*รถแท็กซี่เพื่อผู้พิการของกทม.เป็นสื่อกลางให้ผู้ร่วมโครงการ1วัน1ปรารถนา นำกำลังใจส่งถึงเพื่อนที่ใช้รถวีลแชร์*

หลังจากที่กิจกรรม "Make a wish 1วัน 1ปรารถนา" โครงการภายใต้การบริหารจัดการทดลองเดินรถแท็กซี่สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น ของกรุงเทพมหานคร( กทม )ได้พาคุณจิรากัญ มากบุญธรรม หรือคุณทราย  ผู้พิการที่ใช้รถเข็น หรือรถวีลแชร์  ซึ่งเป็นผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมทำกิจกรรมและเพื่อนๆ ผู้ที่ใช้รถวีลแชร์ เนื่องจากประสบอุบัติเหตุจากผู้ที่เมาแล้วขับ มาทำกิจกรรมในโครงการฯ ซึ่งจะพาไปสถานที่ที่ต้องการในพื้นที่ของกทม. ภายใน 1วัน. วันนี้คุณทราย ต้องการมาเยี่ยมและให้กำลังใจ คุณสัญญา สุขสมจิต ผู้ที่ใช้วีลแชร์ เนื่องจากประสบอุบัติเหตุจากการนั่งซ้อนรถจักรยานยนต์เหมือนกัน โดยมาที่บ้านพักของคุณสัญญา ย่านถนนนิมิตรใหม่ เขตคลองสามวา กทม.

คุณทราย เดินทางมาพร้อมเพื่อนสองคน ที่เป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอล คือคุณธนาชัย แก้วกาหลง  และนักกีฬาฟันดาบ คือคุณวรพล กุลพิศาล ที่เป็นผู้พิการและใช้รถวีลแชร์ คุณทราย เล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่ตัวเองเลือกมาเยี่ยมคุณสัญญา เนื่องจากตัวเอง และเพื่อนๆต้องการมาให้กำลังใจ คุณสัญญาเพื่อให้มีกำลังใจที่จะเป็นแรงผลักดัน รวมถึงเปลี่ยนความคิดที่จะให้ออกไปใช้ชีวิตในสังคมอย่างปกติ เพราะตัวเองเคยผ่านช่วงเวลานั้นมา จากผู้ที่เคยใช้ชีวิตปกติ เมื่อต้องมาใช้รถวีลแชร์ก็จะรู้สึกท้อแท้กับชีวิต  แต่จากการที่ได้พูดคุยกับคุณสัญญาในวันนี้ ก็เห็นว่าคุณสัญญาก็มีกำลังใจที่ดี แต่บางที่อาจจะไม่มีโอกาสเรื่องงาน ก็ได้ให้คำแนะนำเรื่องงาน รวมถึงวันนี้ที่ตัวเองและเพื่อนมา ก็อยากจะให้คุณสัญญารู้สึกว่าในสังคมผู้ใช้รถวีลแชร์ถ้าเราออกไปเจอเพื่อนๆก็ยังมีคนในสังคมเดียวกันคอยให้กำลังใจกันอยู่  

ภายหลังการใช้บริการรถแท็กซี่ในโครงการบริหารจัดการทดลองเดินรถแท็กซี่สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น ของกทม. คุณทราย เล่าความรู้สึกว่า การให้บริการรถแท็กซี่สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ ของ กทม. ทางเจ้าหน้าที่จิตอาสาประจำรถให้บริการดีมาก ส่วนความปลอดภัยในการให้บริการของรถ ก็มีระบบลิฟท์ที่ยกรถวีลแชร์ซึ่งมีความแข็งแรงปลอดภัย รวมถึงเมื่อเข้าไปในตัวรถก็มีระบบล็อกรถวีลแชร์อย่างแน่นหนา ซึ่งภาพรวมการบริการนี้ดีมาก

ด้านคุณสัญญา เปิดเผยความรู้สึกให้ฟังว่า จากที่วันนี้คุณทราย และเพื่อนๆมาเยี่ยมที่บ้าน ตัวเองก็รู้สึกประทับใจ เนื่องจากปกติตัวเองจะอยู่กับแม่ และลูกสาวโดยจะไม่ค่อยได้เจอเพื่อนมากเท่าไหร่ ส่วนสาเหตุที่ต้องมาใช้รถวีลแชร์ เนื่องจากเมื่อ 9ปีที่แล้วหลังจากกลับจากทำงานได้ซ้อนรถจักรยานยนต์เพื่อนเพื่อจะกลับบ้าน แต่ช่วงที่กำลังลง ถูกรถกระบะที่วิ่งมาข้างๆเฉี่ยวชน จนเป็นสาเหตุที่มำให้ต้องมาใช้รถวีลแชร์ และในวันนี้ขอบคุณเพื่อนๆที่เดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจ

ผู้สื่อข่าว:วิรวินท์ ศรีโหมด