*รอบวัน:จัดครม.ประยุทธ3/โยกย้ายทหาร/อ่านฎีกาชูวิทย์เสธ.หิมาลัยรื้อบาร์เบียร์สุขุมวิท*

*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.

+++วันนี้ ต้องติดตามประเด็นการโยกย้ายนายทหาร –ปรับคณะรัฐมนตรี และการเสนอแนวทางปฎิรูปแห่งชาติ ของสภาปฎิรูปแห่งชาติ หรือ สปช.  เริ่มที่ ปรับคณะรัฐมนตรี รายงานอ้างแหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ถึงความคืบหน้าการจัดครม.ประยุทธ์ 3 ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เป็นคนจัดทำโผปรับครม. ยกคณะ แต่  จะทำหน้าที่ดูโผหลังจากที่จัดทำเสร็จแล้วโดยในส่วน ครม.เศรษฐกิจ ได้ให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ และประธานที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจ คสช.เป็นผู้ทำรายชื่อเสนอต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหมก่อนส่งให้นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตัดสินใจในขั้นสุดท้าย ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขเดิมในการเข้าร่วมรัฐบาล ที่นายสมคิด มีข้อเสนอต้องจัดทำทีมเศรษฐกิจด้วยตนเอง เพราะไม่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้นโยบายของ ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจได้ รวมทั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ พล.อ.ประวิตร ได้เข้าหารือกับผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ที่แนะนำให้ปรับ ครม.ใหม่ทั้งหมดโดยเร็ว เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จากปัญหาเศรษฐกิจเพราะเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤติศรัทธาต่อรัฐบาล

++++ขณะนี้ นายสมคิด กำลังติดต่อบุคคลมาดำรงตำแหน่ง 8 กระทรวงด้านเศรษฐกิจ ที่ลงตัวไปแล้วในส่วนของกระทรวงการคลัง และกระทรวงเกษตรฯ ยังขาดกระทรวงพาณิชย์, คมนาคม, พลังงาน, อุตสาหกรรม, ท่องเที่ยว, ไอซีทีที่อยู่ระหว่างการทาบทามนักวิชาการและอดีตนักการเมืองในพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นที่ยอมรับในเวทีโลก เช่นนายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการใหญ่ องค์การการค้าโลก (WTO), อดีตเลขาธิการที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) และนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน เพื่อมาแก้ไขแรงกดดันจากสหรัฐและยุโรปพร้อมกับรับแรงสะเทือนกรณีรัฐบาลจีนลดค่าเงินหยวน ที่คาดว่าปลายปีนี้และปีหน้า ไทยจะเจอกับวิกฤติเศรษฐกิจหนักหน่วง สำหรับมาตรการอัดฉีดที่ นายสมคิด อาจนำมาใช้คือการประกันราคาสินค้าเกษตร ที่สามารถทำได้ตามกฎบัตรขององค์การการค้าโลกและไม่ใช่ประชานิยม คาดว่าจะมีการทูลเกล้าฯ ประมาณปลายเดือน ส.ค. ขณะที่โผโยกย้ายนายทหารผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีความลงตัวแล้ว เพื่อเตรียมรับมือกับปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศจากระบอบทักษิณ

+++ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม กล่าวถึง ความคืบหน้าการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี 2558 หลังจากนัดทุกเหล่าทัพส่งบัญชีรายชื่อภายในวันที่ 15 ส.ค. ว่า ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรายชื่อได้และไม่ทราบ ขณะนี้ รายชื่อจะส่งมาครบทุกเหล่าทัพแล้วหรือไม่ คาดว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะนำบัญชีรายชื่อปรับย้ายนายทหาร นำขึ้นทูลเกล้าฯ พร้อมกับรายชื่อการปรับ ครม. โดยเฉพาะตำแหน่ง  ผบ.ทบ.คนที่ 39 ที่ขณะนี้มีแคนดิเดตอยู่  2 คน คือ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช (ตท.14) ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา (ตท.15) ผู้ช่วยผบ.ทบ. รายงานข่าวอ้างแหล่งข่าวจากกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า  ตำแหน่ง ผบ.ทบ.คนที่ 39  มีความเป็นไปได้ ที่ พล.อ.อุดมเดชจะเสนอชื่อพล.อ.ปรีชา น้องชายของนายกรัฐมนตรีขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อจำเป็นต้องเลือกคนที่ไว้ใจมากที่สุดมาดูแลสถานการณ์  ขณะที่ พล.อ.ธีรชัย จะถูกโยกมาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อทำงานควบคู่กับพล.อ.ประวิตรในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ปรับโครงสร้างของกระทรวงกลาโหม 2558-2567

