*รอบวัน(1):ทุกฝ่ายพร้อมกิจกรรมปั่นเพื่อแม่/นายกฯประชุมก.ต.ช./สนช.นัดลงมติถอดอดีตส.ส.248 คน*

+++การเตรียมความพร้อมจัดกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ ในวันอาทิตย์นี้ 16 ส.ค. พล.ท.พลาวุฒิ กลับเจริญ  เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการฝ่ายลงทะเบียนผู้เข้าร่วมกิจกรรม ไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่ และจัดขบวนจักรยาน เปิดเผยว่าตั้งแต่ที่มีการเปิดเว็บไซต์ ไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่ ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.มีผู้เข้าชมเว็บไซต์เกือบ 1.4 ล้านครั้งและมีการลงทะเบียนทั้งประเทศกว่า 2.9 แสนคนที่จะเข้ามาร่วมกิจกรรมฯ ในส่วนของพื้นที่ต่างจังหวัดมีกว่า 2.5 แสนคน ขณะที่ กรุงเทพมหานคร(กทม.)มีกว่า 38,000 คน ดังนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายในการบริหารจัดการกับจำนวนคนที่มีมาก ส่วนประชาชนที่ไม่ร่วมปั่นจักร ยานแต่ขอมาร่วมรับเสด็จฯและลงทะเบียนไว้มีประมาณ 1 แสนราย

+++เรื่องการจัดขบวนจักรยานในพื้นที่ต่างจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดทำหน้าที่บริหารจัดการ สำหรับพื้นที่ กทม.มี 3 ขบวน ได้แก่ ขบวนเอ, ขบวนบี และขบวนซี ซึ่งขบวนเอสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจักรยานนำ และขบวนบี พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงจักรยานนำขบวน โดยมีคณะรัฐมนตรี(ครม.)และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ร่วมขบวน ส่วนขบวนซี ส่วนใหญ่จะมีข้าราชการ, องค์กรภาคเอกชนและประชาชนเข้าร่วมประมาณ 20,000 คน

+++ประชาชนต้องจำเลขรหัสที่ลงทะเบียนไว้ พร้อมกับบัตรประชาชนได้ทำการลงทะเบียนในวันที่ 16 ส.ค. ตั้งแต่เวลา 09.00-13.30 น. ตามจุดที่กำหนดไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ จะแจกบัตร 2 ใบ  คือ ใบแรกใช้คล้องคอจะมีบาร์โค้ดเพื่อบันทึกเป็นสถิติโลกหรือกินเนสส์บุ๊ก เวิลด์  เรคคอร์ด ส่วนบัตรใบที่สองจะใช้ติดกับจักรยานนอกจากนี้ตลอดเส้นทางที่ผ่านจะมีจุดบริการทางการแพทย์และน้ำรวมทั้งสิ้น 56 จุด ที่สำคัญประชาชนสามารถปั่นแค่ไหนก็ได้แต่ขอให้ปั่นอย่างน้อย 4 กม. เพื่อร่วมกันบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งนี้  ส่วนประชาชนจะมีการจัดขบวน ซี 1- ซี 4 ตามจุดต่างๆ  4 จุด ประชาชนไปแสดงตัวลงทะเบียนและรับป้ายในช่วงเวลาดังกล่าวและเริ่มปั่นในเวลา 15.00 น.

+++การดูแลเรื่องด้านสาธารณสุข วันนี้  นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน  รมว.สาธารณสุข นพ.ณรงค์  สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกลเพื่อสรุปแผนการทำงานอีกครั้ง มีการประชุมทางไกลร่วมกับพื้นที่ต่างจังหวัดมอบหมายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)เป็นผู้บัญชาการหลักประสานความร่วมมือกับผู้อำนวยการโรงพยาบาล ในส่วนกลางจะให้บุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมด 1,200 คนเข้าให้บริการจัดเป็นทีม 200 ทีม ทั้งทีมแพทย์ชั้นสูง, ทีมแพทย์พื้นฐานและทีมปฐมพยาบาลประจำจุดปฐมพยาบาล 60 จุด ทีมแพทย์จักรยาน 100 คัน พร้อมทีมอาสาร่วมสังเกตการณ์ที่ยืนประจำจุดร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุก 200 เมตร ที่คอยแจ้งจุดเกิดเหตุ

+++กระทรวงสาธารณสุข แนะนำว่า ก่อนร่วมกิจกรรมฯ 1 วัน ขอให้พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชม. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และก่อนปั่นจักรยานควรรับประทานก่อนอย่างน้อย 2 ชม. อบอุ่นร่างกายอย่างน้อย 5-10 นาที หากมีโรคประจำตัวควรเตรียมยาพกติดตัวตลอดเวลา รวมทั้งควรตรวจเช็กจักรยานให้พร้อม ส่วนการปฏิบัติตัวขณะปั่นต้องสวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี  รองเท้าต้องกระชับและควรเตรียมน้ำดื่ม 1 ขวดพร้อมผงเกลือแร่ 1 ถุง จิบน้ำบ่อย ๆ ทุก 15-30 นาที และนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวจะช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ดียิ่งขึ้นและควรสวมแว่นตากันแดด ทั้งนี้หากรู้สึกอ่อนเพลียไม่มีแรง ปากแห้ง น้ำลายเหนียวและกระหายน้ำแสดงว่าร่างกายเสียเหงื่อมากเกินไปขอให้จิบน้ำหรือแจ้งทีมแพทย์

+++พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ใครต้องเดินทางไปยังสนามบินดอนเมือง ขอให้เผื่อเวลาและให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ขอความร่วมมือประชาชนที่ร่วมขี่จักรยานงดใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปเซลฟี่ระหว่างปั่นจักรยาน เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุเหมือนกับที่เกิดขึ้นในวันที่มีการซ้อม ถ้าจะถ่ายรูปควรถ่ายที่บริเวณจุดพักเพื่อความปลอดภัย

+++ความเคลื่อนไหวในวงการตำรวจ วันนี้คาดได้บุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) คนใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ นั่งเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.)  ในเวลา 10.00 น.  พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) แคนดิเดตชิงตำแหน่ง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าจะถูกโยกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดทางให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ขึ้นเป็น ผบ.ตร.ว่า มีข่าวปรากฏ แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดในเรื่องนี้ ตอนนี้ยังไม่มีใครมาทาบทามหรือพูดคุย การพิจารณาคงเป็นเรื่องที่ผู้บังคับบัญชาจะใช้ดุลพินิจในการพิจารณา

+++เรื่องการปรับครม. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะปรับทุกกระทรวง  ซึ่งหลักการปรับครม. คือความเหมาะสม มีการถามนายกรัฐมนตรี ถึงรายชื่อบุคคลที่ปรากฏตามข่าวทั้งชื่อ นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่มีใครทั้งนั้น รายงานระบุว่า รายชื่อโผครม.ชุดใหม่ 35 รายเสร็จสิ้นแล้วทุกตำแหน่ง และอยู่ระหว่างนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการครม.ดำเนินการตรวจสอบประวัติ โดยพล.อ.ประยุทธ์ พร้อมนำขึ้นทูลเกล้าฯครม.ใหม่ในสัปดาห์หน้าทันที หลังเสร็จสิ้นภารกิจ ไบค์ ฟอร์ มัม พร้อมกับโผทหารและตำรวจ

+++ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) นัดลงมติเวลา 10.00น.ว่าจะถอดถอนอดีตส.ส. 248 คน ที่แก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของสมาชิกวุฒิสภา( ส.ว.)โดยมิชอบหรือไม่ การลงมติวันนี้  ตามข้อบังคับการประชุมต้องใช้เสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 เสียงของจำนวนสมาชิก สนช.ทั้งหมด 220 คน หรือไม่น้อยกว่า 132 เสียง สำนวนคดีนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลอดีต ส.ส. 248 คน แล้วส่งมาให้ สนช.ดำเนินการถอดถอน จึงทำให้ สนช.ต้องดำเนินตามขั้นตอนให้จบ ไม่สามารถจำหน่ายคดีได้ตามที่อดีต ส.ส.เรียกร้อง

+++ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดวิสัยทัศน์ยุทธศาสตร์การปฏิรูปประเทศ สรุปผลงาน และส่งมอบวาระการปฏิรูป 37 ประเด็น และ 6 วาระพัฒนา ให้กับ นายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสปช. กล่าวว่า การปฏิรูปไม่ใช่แก้ปัญหาแล้วจบวันนี้ แต่เป็นการแก้ปัญหาที่ผ่านมาเพื่อไม่ให้สะสมไปถึงอนาคต

+++ส่วนคำถามเกี่ยวกับเรื่องประชามติ  สปช.จะนัดประชุมในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ เพื่อมีมติพิจารณาคำถามประชามติของ สปช.ให้เหลือเพียงคำถามเดียว ก่อนนำไปขอมติในวันลงมติร่างรัฐธรรมนูญ 7  ก.ย. ยืนยันว่าข้อเสนอของสมาชิก สปช.ให้เปิดประชุม สปช.หลังวันที่ 22 สิงหาคม เพื่อทำความเข้าใจร่างรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถทำได้ แต่ถ้าเป็นการปรึกษาหารือโดยไม่เปิดสภาก็ทำได้ แต่หากจะทำการเปิดสภาก็จะมีความเสี่ยงที่จะมีผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

+++คณะกรรมาธิการวิสามัญสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) พิจารณาประเด็นคำถามประชามติที่สมาชิกเสนอมาทั้งหมดในขณะนี้ 2 ญัตติ ประกอบด้วย ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการให้มีการปฏิรูปประเทศ 2 ปี ก่อนเลือกตั้ง และญัตติที่ 2 ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการมีกลไกป้องกันและขจัดความขัดแย้งที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงหลังการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยอย่างน้อยใน 4 ปีแรกหลังใช้รัฐธรรมนูญให้มีรัฐบาลปรองดองเพื่อการปฏิรูป