*รอบวัน:รับมือจีนลดค่าเงินหยวน/เพิ่มคำถามรัฐบาลปรองดองแห่งชาติทำประชามติรธน./แก้หนี้ตร.

*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30น.

++++ผลกระทบหลัง ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดค่าเงินหยวนลงเกือบ 2% โดยประกาศอัตรากลางของค่าเงินหยวนประจำวันที่ระดับ 6.2298 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2012 โดยนักยุทธศาสตร์การลงทุนมองว่า การปรับลดค่าเงินหยวนครั้งนี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามการปรับลดค่าเงิน ขณะที่สกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ในเอเชียส่วนใหญ่ก็ร่วงลงเช่นกัน   นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การประกาศอัตรากลางค่าเงินหยวนที่อ่อนลงน่าจะเป็นผลดีต่อการค้าภายในภูมิภาคด้วย

+++นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวว่าผลจากการที่จีนลดค่าเงินหยวนมองในแง่ดี อาจส่งผลดีต่อการส่งออกของไทยหากค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอ่อนไปในทิศทางเดียวกัน เพราะจะช่วยให้ผู้ประกอบการส่งออกสินค้าได้ในมูลค่าที่สูงขึ้น แต่ในแง่ลบอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าของไทยไปจีนโดยตรง เพราะจีนต้องนำเข้าสินค้าในมูลค่าที่แพงขึ้น ทำให้จีนอาจชะลอการนำเข้าหรือหาแหล่งนำเข้าสินค้าต้นทุนถูกกว่าไทยได้ การส่งออกสินค้าไทยอาจได้รับผลกระทบหากไม่สามารถปรับตัวเรื่องรักษาสัดส่วนตลาดการส่งออกไว้ได้ และอาจจะเกิดปัญหาสินค้าจีนทุ่มตลาด

+++ส่วนราคาทองคำในประเทศเมื่อวานนี้ ระหว่างวันผันผวนปรับขึ้นและลงรวม 9 ครั้ง เป็นการปรับขึ้น 6 ครั้ง โดยล่าสุดเมื่อเวลา 17.22 น. ราคาทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาทละ 18,500.00 ขายออกบาทละ 18,600.00 ขณะที่ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาทละ 18,237.48 ขายออกบาทละ 19,000 ขณะที่บาทต่อดอลลาร์ระหว่างวันอ่อนค่าสุดที่ 35.38 ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าสุดครั้งใหม่ในรอบกว่า 6 ปี ตามการอ่อนค่าของสกุลเงินภูมิภาคโดยได้รับแรงกดดันจากการลดค่าเงินหยวนของจีน ซึ่งส่งผลบวกต่อราคาทองคำภายในประเทศ

+++การทำประชามติ หากร่างรัฐธรรมนูญผ่านความเห็นชอบ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ แถลงผลการพิจารณาของ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ต่อประเด็นคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ ว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ นั้น จะมีจำนวนไม่เกิน 23 คน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งจากบุคคลดังต่อไปนี้ กรรมการโดยตำแหน่ง  เช่น  ประธานรัฐสภา ประธานวุฒิสภา นายกรัฐมนตรีผู้บัญชาการกองทัพไทย ผู้บัญชาการกองทัพบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งแต่งตั้งจากผู้เคยดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภา นายกรัฐมนตรี ประธานศาลฎีกา ซึ่งเลือกกันเองแต่ละประเภท ประเภทละ 1 คน และ 3.กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนไม่เกิน 11 คน ซึ่งแต่งตั้งตามมติรัฐสภา

++++ขณะที่อำนาจของกรรมการดังกล่าวเป็นไปตามร่างรัฐธรรมนูญที่ได้บัญญัติไว้ โดยจะเน้นในเรื่องของการปฏิรูปและการสร้างความปรองดองเป็นหลักกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญได้เขียนในบทเฉพาะกาล ให้อำนาจของกรรมการยุทธศาสตร์ฯ ในการรักษาความเป็นเอกราชของชาติ บูรณภาพแห่งดินแดน หรือเพื่อป้องกัน ระงับ หรือปราบปรามการกระทำอันเป็นการบ่อนทำลายความสงบ หรือเรียบร้อยหรือความมั่นคงของชาติ ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือมีกรณีที่เกิดความขัดแย้งอันนำไปสู่ความรุนแรงขึ้นในประเทศ โดยมีเงื่อนไขคือ ความขัดแย้งดังกล่าวนั้น ไม่สามารถใช้กฎหมายมั่นคงระงับหรือยับยั้งได้ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ใดๆ ได้ เช่น เกิดการจลาจล

++++ขณะนี้ได้เสนอในความเห็นส่วนตัวที่ยังไม่ได้เป็นมติของ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ คือ จะมีการเสนอให้ทำประชามติถามประชาชนว่า เห็นควรให้มี "รัฐบาลปรองดองแห่งชาติ" ที่มีจำนวน ส.ส.ไม่น้อยกว่า 4 ใน 5 ของจำนวน ส.ส.ทั้งหมด หรือประมาณ 360 คน จากทั้งสิ้น 450 คนหรือไม่ เพื่อให้รัฐบาลร่วมกันบริหารและแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองด้วยความปรองดอง อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ หากที่ประชุม กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญเห็นชอบด้วย ก็จะทำหนังสือไปยังประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้พิจารณาตั้งเป็นคำถามประกอบการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