+++รายชื่อปรับย้ายนายทหารที่จะเข้ามาอยู่ในไลน์ 5 เสือ ทบ. นั้น คาดว่า พล.อ. อุดมเดช จะมีการขยับให้ พล.อ.วลิต โรจนภักดี (ตท.15)  รองเสนาธิการทหาร ขยับขึ้นมาเป็นรอง ผบ.ทบ.  ส่วน พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ (ตท.16) แม่ทัพภาคที่ 1 ขยับมาเป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ.คู่กับ พล.ท.ปราการ ชลยุทธ (ตท.15) แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ.  และพล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร (ตท.17) ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ เป็นเสนาธิการทหารบก  ส่วน พล.ท.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ (ตท.18) แม่ทัพน้อยที่ 1  ขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อทำหน้าที่ในการดูแลกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.)

+++ส่วนของกองบัญชาการกอง ทัพไทย พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ได้เสนอชื่อให้ พล.อ. สมหมาย เกาฏีระ  (ตท.15) เสนาธิการทหาร เป็น ผบ.สส.คนต่อไปส่วนกองทัพเรือ พล.ร.อ. ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้ส่งไม้ต่อให้ พล.ร.อ.ณรงค์พล ณ บางช้าง (ตท.14) ผู้ช่วย ผบ.ทร. ขึ้นมาเป็นผบ.ทร.คนใหม่ ขณะที่กองทัพอากาศ มีการขยับให้ พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ กฤษณคุปต์ (ตท.16) ผู้ช่วย ผบ.ทอ. ขึ้นมาเป็นรอง ผบ. ทอ. แทน พล.อ.อ.อานนท์ จารยะพันธุ์ ที่จะต้องเกษียณอายุราชการในปลายเดือน ก.ย.นี้

+++การแต่งตั้ง ผบ.ตร. ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ  (ก.ต.ช.) ในวันที่ 14 ส.ค. และมีกระแสข่าว  พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง จะได้ ขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนที่ 11 ส่วนคู่แคนดิเดต พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. ฝ่ายกฎหมาย จะได้ไปนั่งเก้าอี้ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และได้มีการขอต่อรองเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมแทน นั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า รู้สึกงง กับ กระแสข่าวดังกล่าว อยากให้รอดูวันที่ 14 ส.ค. เพราะการพิจารณาตำแหน่ง เป็นเรื่องของ ผู้บังคับบัญชา ยืนยันคำเดิมว่ามีสองมือสองเท้า ทำงานได้เหมือนกัน  เช่นเดียวกับ  พล.ต.อ.เอก  กล่าวว่า รู้สึกตกใจกับข่าวดังกล่าว ขอยืนยันว่าเป็นข่าวลือ ไม่มีการมาทาบทามอะไรทั้งสิ้น ส่วนกรณีที่มีรายชื่อแคนดิเดต ผบ.ตร.นั้น เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา

+++สำหรับในวันนี้ สภาปฎิรูปแห่งชาตินัด มอบพิมพ์เขียวปฎิรูปประเทศไทยให้รัฐบาล  นายกฯรับพิมพ์เขียวปฏิรูป นายอลงกรณ์ พลบุตร เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิปสปช.) เปิดเผยว่า ในช่วงเวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  จะร่วมงานรับมอบพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศไทย หลังส่งมอบพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศไทยแล้ว ภารกิจของสปช.จะเหลือ 2 ส่วน คือส่วนที่ 1 การตั้งประเด็นคำถามออกเสียงตามรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว และส่วนที่ 2 ให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ

