ทันสถานการณ์ฯ:พบเครื่องบินอินโดนีเซียที่สูญหายแล้ว/ผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่เทียนจินเพิ่ม/ไอเอสก่อเหตุรุนแรงหลายจุดในอิรัก

เครื่องบินของสายการบินไตรกานา  องอินโดนีเซียเผชิญสภาพอากาศเลวร้าย และประสบเหตุตกในเขตภูเขาภายในจังหวัดปาปัว ดินแดนห่างไกลทางภาคตะวันออก หลังออกเดินทางจากสนามบินในจายาปุระได้เพียงครึ่งชั่วโมง โดยเครื่องบินลำนี้ มีเป้าหมายเมืองอ็อกซิบอล ที่จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที แต่เครื่องบินขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศในเวลาประมาณ 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นหรือประมาณ 13.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เครื่องบินลำนี้ เป็นเครื่องยนต์ใบพัดคู่ ที่ใช้งานมา 27 ปีแล้ว ขณะเกิดเหตุมีผู้โดยสารและพนักงานบนเครื่องบิน 51 คน ซึ่งกระทรวงคมนาคมระบุว่า สาเหตุของอุบัติเหตุคือสภาพอากาศไม่ใช่การบรรทุกผู้โดยสาร ที่โดยทั่วไปเครื่องบินรุ่นนี้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 50 คน

ไตรกานา แอร์เป็นสายการบินขนาดเล็กที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2534 ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศ 40 เส้นทาง ถูกสหภาพยุโรป (อียู) ขึ้นบัญชีดำห้ามให้บริการในยุโรปตั้งแต่มื่อปี 2551 เนื่องจากความกังวลด้านมาตรฐานความปลอดภัยของสายการบินเอง รวมทั้งสภาพแวดล้อมการบังคับใช้กฎระเบียบการบินของอินโดนีเซีย เคยประสบอุบัติเหตุร้ายแรง 14 ครั้งนับจากเริ่มให้บริการ

ทางการจีนสรุปยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่ท่าเรือเทียนจินเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 112 ศพ แต่ยังมีผู้สูญหายอีก 95 คน โดยในกลุ่มผู้สูญหายเป็นนักดับเพลิงมากถึง 85 คน ทั้งเมื่อวันเสาร์ยังมีไฟลุกไหม้เกิดขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากโกดังในพื้นที่นี้เก็บสารเคมีและวัตถุไวไฟ ซึ่งนอกจากจะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากแล้ว ยังมีผู้บาดเจ็บ 722 คน ในจำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 25 คน

ด้านสำนักบริหารจัดการไซเบอร์สเปซของทางการจีนสั่งปิดหรือยุติการให้บริการบัญชีชื่อสื่อโซเชียลมีเดียกว่า 360 บัญชี และเว็บไซต์ 50 เว็บไซต์ ที่รายงานว่ามีแก๊สพิษรั่วไหล ซึ่งกองทัพจีนระบุว่าเป็นรายงานที่ไม่เป็นความจริง เพราะระดับสารแอมโมเนียในอากาศในรัศมี 2 กิโลเมตรจากจุดระเบิดมีอยู่ในปริมาณสูงกว่าระดับความปลอดภัยเล็กน้อย และลดระดับลงมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามฝ่ายป้องกันสิ่งแวดล้อมของเทศบาลเมืองเทียนจิน เปิดเผยผ่านทางสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนว่า สถานีตรวจวัดอากาศ 2 แห่ง พบปริมาณก๊าซพิษไฮโดรเจนไซยาไนด์ในอากาศบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุระเบิด สูงกว่าระดับความปลอดภัยในระยะเวลาสั้นๆ และผู้บัญชาการกองทัพภาคปักกิ่งของจีน เปิดเผยว่า โกดังที่เกิดเหตุมีสารไซยาไนด์ปริมาณหลายร้อยตัน สอดคล้องกับสื่อของทางการจีนที่คาดว่าโกดังแห่งนี้จะมีโซเดียมไซยาไนด์ถึง 700 ตัน

ที่ปากีสถานเกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย ที่หมู่บ้านชาห์ดี คาน เมืองอัตต็อก แคว้นปัญจาบ ขณะที่กำลังมีการประชุม ทำให้นายชูห์จา คานซาดา รัฐมนตรีกิจการภายในแคว้นปัญจาบเสียชีวิตพร้อมผู้อื่นอีก 9 ศพ นายคานซาดาเป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธตามนิกายต่างๆ และกลุ่มตาลิบัน

กลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลามหรือไอเอส ก่อเหตุระเบิดหลายจุดในกรุงแบกแดดของอิรัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ศพ และบาดเจ็บกว่า 40 คน

ส่วนที่ไนจีเรีย มือระเบิดหญิงก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในเมืองรามิร์โก ในรัฐบอร์โนทางตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ศพ และบาดเจ็บ 7 คน

คลื่นความร้อนปกคลุมหลายพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐ ทั้งรัฐแคลิฟอร์เนีย แอริโซนา และนิวเม็กซิโก โดยที่เมืองฟินิกซ์ของแอริโซนาเมื่อวันเสาร์มีอุณหภูมิอยู่ที่ 46.11 องศาเซลเซียส สูงกว่าสถิติสูงสุดที่เคยบันทึกไว้เมื่อปี 2535 ถึง 3 องศาเซลเซียส

ด้านทหารพลร่ม 2 นายจากกองทัพสหรัฐ ประสบเหตุปะทะกันกลางอากาศ ระหว่างการแสดงโชว์ผาดโผน ในงานชิคาโก แอร์ แอนด์ วอเตอร์ โชว์ ในรัฐอิลลินอยส์ ทำให้พลร่มนายหนึ่งร่อนลงกระแทกอาคารหลังหนึ่งในส่วนพื้นที่จัดแสดง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่พลร่มอีกนายซึ่งสังกัดหน่วยนาวิกโยธินได้รับบาดเจ็บขาหัก

กองทัพเรืออิตาลี่ ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพที่เดินทางข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจากลิเบียไปขึ้นฝั่งประเทศอิตาลีและกรีซ ขณะที่สหภาพยุโรป (อียู) ยอมรับว่ากำลังเผชิญกับวิกฤตผู้ลี้ภัยที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา โดยเมื่อวันเสาร์มีเหตุเรือผู้อพยพจมนอกชายฝั่งลิเบีย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 ศพ และสามารถช่วยไว้ได้ 312 คน ส่วนเรือลาดตระเวนของสหภาพยุโรป (อียู) ช่วยผู้อพยพอีกเกือบ 400 คน ในเรือที่อยู่กลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

ชาวบราซิลนับแสนคนร่วมการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ถอดถอนประธานาธิบดี ดิลมา รุสเซฟฟ์ ออกจากตำแหน่ง เพราะไม่พอใจปัญหาคอร์รัปชันและเศรษฐกิจตกต่ำ และนับเป็นการชุมนุมประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีเป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้ ทั้งที่ดำรงตำหน่งในสมัยที่ 2 นี้มาไม่ถึง 1 ปี

*-*