ตร.คุมเข้มจัดงานเคาท์ดาวน์ 119แห่งใช้เทคโนโลยีเต็มรูปแบบเปลี่ยนกล้องAIเชื่อมโยงฐานข้อมูล ดูแลประชาชน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมซักซ้อมการปฏิบัติในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2569 โดยมี พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร./โฆษก ตร. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ ร่วมประชุม ณ ห้องศรียานนท์ อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทางระบบการประชุมทางไกล

พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า ตามที่ ผบ.ตร.ได้กำหนดมาตรการป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่ที่มีการจัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2569 ซึ่งแต่ละพื้นที่อาจมีช่วงเวลาในการจัดกิจกรรมไม่ตรงกัน เพื่อให้สามารถรองรับในช่วงวันหยุดยาวดังกล่าวให้สอดคล้องและเหมาะสมกับพื้นที่และสถานการณ์มากที่สุด และเพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่ผู้ไม่หวังดี อาจถือโอกาสก่อความไม่สงบ หรือก่ออาชญากรรมในราชอาณาจักร จึงกำชับให้ทุกหน่วยดำเนินการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ และจุดสกัด ป้องกันอาชญากรรม และเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจ เฝ้าระวัง จนถึงวันที่ 16 มกราคม 2569

ได้กำชับตำรวจทุกหน่วยทั่วประเทศเตรียมความพร้อม 100% ป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่ที่มีการจัดกิจกรรมช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2569 หรือกิจกรรมเคาท์ดาวน์ และกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี รวมถึงแผนเผชิญเหตุกรณีเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ หรือความแออัดของประชากร

สถานที่จัดกิจกรรมขนาดใหญ่ หรือพื้นที่ที่มีประชาชนเข้าร่วมตั้งแต่ 5,000 คนขึ้นไป

สถานที่ขนาดกลาง หรือพื้นที่ที่มีประชาชนเข้าร่วม 1,000 – 5,000 คน

สถานที่ขนาดเล็ก หรือพื้นที่ที่มีประชาชนเข้าร่วมน้อยกว่า 1,000 คน

โดยเน้นจุดเฝ้าระวังพิเศษในสถานที่จัดงานที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญ และเป็นพื้นที่เปิด มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

ในปีนี้พบว่ามีสถานที่จัดกิจกรรมเคาท์ดาวน์ขนาดใหญ่ทั่วประเทศ จำนวน 119 แห่ง โดยในกรุงเทพมหานครมีสถานที่จัดงานขนาดใหญ่ จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, ถนนข้าวสาร, เอเชียทีค, ราชมังคลากีฬาสถาน, วันแบงค็อก และ ไอคอนสยาม

พล.ต.อ.ธัชชัยฯ ย้ำว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเฉพาะวันจัดงานเคาท์ดาวน์กำชับทุกพื้นที่

1.ผู้บังคับบัญชาต้องอยู่ในพื้นที่เพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด

2.ต้องบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.หากเกิดเหตุต้องแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที

4.เน้นการปรากฏกายของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีความชัดเจน

รวมทั้งได้สั่งการให้พื้นที่ต่าง ๆ ใช้เทคโนโลยีเปลี่ยนจากกล้องวงจรปิดธรรมดาให้เป็นกล้อง AI พื้นที่ใดที่ยังไม่มีความพร้อมให้เชื่อมระบบกับตำรวจภูธรภาค 6 ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องในการใช้งาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน