประสงค์เป็นระยะ โดยช่วงหนึ่งนายกฯได้หยุดชะงักไป พร้อมกล่าวอย่างอัดอั้นว่า “ผมก็เจ็บปวดกว่าท่านเยอะ”

+++นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวในฐานะที่ดูแลรับผิดชอบงานด้านข่าวกรอง ยอมรับว่าไม่มีการข่าวแจ้งล่วงหน้า ในลักษณะการชี้ชัดรายละเอียด ขณะนี้ฝ่ายการข่าวกำลังตรวจสอบความเป็นไปได้ ไม่มองข้ามประเด็นใด และไม่ต้องการให้ด่วนตัดสินว่าเป็นประเด็นใด จนกว่าจะมีหลักฐานที่ชัดเจน โดยเฉพาะระเบิดที่นำมาใช้ก่อเหตุเป็นแบบไหน มีวิธีต่อวงจรอย่างไร ตรงนี้จะบ่งบอกว่าระเบิดมาจากกลุ่มใดส่วนกลุ่มอุยกูร์มีศักยภาพในการก่อเหตุลักษณะนี้หรือไม่ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ต้องไปดูประวัติศาสตร์ทั้งหมด อุยกูร์เคยวางระเบิดนอกพื้นที่แต่กำลังให้หน่วยข่าวตรวจสอบ ซึ่งการวางระเบิดอะไรได้จะต้องมีการหาวัตถุประกอบระเบิด

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแตะจุดต่ำสุดของวันที่ 1,362.31 จุด หรือลดลง 46.43 จุด ในการซื้อขายภาคบ่าย ก่อนจะขยับขึ้นมาเล็กน้อยมาปิดที่ 1,372.61 จุด ลดลง 36.13 จุด มูลค่าการซื้อขาย 78,348.44 ล้านบาท ความกังวลต่อเหตุการณ์ระเบิด ทั้ง 2 จุด ในกรุงเทพฯ เป็นปัจจัยหลักที่กดดันตลาดหุ้นไทยในวันนี้

+++ส่วนตลาดหุ้นในเอเชีย นักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน หลังจากดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วงลงในระหว่างวัน ก่อนที่จะมาปิดตลาด ที่ 3,748.16 จุด ลดลง 245.50 ส่วนดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 65.79 จุด ที่ 20,554.47 จุด  ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 339.68 จุด ปิดที่ 23,474.97จุด

+++นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด กล่าวว่า ได้เพิ่มความเข้มงวดของมาตรการรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานทอท.ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ และแม่ฟ้าหลวงเชียงรายเป็นระดับ 3 โดยเพิ่มการสุ่มตรวจผู้โดยสารและสัมภาระ 1 ต่อ 10 คน และตรวจยานพาหนะเข้าพื้นที่หวงห้ามตรวจ 100% รวมทั้งงดการออกบัตร รปภ.ชนิดชั่วคราวสำหรับทุกภารกิจ ยกเว้นได้รับสั่งการจากผู้อำนวยการท่าฯที่รับผิดชอบ

+++นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ การบินไทย ได้เปิดให้มีการ ยกเว้นค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน แก่ผู้โดยสารที่กำหนดเดินทางวันที่ 18 ส.ค.- 18 ก.ย.58 โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน 1 ครั้ง ในเส้นทางที่ระบุบนบัตรโดยสารทุกเส้นทาง แต่จะต้องเดินทางภายในอายุบัตรโดยสารเดิม และ วันที่ 18 ก.ย.58

+++ทางการจีนเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ไทยดำเนินการสอบสวนอย่างเต็มที่ในเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ พร้อมทั้งให้ลงโทษกลุ่มผู้ก่อเหตุอย่างหนัก นางหัว ชุนอิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน มีแถลงการณ์ซึ่งโพสต์ทางเว็บไซต์ว่า จีนประณามอย่างรุนแรงต่อเหตุระเบิดที่กรุงเทพฯ ดังกล่าว และว่า นักท่องเที่ยวจีน 4 คนเสียชีวิต ซึ่งรวมถึงชาวฮ่องกง 2 คน โดยมีนักท่องเที่ยวจีนอีกกว่า 20 คนได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้

+++สำนักงานความมั่นคงของฮ่องกงออกประกาศเตือนภัยเรื่องการเดินทางในระดับ "สีแดง" ให้แก่ประเทศไทย เพื่อเป็นการเตือนให้พลเมืองของตัวเองเพิ่มความระมัดระวัง "เป็นพิเศษ" ในการเดินทางและดำรงชีวิต หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิด สถิติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยระบุว่า เมื่อปีที่แล้วมีชาวจีนมากกว่า 4.6 ล้านคน และชาวฮ่องกงมากกว่า 48,000 คนเดินทางเยือนไทย ขณะที่สถิติของชาวจีนสูงถึงกว่า 630,000 คน และชาวฮ่องกงมากกว่า 65,000 คน เมื่อเดือนมิ.ย.เพียงเดือนเดียว

+++พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สำหรับผู้ที่พบเจอเหตุการณ์สะเทือนใจหรือมีอาการหวาดกลัวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ควรจะปฏิบัติตัวดังนี้ 1.ตั้งสติให้ได้มากที่สุด 2.ฝึกใช้ลมหายใจเข้าออกให้เป็นจังหวะ เพื่อให้เกิดการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ 3.มีสติในการเสพข่าวสารต่างๆ โดยเฉพาะข่าวสารตามโซเชียลมีเดีย โดยเสพข่าวสารเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ทั้งนี้หากประชาชนที่มีความกังวล ได้รับผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจจากเหตุการณ์ สามารถเข้ารับคำปรึกษาปรึกษาจากจิตแพทย์ได้ที่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่หน้าบริเวณห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ หรือเข้ารับการปรึกษาจิตแพทย์ได้ที่ ศูนย์บริการสาธารณสุขกรุงเทพมหานครในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้ง 68 แห่งทั่วกรุงเทพฯ

+++พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีดีเอสไอ นำสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษ กรณีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น กับพวก ร่วมกันยักยอกเงินของสหกรณ์ฯ จำนวน 26 แฟ้ม และสำนวนที่พนักงานอัยการสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม 8 ประเด็น อีกจำนวน 24 แฟ้ม รวมทั้งสิ้น 50 แฟ้ม ส่งพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4ในข้อหายักยอกทรัพย์และลักทรัพย์ มูลค่าความเสียหายประมาณ27,642,000ล้านบาท และคดีพิเศษที่ 146/2557 ข้อหายักยอกทรัพย์มูลค่าความเสียหายกว่าหมื่นล้านบาท ตอนนี้ ยังเหลืออีก 1 สำนวน ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมส่งให้อัยการ โดยต้นเดือนกันยายนนี้ ดีเอสไอจะแจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก13 ราย

วันนี้ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์สาว และ น.ส.ศรีธรา พรหมา มารดา พร้อมด้วย นายเดชาขุนทอง ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ กก.1 บก.ป. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมหลังจากได้รับหมายเรียกให้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เรื่องการโอนหุ้นและความสัมพันธ์กับนายชูวงษ์ นายเดชา เปิดเผยว่า ทาง น.ส.อุรชา และมารดา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นที่พนักงานสอบสวนยังติดใจสงสัย ขณะที่ น.ส.อุรชา กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ขณะนี้สภาพจิตใจของยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เนื่องจากยังรู้สึกว่ามีกลุ่มบุคคลที่คอยติดตามจนรู้สึกไม่ปลอดภัย ทำให้ต้องเก็บตัวไม่กล้าเดินทางออกไปไหน  โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าภายหลังสอบปากคำพยานในส่วนต่างๆ และรวบรวมเอกสารเพิ่มเติมแล้ว ภายในปลายสัปดาห์นี้คาดจะสามารถขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอน