*ธนาคารกลางมาเลเซีย แถลงยังไม่ต้องมีมาตรการพิเศษ หลังเงินริงกิตร่วงลงต่อเนื่อง*

ความผันผวนของค่าเงินริงกิต นางเซตี อัคตาร์ อาซิส ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซีย กล่าวว่าเกิดจากปัจจัยภายนอกบวกกับปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดความไม่แน่นอน เงินริงกิตมาเลเซียดิ่งลงร้อยละ 20 นับตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว และร่วงลงต่ำกว่า 4 ริงกิตต่อดอลลาร์สหรัฐฯหลังจากจีนปรับลดค่าเงินหยวนต่อเนื่องสามวัน  ธนาคารกลางมาเลเซีย แถลงว่า ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการพิเศษ เช่น ผูกค่าเงินไว้กับสกุลอื่น หรือควบคุมเงินทุนเพื่อสกัดไม่ให้ค่าเงินริงกิตร่วงหนักไปมากกว่านี้ ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซีย แถลงว่า ระบบอัตราแลกเปลี่ยนที่ยืดหยุ่น และระบบการเงินที่มีความแข็งแกร่งถือว่าเพียงพอต่อการรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ โดยคาดว่าเศรษฐกิจมาเลเซียจะยังคงเติบโตอย่างมั่นคงต่อไประหว่างร้อยละ 4-6

เงินริงกิตทำสถิติอ่อนค่าที่สุดในรอบ 17 ปี ในสัปดาห์นี้ โดยปิดตลาดเมื่อวันพุธลดลงต่ำกว่า 4.0 ริงกิต ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2541 หลายฝ่ายวิเคราะห์สถานการณ์การอ่อนค่าของเงินริงกิต มีความเกี่ยวข้องกับกรณีอื้อฉาวของบริษัท วัน มาเลเซีย เดเวลอปเมนต์ เบอร์ฮัด ( วันเอ็มดีบี ) ซึ่งเป็นกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจและระบบสาธารณูปโภคของรัฐบาลมาเลเซีย ที่นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2552 ที่มีการโยกย้ายเงินเกือบ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ราว 24,500 ล้านบาท  ไปยังบัญชีเงินฝากส่วนตัวของนายนาจิบ ซึ่งผู้นำมาเลเซียยืนยันเป็น เงินบริจาค แต่ปฏิเสธที่จะเผยที่มาที่ไปของเงินอย่างชัดเจน ปัจจุบันมาเลเซียเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย และไทย

ธนาคารกลางมาเลเซีย แถลงเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศในไตรมาสที่สอง ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( จีดีพี ) ขยายตัวร้อยละ 4.9  ลดลงร้อยละ 6.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แม้ดีกว่าที่มีการประเมินก่อนหน้านี้ แต่ถือเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2556  เนื่องจากมูลค่าการค้าระหว่างประเทศที่ชะลอตัวเช่นกัน