+++ส่วนผลการพิจารณาทบทวนบทบัญญัติร่างรัฐธรรมนูญในส่วนของที่มาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ว่า ในส่วนของที่มาของส.ว. ในมาตรา 118 นั้น ได้คงไว้ตามบทบัญญัติเดิม คือ ให้มี ส.ว.จำนวน 200 คน โดยมาจากการเลือกตั้งจากจังหวัดจังหวัดละ 1 คน รวมเป็น 77 คน และมาจากการสรรหาจำนวน 123 คน ขณะที่มาตรา 119 บทเฉพาะกาลในส่วนที่เกี่ยวกับประเด็นของ ส.ว.นั้น กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญได้ปรับแก้ไข โดยกำหนดให้มีการดำเนินการให้ได้มาซึ่ง ส.ว.ให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน นับแต่วันที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีผลบังคับใช้

+++ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)กล่าว ว่า ขณะนี้กำลังเดินหน้าอยู่ และได้ปรับเสร็จนานแล้ว แต่จะทำเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เป็นเรื่องที่จะตัดสินใจเอง ซึ่งสามารถปรับได้ทั้งหมด 35 ตำแหน่ง หรืออาจจะทั้ง 36 ตำแหน่ง โดยปรับตัวเองออกด้วย หากถึงเวลาปรับก็จะปรับเมื่อถึงเวลาเหมาะสม

+++ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ที่พล.อ.ประยุทธ์นัดประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. วันที่ 14 สิงหาคม  ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี 2558 ว่า ได้นัดทุกเหล่าทัพให้ส่งบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารภายในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ เรื่องนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก โดยนายกรัฐมนตรีบอกว่าจะไม่เข้ามายุ่ง ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนที่จะพิจารณากันในคณะกรรมการ ส่วนตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่คิดว่าไม่มีปัญหาอะไรต้องหนักใจจนถึงขั้นต้องโหวต

+++ปัญหาหนี้สิน ตำรวจ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า  ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จะหารือร่วมกับธนาคารหรือสถาบันการเงิน เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ให้กับตำรวจที่มีปัญหาหนี้สิน ข้าราชการตำรวจทุกนายต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ใช้จ่ายเกินตัว  ปัญหาหนี้สินตำรวจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการฆ่าตัวตาย ผู้บริหารธนาคารออมสินได้มีการประชุมหารือเพื่อหาทางช่วยเหลือกลุ่มข้าราชการตำรวจที่มีปัญหาหนี้สินกับธนาคาร เบื้องต้นจะชะลอการฟ้องร้องล้มละลายกับตำรวจที่มีปัญหาหนี้เสีย และจะเชิญมาหารือเพื่อปรับโครงสร้างหนี้

++++ด้านด.ต. ธณกฤต ภักดีผล อดีตผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี 1 ใน 5 ตำรวจอุดรธานีที่ถูกให้ออกจากราชการเนื่องจากเป็นบุคคลล้มละลาย ได้เดินทางมาที่กลุ่มงานสอบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานี เพื่อยื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งปลดออกจากราชการ พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) อุดรธานี กล่าวว่า หากตำรวจทั้ง 5 นายเห็นว่าคำสั่งไม่ถูกต้องหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถไปยื่นอุทธรณ์ต่อผู้บังคับบัญชาในระดับชั้นที่สูงกว่านี้ และหากถึงที่สุดแล้วยังไม่เป็นตามต้องการ สามารถยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองได้ ส่วนการเพิกถอนยกเลิกคำสั่งปลดออกจากราชการคงทำไม่ได้ เนื่องจากเป็นบุคคลล้มละลาย ตามระเบียบข้อบังคับ ขาดคุณสมบัติการรับราชการตำรวจ จึงต้องสั่งให้ปลดออกราชการ สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธร จ.อุดรธานี มีสมาชิกถึง 2,305 คน มีปัญหากู้เงินออมสิน 300 คน แก้ปัญหาได้แล้ว 180 คน เหลือราว 120 คน จ่อที่จะถูกฟ้องล้มละลาย แต่ดำเนินการแก้ไขไปแล้ว 40 คน และที่หนักสุดคือ 5 คน แก้ไขไม่ได้ จึงมีคำสั่งให้ออกราชการ

+++ศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุก นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ  2 ปีโดยไม่รอลงอาญา หลังถูกพ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกต  อดีต ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญาฯ ยื่นฟ้องเหตุออกคำสั่งย้ายไม่เป็นธรรม โดยอดีตอธิบดี "ดีเอสไอ" วางเงินสด 2 แสนยื่นขอประกันตัวออกไปสู้คดี

+++ส่วนคดี ของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊งนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ  รวมถึงการโอนหุ้นที่มีความผิดปกติด้วย         พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวว่า มีความเป็นห่วงว่าผู้ที่อยู่ในเครือข่ายการโอนหุ้นดังกล่าวอาจไม่ปลอดภัย และควรรีบเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็ว "ผมฝันไม่ดี และเรื่องนี้อาจมีการทำลายหลักฐาน หรือทำลายพยาน จากคนที่มีศักยภาพที่จะทำเช่นนั้น และกลัวว่าความผิดจะมาถึงตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่เป็นห่วงอยู่ในตอนนี้ ส่วนการออกหมายจับนั้นก็ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐานให้หนาแน่นมากกว่านี้ก่อน จึงจะขออนุญาตออกหมายจับจากศาลได้ ซึ่งก็ไม่ได้เร่งรัดเจ้าหน้าที่ แต่อยากให้ทำอย่างรอบคอบที่สุด