เกิดการปะทะกันระหว่างผู้อพยพจากหลายชาติบนเกาะคอสของกรีซ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่า ในขณะที่ผู้อพยพจำนวนมากต้องเผชิญกับสถานการณ์ความยากลำบาก เนื่องจากต้องต่อสู้แย่งชิงน้ำและอาหาร แต่บางคนได้รับสิทธิพิเศษในการเดินทางไปยังแผ่นดินใหญ่ของกรีซก่อน
สำนักข่าวอัลจาซีเราะห์รายงานว่า ผู้อพยพชาวปากีสถาน อัฟกานิสถาน และอิหร่านจำนวนหลายสิบคนได้ขว้างปาก้อนหินใส่กันบริเวณหน้าสถานีตำรวจบนเกาะคอส ในระหว่างกำลังรอรับเอกสารขออนุญาตเดินทางไปยังแผ่นดินใหญ่ของกรีซ แต่กลับพบว่าสถานีตำรวจปิดให้บริการ เนื่องจากเป็นวันหยุดประจำปี ทั้งนี้ ยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้เริ่มต้นก่อเหตุก่อน แต่บรรยากาศดำเนินไปอย่างดุเดือด เพราะแต่ละคนต่างมีความโกรธแค้น ความไม่พอใจ และความเคลือบแคลงใจปะปนอยู่ ผู้อพยพชาวอิหร่านคนหนึ่งบอกว่า ชาวอัฟกานิสถาน และปากีสถานได้รับสิทธิให้เดินทางไปกรีซก่อน ต่างจากชาวอิหร่านอย่างพวกเขาที่ยังไม่สามารถเดินทางต่อไปได้
รัฐบาลกรีซได้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยการส่งเรือเฟอร์รี่เข้าไปที่เกาะคอสเพื่อรับลงทะเบียนและให้ใบอนุญาตการเดินทางแก่ผู้อพยพ รวมทั้งส่งเรือไปรับผู้อพยพที่ได้รับใบอนุญาตแล้วหลายร้อยคนเดินทางไปยังกรุงเอเธนส์ และเตรียมเรืออีกหนึ่งลำสำหรับลำเลียงผู้อพยพชาวซีเรียไปยังแผ่นดินใหญ่ การช่วยเหลือดังกล่าวของรัฐบาลกรีซเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศกำหนดไว้ชัดเจนว่าผู้อพยพที่หนีสงครามจากบ้านเกิดเช่น ซีเรีย จะได้รับสิทธิในการช่วยเหลือมากกว่าผู้อพยพหนีความยากจน อย่างไรก็ตาม ทางการกรีซยืนยันว่าผู้อพยพจากทุกชาติจะได้รับความช่วยเหลือเช่นเดียวกัน
เกาะคอสเป็นที่ตั้งของค่ายผู้อพยพ ที่ดำเนินการโดยกลุ่มเมดีซิน ซานส์ ฟรอนเทียร์ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านที่หลับนอนและห้องสุขาเคลื่อนที่แก่ผู้อพยพ แต่ขณะนี้กำลังเผชิญกับปัญหาที่มีผู้อพยพหลั่งไหลเข้ามาวันละหลายร้อยคน ผู้อพยพส่วนใหญ่ขาดแคลนทั้งอาหารและน้ำดื่ม อีกทั้งยังต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดในเวลานี้ องค์การสากลเพื่อการอพยพระบุว่า เฉพาะปีนี้ปีเดียวมีผู้อพยพข้ามทะเลเมอร์ดิเตอร์เรเนียนเพื่อเข้าไปยังยุโรปแล้วเกือบ 250,000 คน ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งเดินทางผ่านเกาะคอสของกรีซ ซึ่งรัฐบาลกรีซไม่ได้เตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงเรียกร้องในนานาประเทศยื่นมือให้ความช่วยเหลือด้วย
**11.17F174**