+++ก่อนหน้านั้นใน เวลา 14.00 น. จะประชุมวิปสปช.โดยมีวาระพิจารณาญัตติของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ในนาม กลุ่ม 22 สมาชิกสปช. เสนอให้ที่ประชุมสปช.ตั้งคำถามปฏิรูปประเทศ 2 ปีก่อนเลือกตั้งประกอบออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ โดยวิปจะดูญัตติว่าถูกต้องตามข้อบังคับและรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าคำถามดังกล่าวถูกต้องจะบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมสปช.ในวันที่ 18 ส.ค. เพื่อให้ที่ประชุมมีมติว่าจะเห็นชอบให้ตั้งคำถามประเด็นดังกล่าวหรือไม่ในวันลงมติ ร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งในวันดังกล่าวอาจมีคำถามมากกว่า 1 คำถาม ส่วนประเด็นคำถามประชามติ ตั้งรัฐบาลปรองดองแห่งชาติของนายบวรศักดิ์นั้น นายอลงกรณ์กล่าวว่าขณะนี้สปช.ยังไม่ได้ รับร่างรัฐธรรมนูญ หรือข้อเสนอใดๆ จากประธานกมธ.ยกร่างฯ

+++รายงานข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. แจ้งถึงความคืบหน้า การไต่สวนนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีการร่ำรวยผิดปกติและบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า หลังจากที่ป.ป.ช.มีมติอายัดทรัพย์สินนายธาริตมูลค่า 40.9 ล้านบาท ปรากฏว่า นายธาริตได้ยื่นเรื่องต่อศาลแพ่งฟ้องกรรมการ ป.ป.ช. และเลขาธิการ ป.ป.ช.รวม 10 คน เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาทฐานออกคำสั่งอายัดทรัพย์โดยมิชอบ ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกฟ้องไปแล้วแต่นายธาริต ยื่นอุทธรณ์สู้คดีต่อซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มอบหมายให้ นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช.และฝ่ายสำนักคดีของ ป.ป.ช. ดำเนินการส่งหนังสือไปยังศาลแพ่งเมื่อวันที่ 7 ส.ค.เพื่อแก้อุทธรณ์คดีดังกล่าวแล้ว

+++วันนี้ ศาลนัดอ่านฎีกา คดีที่อัยการยื่นฟ้อง จ.ส.อ.อภิชาติ ริมมะสาร-ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ,พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ อดีตนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการทหารสูงสุด ,พ.ต.ธัญเทพ ธรรมธร กับพวกรวม 131 คน คดีรื้อบาร์เบียร์สุขุมวิท10 เมื่อปี2546 ที่ ห้อง404 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ซ.เจริญกรุง63 ถ.เจริญกรุง  คดีนี้ ศาลชั้นต้น สั่งจำคุกนายชาญเวทย์ มาลัยบูชา จำเลยที่49 ส่วนจำเลยอื่นยกฟ้อง-แต่ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้จำคุกนายชูวิทย์ ,พ.ท.หิมาลัย และพ.ต.ธัญเทพ  คนละ 5 ปี ไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 64 คน ให้ยกฟ้อง มีจำเลยเสียชีวิตคนหนึ่ง

++++09.30 น. ศาลนัดอ่านฎีกา คดีที่อัยการฟ้อง นายสุรศักดิ์ หรือ สุรภักดิ์ ภูไชยแสง โปรแกรมเมอร์อิสระ หมิ่นเบื้องสูง มาตรา112 กรณี 4-16 พ.ค.54 มีการโพสต์ข้อความหมิ่น บนเฟสบุ๊ก ที่ ห้อง805 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก สำหรับคดีนี้  ศาลชั้นต้น-ศาลอุทธรณ์ ยืนยกฟ้อง ตัวจำเลยได้ปล่อยตัว