*รอบวัน(1):เตรียมพร้อมกิจกรรมปั่นเพื่อแม่/สนช.หารือขั้นตอนลงมติถอดถอนอดีต248 ส.ส.*

+++การเตรียมจัดกิจกรรม Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้เตรียมแผนดูแลความปลอดภัยแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ อำนวยการจราจรแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนในเส้นทางที่มีการจัดกิจกรรมฯพร้อมจัดทำแผนเผชิญเหตุ และแผนรองรับเหตุฉุกเฉิน กรณีสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย รวมถึงจัดบริการทางการแพทย์เตรียมพร้อมปฐมพยาบาลแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม 

+++สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เผยแพร่ข้อมูลสำหรับประชาชนที่ไม่ได้ลงทะเบียน สามารถมาร่วมงานได้ มาให้กำลังใจผู้ปั่นจักรยาน หรือร่วมรับชมคอนเสิร์ตเนื่องจากมีการพระราชทานเลี้ยงที่ลานพระราชวังดุสิต ผู้ที่ไม่ได้ลงทะเบียนแต่อยากร่วมปั่นจักรยานแนะนำให้ลงทะเบียนในจังหวัดใกล้เคียง และขอความกรุณาอย่านำรถจักรยานที่ไม่ได้ลงทะเบียนเข้ามามาร่วมในระหว่างทาง ซึ่งอาจถูกเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปในขบวนได้เนื่องจากมีการจัดรูปขบวนไว้หมดแล้ว ความยาวพอสมควรคือประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร การซ้อมครั้งที่แล้วได้มีการนำโดรนออกมาบิน ซึ่งโดรนที่ได้รับอนุญาตขณะนี้มีทั้งหมด17ลำ และมีการจัดตำแหน่งไว้ชัดเจนแล้วว่าอนุญาตให้บินได้ตำแหน่งใดบ้าง ทั้งนี้ได้มีมาตรการควบคุมดูแลความปลอดภัยไว้หมดแล้ว และขอเตือนผู้ที่จะนำโดรนส่วนตัวออกมาบินในวันดังกล่าวว่าไม่สามารถทำได้เพราะอาจถูกดำเนินคดีจากเจ้าหน้าที่ และเส้นทางจักรยานจะมีเส้นทางขึ้นเนินสะพานบริเวณสะพานสุทธิสาร สะพานข้ามแยกลาดพร้าว และสะพานไปราบ 11 แถวพหลโยธิน ซึ่งผู้ขี่จะต้องมีความชำนาญพอสมควรจึงจะปั่นข้ามไปได้ กรณีที่ไม่ได้เป็นรถฟิกเกียร์ควรซ้อมขี่ขึ้นสะพานมาก่อน และควรใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก สำหรับผู้ที่ปั่นข้ามสะพานไม่ไหว มีเส้นทางเบี่ยงให้ใช้ทางราบช่วงบริเวณสะพานสุทธิสาร

+++ด้านการจราจร จะไม่มีการปิดบริเวณใด ส่วนเวลาเปิดจะเปิดได้เร็วหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับขบวนจักรยานว่าสิ้นสุดเมื่อไร สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ถนนวิภาวดีสามารถใช้โทลเวย์แทนได้โดยในวันจัดกิจกรรม 16 ส.ค.โทลเวย์จะไม่เก็บค่าบริการตั้งแต่เวลา 12:00 น. ถึง 23:00 น. รวมทั้งขาเข้าในทางด่วนดินแดง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ใช้เส้นทางทางทิศเหนือเข้ามาทางถนนวิภาวดี ซึ่งจะปิดช่วงก่อนเข้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ถึงดินแดงเท่านั้น สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามเส้นทางเพิ่มเติมสามารถโทรได้ที่เบอร์ 1197 โดยจะมีการจัดเจ้าหน้าที่เป็นพิเศษจำนวน 15 คู่สายในการให้คำแนะนำเส้นทางต่างๆแต่ถ้า 1197 หากสายไม่ว่างสามารถโทร 191 ได้

+++สถานการณ์น้ำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำในเขื่อนขุนด่านปราการชล และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ว่า พื้นที่ต้นทาง คือภาคเหนือ มีปัญหาตัดไม้ทำลายป่า พื้นที่ป่าหายไป 8.6 ล้านไร่ พื้นที่บุกรุกที่รัฐบาลยึดคืนมาได้ ก็เป็นเพียงที่ดินและป่าทรุดโทรม ทำให้ไม่มีแหล่งซึมซับน้ำ จะต้องแก้ไขด้วยการทำแก้มลิง หาแหล่งน้ำเพื่อรับน้ำฝน เพราะขณะนี้เกิดปัญหาการจัดสรรน้ำไม่เพียงพอต่อการใช้ ทั้งอุปโภคบริโภค ภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และการผลักดันน้ำเค็ม จึงได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปหาแนวทางพัฒนาภูเขาหัวโล้น หาแหล่งซึมซับน้ำได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ เขื่อนขุนด่านปราการชลมีน้ำไหลเข้ามาเพิ่มขึ้น สภาพน้ำในเขื่อนมีความสมบูรณ์ เพราะมีแหล่งน้ำธรรมชาติ ขณะที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีน้ำไหลเข้ามาในเขื่อน วันละ 2 ล้าน ลบ.ม. และได้ระบายน้ำออกจากเขื่อนวันละ 1 ล้าน ลบ.ม. หากทำแก้มลิงในบริเวณนี้ จะทำให้มีพื้นที่รับน้ำเพิ่มขึ้น 46 ล้าน ลบ.ม. จะช่วยพื้นที่การเกษตรได้ 100,000 ไร่ สั่งการให้ขยายพื้นที่รับน้ำ ทำแก้มลิงในทุกพื้นที่เขื่อน เพราะคงสร้างเขื่อนเพิ่มไม่ได้ ติดปัญหา EIA และ EHIA  จึงต้องใช้วิธีที่ไม่มีปัญหา รัฐบาลพยายามใช้กฎหมายทุกฉบับมาดูว่า การแก้ไขปัญหามีวิธีใดบ้าง ที่จะทำให้การทำงานไม่ติดขัด มีความเป็นห่วงปัญหาน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่ยังไม่มีน้ำ 

+++เรื่องร่างรัฐธรรมนูญ นายอลงกรณ์ พลบุตร เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) กล่าวว่า วันที่ 7 กันยายนนี้ เป็นวันลงมติร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมกับกำหนดประเด็นคำถามเพิ่มเติมที่ใช้สำหรับการทำประชามติ ยังไม่ถือว่าเป็นทางการ เนื่องจากต้องรอให้นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. ออกจากโรงพยาบาล ก่อนและจะเสนอผลการประชุมวิป สปช.ให้นายเทียนฉาย พิจารณาอีกครั้ง แต่คาดว่าการกำหนดวันลงมติรัฐธรรมนูญจะอยู่ระหว่างวันที่ 5-7 กันยายนนี้ อย่างแน่นอน ส่วนเสียงที่จะใช้ในการโหวตเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญจะต้องมีเสียงสมาชิก สปช. 125 คนขึ้นไป จากจำนวนสมาชิกทั้งหมด 249 คน ส่วนสมาชิก สปช.ที่เป็นกรรมาธิการยกร่างฯ จำนวน 21 คน สามารถลงมติได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญไม่ได้มีข้อห้ามเอาไว้ และที่สำคัญการลงมติร่างรัฐธรรมนูญจะดำเนินการโดยเปิดเผย ด้วยการใช้วิธีขานชื่อเป็นรายบุคคล ซึ่งตรงนี้เป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยในวันลงมติจะไม่มีการเปิดโอกาสให้สมาชิก สปช.ได้อภิปรายเกี่ยวกับเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญอีก

+++ส่วนการกำหนดประเด็นคำถามการทำประชามติ นายอลงกรณ์ กล่าวว่า สปช.จะนัดประชุมในวันใดวันหนึ่ง ระหว่างวันที่ 17-21 สิงหาคมนี้ โดยขั้นตอนจะเริ่มจากการถามที่ประชุมว่า สปช.ควรจะกำหนดคำถามเพิ่มเติมในการทำประชามติหรือไม่ ถ้าเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยก็จะดำเนินการเปิดโอกาสให้สมาชิก สปช.ได้เสนอคำถามอย่างเป็นอิสระ ก่อนจะนำคำถามทั้งหมดมาชี้ขาดในวันลงมติร่างรัฐธรรมนูญ จากนั้นจะส่งคำถามที่ สปช.เห็นชอบแล้วให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้พิจารณาต่อไป

+++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์หน้าจะมีการนัดหารือกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นครั้งที่ 2 เกี่ยวกับการจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยเป็นการติดตามความพร้อม ทั้งการจัดเตรียมกระดาษ จำนวนงบประมาณ และความพร้อมของเจ้าหน้าที่ เพราะทราบว่าขณะนี้มี กกต.จังหวัดหลายจังหวัดกำลังจะหมดวาระ ซึ่งเวลาทำประชามติ กกต.จังหวัดทั้งประเทศต้องเข้าไปดูแลตรงนี้ จะเตรียมพร้อมอย่างไร อยากจะเสนอให้ กกต.จังหวัดที่หมดวาระไปแล้วรักษาการต่อไป แต่ไม่รู้ว่า กกต.จะเห็นอย่างไร

+++ส่วนกระแสข่าวการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ นายสิระ เจนจาคะ สมาชิก สปช.ด้านสังคม ยืนยันว่ามีกระบวนการรวบรวมรายชื่อเพื่อให้สมาชิก สปช.ลงมติคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อแลกกับการเข้าดำรงตำแหน่งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเป็นเรื่องจริง ซึ่งตอนนี้มีสมาชิก สปช.ลงชื่อแล้วจำนวน 100 คน

+++การเตรียมลงมติ 248 อดีต ส.ส. จะถูกถอดถอนหรือไม่ในประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาส.ว. โดยมิชอบ วันนี้ ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ประชุมด่วนเพื่อพิจารณาขั้นตอนถอดถอน หลังจากนั้น วันที่ 13 ส.ค. นัดแถลงปิดสำนวนคดี และ 14 ส.ค. จะลงมติถอดถอน เบื้องต้นการลงคะแนนกำหนดไว้เป็นการลงคะแนนโดยเปิดเผย มีการเรียกชื่อสมาชิกเรียงตามลำดับตัวอักษรมาลงคะแนนในคูหาที่จัดไว้ให้

+++เวลา 09.00 น. นายวิษณุ เปิดงาน วันคุณธรรม จริยธรรม และความโปร่งใสในภาครัฐ ประจำปี พ.ศ. 2558 พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “จำขึ้นใจ : ข้าราชการรากฐานของแผ่นดิน

+++ความคืบหน้าการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีถอดถอนนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กรณีสั่งการสลายการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า กรณีดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนกระบวนการไต่สวน ซึ่งได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาพอสมควร และตามที่ นพ.เหวง โตจิราการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มีการอ้างพยานเพิ่มเติมคือ นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ประธานคณะกรรมการเพื่อติดตามสถานการณ์บ้านเมือง ที่ตั้งโดยวุฒิสภา มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ ในช่วงกลางเดือนนี้  อนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงจะเรียกนายจิตติพจน์ มาให้ถ้อยคำเพิ่มเติม และในวันนี้  ศาลอาญา รัชดา นัดสืบพยานโจทก์ 24 แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ( นปช.) ในคดีก่อการร้าย

+++การกลับไปดำรงตำแหน่ง ที่กระทรวงสาธารณสุข ของนพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.ประยุทธ์  กล่าวถึงการลงนามในคำสั่งว่า การย้าย นพ.ณรงค์ มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อสอบตามที่มีข้อกล่าวหา ซึ่งผลสอบออกมาไม่ชัดเจนว่ามีความผิด จึงให้กลับไปทำงานในตำแหน่งเดิม การทำแบบนี้ ถือเป็นการให้เกียรติ นพ.ณรงค์ ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ และได้พูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ก็มีความเข้าใจ ส่วนการสอบเรื่องร้องเรียนทุจริต มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ป.ป.ช. และ สตง.ตรวจสอบอยู่ หากพบว่ามีความผิดจริง ก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งปลัดกระทรวงหรือไม่ก็ตาม 

+++พันตำรวจเอก สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) กล่าวถึง กรณีการยึดรถยนต์ LAMBORGHINI นายปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ หรือ บอย ปกรณ์  นักแสดงชื่อดังที่ซื้อต่อจากนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดยที่ประชุมเห็นว่า รถแลมโบกินีที่นายปกรณ์ซื้อต่อจากนายกิตติศักดิ์ มีการจ่ายเงินซื้อขายปกติ แม้จะมีข้อสงสัยเรื่องราคาแต่เพราะเป็นการซื้อของต่อมาอีกทอด คล้ายการซื้อขายรถในตลาดเกรย์มาร์เก็ต ทำให้ราคาอาจถูกกว่าปกติ  ด้านบอย ปกรณ์ กล่าวภายหลังทราบข่าวดีว่า รู้สึกโล่งใจและสบายใจขึ้น แต่ต้องรอให้ ปปง.ติดต่อมาอีกทีหนึ่ง