*จีน ลดค่าเงินหยวนลงอีก1.6% ในวันนี้ หวังกระตุ้นส่งออกร่วงกว่า8% เมื่อเดือนก.ค.*

บีบีซี รายงานว่า ธนาคารกลางแห่งประเทศจีนได้ปรับลดค่าเงินหยวนลงอีกร้อยละ 1.6 ลงมาที่ 6.3306 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ 1 วันหลังการลดค่าเงินหยวนครั้งเดียวร้อยละ 1.9 เมื่อวานนี้ ส่งผลให้เงินหยวนอ่อนค่าหนักสุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในรอบกว่า 20 ปี สร้างความหวั่นวิตกว่า ประเทศอื่นๆอาจจะลดค่าเงินเพื่อเพิ่มความสามารถการแข่งขันให้กับภาคส่งออก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสงครามค่าเงินทั่วโลก แต่ธนาคารกลางของจีนลดความหวั่นวิตกของนักลงทุน ระบุว่าเมื่อพิจารณาสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจทั้งในประเทศและในระดับนานาชาติในขณะนี้ ธนาคารกลางของจีนเห็นว่าไม่มีเหตุผลที่จะปรับลดเงินหยวนให้อ่อนค่าลงมากกว่าอีก

ด้านกระทรวงพาณิชย์ของจีน กล่าวว่าการปรับลดค่าเงินหยวนจะช่วยเพิ่มความสามารถการแข่งขันด้านการส่งออกของจีน ก่อนหน้านี้ การส่งออกของจีนร่วงกว่าร้อยละ 8 ในเดือนกรกฎาคม สร้างความหวั่นวิตกว่าเศรษฐกิจของจีน ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลกจะชะลอตัวในปีนี้ นอกจากนี้ ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนกรกฏาคมเพิ่มในอัตราที่ต่ำเกินคาดคือ เพียงร้อยละ 6 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และต่ำกว่าร้อยละ 6.8 ในเดือนมิถุนายน

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่าการที่รัฐบาลจีนปรับลดค่าเงินหยวนให้สอดคล้องกับทิศทางของตลาดโลกมากขึ้นถือว่าเป็นการดำเนินการที่ถูกต้อง เพิ่มเติมว่าการปรับอัตราแลกเปลี่ยนให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเป็นเรื่องสำคัญสำหรับจีน เนื่องจากจีนต้องการจะให้กลไกตลาดมีบทบาทมากขึ้นในการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งในปัจจุบัน จีนได้ผนวกตัวเองเข้ากับระบบตลาดการเงินโลกอย่างรวดเร็ว

ไอเอ็มเอฟ แสดงความเชื่อมั่นว่าจีนจะบรรลุเป้าหมายคือ การปล่อยให้ค่าเงินหยวนขึ้น-ลงไปตามระบบอัตราแลกเปลี่ยนได้ภายใน 2-3 ปีนี้ ระบุว่าการปรับลดค่าเงินหยวนของจีนครั้งนี้ไม่กระทบการพิจารณาข้อเสนอของจีนที่ขอให้รวมเงินหยวนอยู่ในสกุลเงินกลางของไอเอ็มเอฟ เช่นเดียวกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยูโร เยนและปอนด์ ที่สมาชิกสามารถใช้ชำระราคาซื้อขายสินค้าระหว่างกันหรือการชำระหนี้ให้กับไอเอ็มเอฟ

ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นฮั่งเส่ง ฮ่องกง ร่วงลง582.19 จุด ปิดที่ 23,916.02 จุด ส่วนนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียวของญี่ปุ่น ปิดที่ 20,392.77 จุด ลดลง 327.98 จุด

ทีมข่าวต่างประเทศ

CR:AFP,Bloomberg Business