*การท่าเรือฯเตรียมแผนรับมือศก.ชะลอตัว/ปล่อยเรือวางทุ่นลำใหม่

ภาวการณ์ส่งออกไทย  เรือตรี ทรงธรรม จันทประสิทธิ์ ผู้อำนวยการท่าเรือกรุงเทพ ในฐานะรักษาการ ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กทพ. เปิดเผยว่า ภาพรวมการนำเข้าและส่งออกของการท่าเรือปีนี้คาดว่า จะมีการนำเข้าร้อยละ 60 และส่งออกร้อยละ40  นับว่า การส่งออกชะลอตัวลง เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่ยอดนำเข้าก็จะสูงกว่าอยู่ที่ร้อยละ55 ส่วนยอดการส่งออกอยู่ที่ร้อยละ 45 ปัจจัยส่วนหนึ่งมาจาก เศรษฐกิจของประเทศอาจจะมีปัญหา เนื่องจากโรงงานอุตสาหกรรมที่เคยตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย ย้ายไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่การดำเนินงานของการท่าเรือฯได้รับผลกระทบไม่มากเท่าไหร่ โดยมีการวางแผนในอนาคตไว้ คือไม่มุ่งเน้นการส่งออกทางท่าเรือเพียงอย่างเดียว แต่อาจปรับโครงการทำศูนย์กระจายสินค้าทางบกเข้ามาด้วย ซึ่งขณะนี้ทางการท่าเรือฯพร้อมที่จะดำเนินโครงการนี้แล้ว แต่ต้องรอการอนุมัติจากฝ่ายบริหารที่เกี่ยวข้องก่อน

สำหรับ วันนี้การท่าเรือแห่งประเทศไทย หรือ กทท.มีพิธีปล่อยเรือวางทุ่น หรือ "เรือท่าเรือ 123" พร้อมเครนที่สามารถยกน้ำหนักได้ไม่น้อยกว่า 12เมตริกตัน 1 ลำลงน้ำ ทดแทนเรือวางทุ่นเดิม คือ "เรือท่าเรือ 103" ที่หมดอายุการใช้งาน โดยมีพลเรือเอก อภิวัฒน์ และนางธนวรรณ ศรีวรรธนะ ภริยาเป็นประธานใน  หลังเรือวางทุ่นเดิม ใช้งานมานานแล้วกว่า 40ปี และเพื่อให้เรือวางทุ่น มีประจำการครบตามจำนวน ที่ท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือแหลมฉบับ แห่งละ1ลำ โดยภาระกิจของเรือวางทุ่นนี้ จะใช้เพื่อดูแลรักษา และอำนวยความสะดวกในการวางทุ่น เพื่อนำร่องให้เรือขนส่งสินค้าเข้ามาภายในท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อสนับสนุนการส่งออกนำเข้าทางน้ำของประเทศให้เชื่อมโยงเศรษฐกิจของอาเซียน